CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    :::.........พระภูริทัต.......ตอนที่ ๕........:::

    redrose

    ตอนที่ ๑
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4523044/W4523044.html#13

    ตอนที่ ๒
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4539482/W4539482.html

    ตอนที่ ๓
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4563032/W4563032.html#10

    ตอนที่ ๔
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4588269/W4588269.html#3


                                  leaf         leaf         leaf



            อาลัมพายน์เห็นพระภูริทัตนาคราชก็ดีใจ   มิได้สนใจไยดีอะไรกับแก้วมณี  เห็นว่าไม่มีค่าเหมือนดั่งเส้นหญ้า    พอเมื่อพราหมณ์เนสาททวงถามเอาแก้วมณีนั้นก็โยนไปให้บอกว่า เอาไปเถิดพราหมณ์

            แก้วมณีก็พลัดหล่นจากมือพราหมณ์เนสาทซึ่งไม่อาจรับไว้ได้ดี ตกลงสู่พื้นดิน   พอตกถึงพื้นดินก็จมธรณีลงไปยังนาคพิภพทันใด    พราหมณ์เนสาทก็สูญสลายจากสิ่งสูงค่าถึง ๓ ประการพร้อมๆ กันบัดนั้น

            คือสูญมณีวิเศษ   สูญมิตรภาพกับพระนาคราช  แล้วยังสูญเสียบุตรชายคือโสมทัตไปตลอดกาลนาน   ได้แต่ร้องไห้เสียดาย  รำพันไปว่าเพราะไม่เชื่อบุตรชายแท้เทียว ถึงหมดที่พึ่งพาอาศัยเห็นปานนี้    โศกเศร้ามือเปล่ากลับไปยังเรือนตน

            ฝ่ายอาลัมพายน์ รีบทาร่างตนด้วยโอสถทิพย์   ทั้งเคี้ยวกินส่วนหนึ่งแล้วประพรมกายส่วนหนึ่ง   ร่ายมนต์ป้องกันตนแล้วจึงเข้าไปหาพระโพธิสัตว์   จับหางคร่าลงมาจากจอมปลวก   จับศีรษะไว้มั่นเปิดปากพระภูริทัต  บ้วนยาทิพย์ที่ตนเคี้ยวใส่พร้อมน้ำลายเข้าไปในปากพระองค์    พญานาคผู้เป็นขัตติยชาติอันสะอาดละเอียดอ่อน   ไม่โกรธไม่ยอมลืมเนตรกลัวแต่ศีลของตนจะขาดทำลาย

            อาลัมพายน์ก็ใช้ทั้งยาและมนต์จับหางพระโพธิสัตว์หิ้วขึ้น ให้ศีรษะห้อยลงเบื้องล่าง  เขย่าให้สำรอกอาหารที่มีอยู่ออก    วางลงให้นอนเหยียดยาวบนพื้นดิน  เหยียบย่ำพระกายด้วยเท้า  เหมือนคนนวดถั่ว   เจ็บปวดราวกระดูกของพระองค์จะแหลกลงเป็นจุณ   จับหางพระองค์ขึ้นให้พระเศียรห้อยลงอีก   ฟาดลงครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนคนฟาดผ้า

            พระภูริทัตเสวยทุกขเวทนาถึงปานนั้นก็ไม่ทรงโกรธเลย


      yellowroseอาลัมพายน์ร่ายป้อง           โปรยมนต์
    ทาทิพย์โอสถจน                   ทั่วแล้ว
    ครบครันปกปิดตน               ตามเวทย์
    จึงอาจต้องนาคแผ้ว               พิษพ้นภัยพาน



            หมองูอาลัมพายน์เมื่อทำร้ายพระองค์ให้ถอยพระกำลังดังนั้นแล้ว   จึงเอาเถาวัลย์มาถักขึ้นเป็นกะโปรง    จับพระนาคราชใส่ขังไว้ในกะโปรงนั้น   หากแต่พระกายของพระองค์ใหญ่ เข้าไปในกะโปรงนั้นไม่ได้    อาลัมพายน์จึงใช้ส้นเท้าดันพระองค์จนเข้าไป    

            เมื่อพันธนาการพระนาคราชแล้วก็พาแบกเที่ยวไป ถึงในหมู่บ้านหนึ่ง    นำพระองค์ลงวางไว้ ณ ลานกลางหมู่บ้าน    ร้องป่าวประกาศแก่ชาวชนว่า   ผู้ใดใคร่ชมการฟ้อนรำของนาคก็จงมาดูเถิด

            ชาวบ้านทั้งหลายตื่นใจพากันมาล้อมดูจนหมดสิ้น   เมื่ออาลัมพายน์เห็นคนมาพร้อมกันดังนั้นแล้วก็สั่งพระภูริทัตว่า   มหานาค  เจ้าจงออกมา

            ก็อาลัมพายน์นั้นบอกพระโพธิสัตว์ว่า  หากได้ทรัพย์ด้วยพระองค์สักพันหนึ่งแล้วจะปล่อยพระองค์ไป

            พระภูริทัตดำริว่า   ครั้งนี้เราควรแสดงให้หมู่ชนชื่นชอบ   เมื่ออาลัมพายน์ได้ทรัพย์มากๆ แล้วคงยินดีพอใจด้วยเรา เมื่อได้สมตามปรารถนาของตนแล้วก็คงจะปล่อยเราไป    ดังนั้นเราควรทำตามที่หมองูผู้นี้บอก    เช่นนั้นเมื่ออาลัมพายน์สั่งให้ทำสิ่งใดพระองค์ก็ทรงทำสิ่งนั้นตามคำ

            อาลัมพายน์นำพระองค์ออกจากกะโปรงเถาวัลย์ สั่งว่า   เจ้าจงทำตัวให้ใหญ่    พระโพธิสัตว์ก็ทรงเนรมิตพระกายใหญ่    อาลัมพายน์บอกให้ทำตัวเล็ก   พระองค์ก็เนรมิตกายเล็ก    มิว่าอาลัมพายน์จะสั่งให้พระองค์ขดกาย   คลายขนด   แผ่พังพาน ๑ พังพาน   ๒ พังพาน   ๓  ๔  ๕  ๖  ๗  ๘  ๙  ๑๐  ๒๐  ๓๐  ไปจนถึง  ๑๐๐ พังพาน     ให้สูง  ให้ต่ำ   ให้เห็นตัว  ให้หายตัว  หรือให้เห็นเพียงครึ่งตัว    ให้มีสีเขียว   สีเหลือง  สีแดง  สีขาว   สีหงสบาท    ให้พ่นเปลวไฟ   พ่นน้ำ   พ่นควัน   พระองค์ก็ทรงนิรมิตกายเป็นเช่นดังนั้นทุกอย่าง    ทุกผู้คนเมื่อได้เห็นพระองค์แล้วย่อมไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้เลย

            นาคมีฤทธานุภาพถึงเพียงนี้หนอ   มาถูกพราหมณ์ทรมานกักขังไว้ได้   พวกเราจงพากันอนุเคราะห์นาคนั้น     ต่างพากันให้สิ่งของต่างๆ  เงินทอง  ผ้า อาภรณ์เครื่องประดับมากมายด้วยความสงสารเวทนา

            อาลัมพายน์ได้ทรัพย์วันนั้นถึงประมาณพันหนึ่งเทียว   แลทั้งที่ได้บอกว่าจักปล่อยแล้วก็ไม่ปล่อย   ด้วยความโลภคิดว่า แม้ในหมู่บ้านเล็กน้อยยังได้ทรัพย์สินตั้งมากมายปานนี้   ในคามนิคมใหญ่จะได้ทรัพย์สักปานไหน

            เขาเริ่มตั้งตนเป็นผู้ร่ำรวยด้วยทรัพย์ก้อนแรกนี้   สั่งให้นายช่างทำกะโปรงแก้ว ใส่พระภูริทัตไว้ในกะโปรงแก้วนั้น   ซื้อหายานและบริวาร  เดินทางเที่ยวไปแสดงตามหมู่บ้าน นิคมต่างๆ เรื่อยไป  จนใกล้จะถึงกรุงพาราณสี

            แต่อาลัมพายน์นั้น  ตั้งแต่ได้พระภูริทัตมาก็มิได้ให้น้ำผึ้งและข้าวตอกแก่พระองค์เลย   ฆ่าแต่กบเขียดให้กิน   พระองค์ก็มิได้เสวย  มิได้รับอาหาร   พระองค์กลัวแต่ว่าอาลัมพายน์จะไม่ปล่อยตนไป  ไม่ยอมเสวยเลย

            อาลัมพายน์บังคับให้พระองค์เล่นในหมู่บ้านทุกแห่งที่ไปถึง  และหมู่บ้านใกล้ประตูเมืองทั้ง ๔ ด้านนั้นด้วย    ครั้นถึงวันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ   พราหมณ์ร้ายก็ขอให้พวกราชบุรุษกราบทูลพระราชาแห่งพาราณสีว่า  จะนำนาคไปแสดงถวายพระองค์

            พระเจ้าพาราณสีทรงรับแล้ว  รับสั่งให้ตีกลองร้องประกาศพวกพสกนิกรมาประชุมพร้อมกันเพื่อชมการแสดงของพญานาค  ณ  พระลานหลวง    ซึ่งโดยรอบนั้นก็ได้ทำที่นั่งชมลดหลั่นกันจนสูงหลายชั้น เพื่อชนเป็นจำนวนมากที่จะมาแล้ว



                                                leaf        จบอาลัมพายน์กัณฑ์        leaf


    ------------------------------------------------------------------
    เรารักในหลวง4 ผู้เรียบเรียง ศรีสุรางค์ สงวนลิขสิทธิ์
    กะโปรง – ภาชนะเย็บด้วยกาบหมาก หรือใบไม้ ใช้ใส่ของต่างๆ

    จากคุณ : ศรีสุรางค์ - [ 9 ส.ค. 49 10:40:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com