มองดูฟ้า ก่อกลุ่มเมฆ แทบเอนล้ม
ฟังเสียงลม แว่วกระซิบ วิบวามไหว
หวิวหวีดตึง ลมพัดโบก กรรโชกไป
หมู่ไม้เอน เอี้ยวเลี้ยว ตามเกลียวลม
พอผ่านกาล เวลา ไปสักพัก
หยดน้ำหนัก จากน้ำ ก็ถ่าโถม
หยดลงดิน หยาดกระจาย เป็นสายโคลน
เช่นดั่งโดน คนขยี้ บีบหัวใจ
มองธารา ไหลเอื่อย สุดแสนเศร้า
เปรียบเหมือนเรา เดินทาง หาจุดหมาย
ไหลเรื่อยไป ไม่รู้สิ้น จนวันตาย
ก็คลับคล้าย การเดินทาง ของผู้คน
มองขุนเขา แข็งกล้า มิหวาดหวั่น
ทุกวานวัน ยืนมาดมั่น มิไปไหน
จะเข้มแข็ง มั่นคง ตลอดไป
อยากให้ใจ ของคนเป็น เช่นหินชัน
ฟังเสียงนก ขับขาน ในยามเช้า
แก้วนกเขา การเวก เสียงสววรค์
เสียงจิบจอก ขันกรู สุดจำนรร
ฟังแล้วพลัน รื่นฤดี มิรู้คราย
อยู่กับมวล ธรรมชาติ พาลให้คิด
ทุกชีวิต อยู่กับมัน มิไปไหน
คนรวยจน มั่งมี ไม่ว่าใคร
เวลาตาย ร่างสลาย กลายเป็นดิน
วันที่ 14 สิงหาคม 2549
จากคุณ :
ขนมปังน้ำแข็งใส
- [
14 ส.ค. 49 22:08:53
]