ร่างบางที่นั่งจดเลกเชอร์อย่างเอาจริงเอาจังเป็นอันต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกได้ถึงวัตถุบางอย่างที่มากระทบแผ่นหลัง อันฌิสาหันไปมองด้านหลังก็พบกลุ่มนักศึกษาชายประมาณ 4-5 คนนั่งมองมาด้วยสายตาแทะโลม หญิงสาวก้มลงไปมองที่พื้น ปรากฏว่ามีเศษกระดาษใบเล็กๆถูกพับไว้เป็นอย่างดีนอนสงบนิ่งอยู่ตรงปลายเท้า เมื่อเปิดอ่านภายในก็เห็นข้อความไม่เป็นระเบียบนัก
น่ารักจังเลย มีเบอร์ป่ะ
คนน่ารักยื่นกระดาษให้เพื่อนที่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นดูบ้าง ปลายฟ้าอ่านแล้วหัวเราะชอบใจก่อนจะขอกระดาษแผ่นเล็กมาเขียนอะไรยุกยิก สักพักก็ปาส่งกลับไปให้หนุ่มๆที่นั่งอยู่ถัดไปอีก 2-3 แถว (พฤติกรรมนี้ไม่ควรเลียนแบบนะคะ แต่สามารถแอบทำได้ถ้าอาจารย์ท่านไม่เห็นค่ะ อิอิ) ซึ่งพอได้รับก็รีบเปิดอ่านกันทันที แต่หลังจากกวาดสายตาอ่านตัวอักษรทั้งหมดแล้วต่างก็จ๋อยสนิท เมื่อตัวหนังสือเล็กๆที่ตอบกลับมามีใจความว่า
เบอร์ 38 ค่ะ จะรับสักกี่ข้างดีคะ
โอ้ย ฮ่าฮ่า สะใจจริงจริ๊ง เสียดายจังที่แก้วกะศิไม่เห็น ไอ้พวกนั้นนะ ซีดแล้วซีดอีก ซีดจนเหลืองเลย ฮ่าๆๆ ปลายฟ้าหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ จนคนฟังที่นั่งรุมล้อมพลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามไปด้วย
พอแล้วฟ้า จะขำอะไรนักหนาเนี่ย อ่ะๆ ยังไม่เลิกขำ เดี๋ยวก็หุบปากไม่ลงหรอก อันฌิสาปรามเพื่อนสาวที่ตอนนี้เหมือนจะเบรกแตกไม่สนใจสายตา(ที่มองมา)ของใครทั้งสิ้น
แล้วไงต่ออ่ะฟ้า โห่ คิดๆแล้วก็เสียดาย น่าจะเก็บไว้ให้เพื่อนสักคนสองคน แก้วกานดาทำท่าเสียดายจนออกนอกหน้า
อ้าวแกอยากได้เหรอ ได้ๆเดี๋ยววันศุกร์เจอแล้วจะบอกให้ แต่ถ้าพามาให้เห็นแล้วอย่าตะลึงนะ
หล่อสุดๆ ? ศศิตาอุทานด้วยตาที่โตเกือบเท่าไข่ห่าน
อือ แต่เป็นหล่อน้องๆโจรนะ ศิยังอยากเห็นมั้ยล่ะ ปลายฟ้าส่งยิ้มสยองขวัญให้ ศศิตาเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ เลิกสนใจประเด็นหนุ่มโสดในฝันกันไปโดยปริยาย
--------- Aunshisa Type ----------
อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะเข้าสู่เช้าวันใหม่ แต่ฉันก็ยังคงพลิกไปพลิกมาเพราะข่มตาให้หลับไม่ได้ซักที ดูเหมือนพักนี้ชีวิตฉันจะมีแต่เรื่องยุ่งๆอีรุงตุงนังจนมึนไปหมด เรื่องแปลกอย่างแรกก็คือเพื่อนสนิทของฉัน...ยัยฟ้า ปกติยัยนี่ก็จะร่าเริง เฮฮาปาร์ตี้ไปวันวัน แต่อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาเป็นการเป็นงาน แถมพูดอะไรแต่ละอย่างก็เข้าใจยากซะเหลือเกิน แล้วก็อีกเรื่อง...ซึ่งความจริงแล้วเป็น(ตัวปัญหา)สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ฉันกระสับกระส่ายอยู่แบบนี้ เดากันถูกใช่มั้ยคะ....ถูกค่ะ...นายดนัยณัฐ!!! ผู้ชายเพียงคนเดียวที่พักหลังมานี้ชอบเข้ามาป้วนเปี้ยนในความคิด(และหัวใจ) ของฉันบ่อยๆ คนที่ทั้งก่อกวน ชอบแกล้ง ชอบอำ แต่บางเวลาก็ทำตัวน่ารักได้อย่างร้ายกาจ คนที่ชอบพูดให้คิดแต่แล้วก็ไม่เคยทำอะไรให้มันชัดเจนซักทีคนนั้นนั่นแหละ
โอ้ยยย ไมฟิมันยากหยั่งงี้เนี่ย หัวจะระเบิดอยู่แล้ว นี่เป็นเสียงบ่นจากใครไปไม่ได้นอกจากยัยฟ้า สาวจอมโวยวายที่สุดในกลุ่ม แต่จะว่าไปเรื่องนี้ฉันขอไม่ขัดนะคะ เพราะฟิสิกส์เนี่ยยากแล้วก็เป็นวิชาที่พวกฉันไม่ถนัดกันเอาซะเลยจริงๆ
ถ้าออกข้อสอบเรื่องโปรเจกไทล์นะ เจ๊กอย่างฉันยอมให้ถูกส้อมจิ้มตายเลยดีกว่า และนี่ก็เป็นผู้สนับสนุนอีกคนของกลุ่ม แก้วกานดา จะมีก็แต่ศศิตานั่นแหละที่ดูจะไม่เดือดร้อนที่สุด (แน่ล่ะสิยะ ก็หล่อนมันเด็กทุนนี่--ปลายฟ้า) กลุ่มของฉันก็มีกันอยู่แค่ 4 สาวนี่แหละค่ะ แต่ถ้าให้นับจริงๆแล้วก็มีพวกผู้ชายอีก 3 คน ปกติเราก็จะเรียนเป็นกลุ่ม พอถึงเวลาพักก็จะมาอยู่รวมกัน และนี่ก็กำลังเป็นปัญหาที่หนักใจที่สุดของฉันในเวลานี้ค่ะ
อิ้ง วันนี้อยากกินน้ำอะไร เดี๋ยวดิวไปซื้อให้ ดิวถามฉันขณะที่เดินสวนกันระหว่างไปซื้อข้าว ปกติที่คณะของฉันจะขายน้ำแบบเป็นกระติกเพื่อเป็นการลดจำนวนขยะจากแก้วพลาสติก และก็เกือบทุกครั้งที่ดิวจะเป็นคนซื้อน้ำให้ตลอด (โดยไม่ยอมให้ฉันจ่ายเงินคืนด้วย) ซึ่งถ้าจะถามเหตุผล ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ไม่เป็นไรดิว แก้วซื้อน้ำเขียวไปแล้ว ดิวอยากกินน้ำอะไรก็ซื้อเลยแล้วกัน ฉันบอกพร้อมกับขอตัวเดินกลับไปที่โต๊ะซึ่งพวกฟ้ารออยู่ ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ด้วยกันฉันถึงต้องกลายร่างเป็นนางยักษ์ทุกที ทั้งๆที่ความจริงฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย
อิ้ง ไปว่าอะไรดิวมันอีกล่ะ ดูดิ เดินทำหน้าเป็นหมาหงอยเชียว ฟ้าถามฉันขณะที่เราอยู่ในห้องน้ำด้วยกันสองคน ยัยนี่เซ้นส์แรงค่ะ ฉันการันตีเลย เพราะไม่ว่าในกลุ่มมีเรื่องอะไร she จะรู้เป็นคนแรก
เปล่านี่ แล้วทำไมแกต้องคิดว่าฉันทำล่ะ ฉันบอกเสียงเรียบๆอย่างไม่ให้ผิดสังเกตุ แต่คิดเหรอคะว่าจะพ้นหูพ้นตายัยนี่ไปได้ (- -)
อิ้ง ฉันเป็นเพื่อนแกนะเว้ย มีอะไรก็บอกฉันได้ แกก็รู้นี่ว่าดิวมันคิดกับแกยังไง ฟ้าคงทนไม่ไหวเลยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาในที่สุด ทั้งๆที่ฉันรู้อยู่แล้วว่ายัยนี่คงรู้ แต่พอเอาเข้าจริงฉันเองก็อดตกใจกับประโยคนี้ไม่ได้
แกไม่เข้าใจ ฉันเคยบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันเป็นไปไม่ได้ ดิวไม่ได้คิดอะไรกับฉัน และฉันก็แค่ทำไปเพราะอาจจะรำคาญ ฉันขี้หงุดหงิด แกก็รู้ ฉันพูดรัวยาวและตัดบทลงอย่างที่ยัยฟ้ารู้ว่า ถึงจะพูดอะไรออกมาฉันก็คงไม่ฟังทั้งนั้น เราสองคนออกจากห้องน้ำด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนเข้าไปอย่างสิ้นเชิง
เคยมีคนบอกกับฉันว่า เพื่อนกับแฟนแทนที่กันไม่ได้ ฟังดูอาจเหมือนประโยคน้ำเน่าคลาสสิค แต่รู้มั้ยคะ มีคู่รักไม่กี่คู่หรอกที่เมื่อเลิกกันแล้วยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้อีก ฉันว่ามันทำใจยากนะ ก็คงเหมือนกับการแอบรักเพื่อนสนิทนั่นแหละ (ถ้าเคยมีชะตากรรมเดียวกันคงจะเข้าใจอารมณ์นี้ดีนะคะ) เมื่อทางเลือกมันมีอยู่สองทาง ถ้าคุณบอกไป....แล้วเค้าคนนั้นก็คิดเหมือนกับคุณ...ยินดีด้วยค่ะ เพราะนั่นแสดงว่าความกล้าหาญทั้งหมดที่คุณรวบรวมไปบอกเค้ามันคุ้มค่าจริงๆ แต่คนทุกคนใช่ว่าจะสมหวังในรักเสมอไปนี่คะ ถ้าในทางกลับกันมันจะเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เราต้องเสียเค้าไปอย่างถาวรเลยก็ได้ แล้วถ้าเป็นคุณคุณจะบอกเค้ามั้ยคะ.....อืม แต่ถ้าเป็นฉัน....ที่บังเอิญไม่ใช่คนกล้าหาญ ฉันขอเลือกที่จะรักษาความเป็นเพื่อนไว้ เพราะฉันแน่ใจว่ามิตรภาพของความเป็นเพื่อนจะคงอยู่อย่างยั่งยืนที่สุด
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ หายหน้าไปนานมากๆ หวังว่าคงยังไม่ลืมกันนะคะ สำหรับตอนนี้เป็นครึ่งหลังของตอนที่ 5 เลยอาจจะสั้นไปนิด แต่ตอนหน้าจะต่อให้ยาวกว่าเดิมค่ะ พบกันตอนหน้านะคะ
จากคุณ :
Snow_PuFF
- [
19 ส.ค. 49 13:16:40
]