ผมคิดว่า วันนี้สวยกว่าวานนี้..และทรงคุณค่ามากกว่าพรุ่งนี้.....
เมย์
ท่ามกลางความเงียบงัน...ฉันได้ยินลมหายใจของเขา
เมย์ตื่นนอนแล้วล่ะ...
ฉันรู้ได้จากเสียงผ้าเสียดสีกันจากการขยับตัวของเขา ฉันวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเดินไปหยุดยืนมองเขาเงียบๆครู่หนึ่งก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ฉันค้อมตัวลงไปใกล้ๆเขาด้วยหวังว่าลมหายใจที่มีกลิ่นไวน์แหวกว่ายแทรกผสมอยู่ของฉันอาจช่วยเรียกร้องความสนใจให้เมย์ลืมตาขึ้น
แต่ฉันก็คิดผิด....เขายังคงนอนนิ่งอยู่ในท่าเหยียดยาวอย่างสบายๆเหมือนเดิม ผิวขาวของเขาเรื่อชมพูขึ้นอย่างน่ามองเมื่อต้องแสงแดดอ่อนยามเช้า ใบหน้าสวยของเมย์เปี่ยมสุข ดวงตาของเขาแม้จะหลับสนิทแต่ก็คล้ายกับยิ้มได้ ปากรูปกระจับสีแดงเรื่อของเขาไม่หมดรอยยิ้มมาตั้งแต่รู้สึกตัวแล้ว ฉันยกมือขึ้นแตะใบหน้าของเมย์ เขาเบียดใบหน้าของเขาซบกับฝ่ามือของฉันอย่างเคลิบเคลิ้ม...เมย์กำลังคิดถึง...ฉันรู้
ทุกหน่วยความทรงจำอันแสนสุขที่รำลึกได้นั้นของเขา...ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวฉัน....ความรู้สึกเจ็บร้าวข้างในทำให้มือของฉันสั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
อรุณสวัสดิ์ เมย์กระซิบผ่านปากสีสวยของเขา
ผมยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม เขายิ้ม
ค่ะ ฉันตอบแผ่วเบา
ดีจังที่ยังอยู่ในวันนี้ เมย์ถอนใจแล้วลืมตาขึ้น เขามองฉันเต็มตาเนิ่นนานแล้วลุกขึ้น
คุณสวยจังแพร อือ.....ขอบคุณนะที่อยู่กับผมเสมอ เมย์ยิ้มกว้างแล้วดึงฉันเข้าไปกอดช้าๆเขาซุกหน้ากับผมของฉัน ฉันพยายามฝืนตัวเองไว้ไม่ให้ตอบรับอ้อมกอดของเขา แต่หัวใจของฉันเต้นแรง น้ำตาของฉันก็กำลังจะไหล....จะทำอย่างไรได้ อยากปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาด แต่ให้ตายเถอะ....
ฉันช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้เลย คอของฉันเหมือนมีก้อนใหญ่ๆตีบคับอยู่มันทำให้ฉันหายใจไม่ออก ฉันดิ้นรนเพื่อที่จะปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นจากความยากลำบากอันนี้....แล้วฉันต้องหลับตาลงอย่างอ่อนใจปล่อยให้น้ำตาโจนตัวลงไล้แก้ม ความตั้งใจของฉันพังพินาศลงไปแล้ว..เมื่อฉันตอบรับเมย์ด้วยวงแขนที่กระชับแน่นรอบคอของเขา หัวใจของฉันเจ็บตึงราวกับเป็นตะคริวจากความจริงที่แสนเย็นชากับชีวิตฉัน..ความจริงที่ว่า...เขาเป็นผู้ชายของคนอื่น...โธ่เอ๋ย!ทำไมหนอ ทั้งที่ฉันพบเขาก่อนใคร...
เมย์ออกไปข้างนอกตอนสาย ในมือเขามีกุหลาบขาวช่อใหญ่ที่ฉันแอบมองมันด้วยความรู้สึกเหงาๆติดไปด้วย ก่อนที่จะก้าวพ้นประตูออกไปเขาหันมาบอกฉันด้วยคำง่ายๆเหมือนทุกครั้งว่า ไปล่ะนะ และทุกครั้งที่ได้ยินฉันก็มักจะมีอาการทางประสาทวูบวาบนิดๆคิดว่าเขาอาจไม่กลับมาอีก....เพราะเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เราต่างต้องสะเทือนใจ
เขาไม่ได้กลับหาฉัน ฉันเอนตัวพิงขอบหน้าต่างแล้วทิ้งสายตาออกไปไกล ตึกสูงๆตรงๆทื่อๆนอกหน้าต่างนั่นไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากฉันได้หรอก มันทำหน้าที่อย่างดีที่สุดก็แค่ฆ่าเวลาให้กับรอยต่อของความทรงจำของฉันเท่านั้น.. ไม่รู้สิว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ฉันต้องประหวั่นกับการรอคอยที่อาจเป็นหมัน ก็แค่ประหวั่น ไม่ได้พรั่นพรึงเหมือนเมื่อก่อน อาจเพราะกาลเวลาได้ค่อยๆปรับความเข้าใจให้กับหัวใจฉันได้เรียนรู้วันละน้อยจนมันสามารถซึมซับไว้อย่างซาบซึ้งว่าความรักถ้าไม่มีใจใครก็บังคับไม่ได้
ทุกวันนี้ฉันเลยไม่เคยหวังอะไรไปมากกว่า ให้เขากลับมาหาฉัน อยู่กับฉันเท่านั้นก็พอ...หัวใจของเขาน่ะเหรอ?...ปล่อยมันไปเถอะ ได้แค่ตัวก็ได้..ไม่เป็นไร...
ฉันมองท้องฟ้าที่เป็นสีฟ้าเข้มสดแล้วคิดถึงวันนั้น วันที่ฉันอยากรัก..รักใครสักคน รักอย่างหมดหัวใจ รักแบบไม่ต้องมีเงื่อนไขใดๆ ความรู้สึกนั้นมันเกิดขึ้นราวกับความฝันภายใต้ท้องฟ้าสีสวยเหมือนวันนี้ ในกาแฟในร้านเล็กๆร้านที่จัดแต่งเอาความทันสมัยมารวมกับความคลาสสิคได้ลงตัวอย่างน่ารักน่าชัง ในบรรยากาศที่สงบภายในร้านมีเพลงคลาสสิคคลอเบาๆอยู่ตลอด กลิ่นหอมของกาแฟบราซิลแท้ๆประสานความลงตัวไปกับแสงแดดอ่อนที่ทอดเข้าทางหน้าต่างทำให้ความเครียดจากการเรียนของฉันสลายหายไปในอากาศ
เสียงกรุ๋งกริ๋-งจากการกระทบกันของช้อนชามหรือถ้วยนั้นน่ะฟังเหมือนเครื่องดนตรีที่เคาะจังหวะรับกับเสียงเพลง ลมหายใจของฉันผ่อนคลายและเป็นสุขเมื่อได้ยิน หัวใจของฉันในเวลานั้นว่างเปล่าไม่มีความรักไม่มีความหลังใดๆฝังตัวอยู่ทุกอณูในหัวใจ ฉันเป็นปกติดีทุกอย่าง แต่แล้วฉันก็รู้ตัวว่านี่คงเป็นวินาทีสุดท้ายแล้วที่ฉันจะรู้สึกแบบนั้น....บริกรหนุ่มอาร์ทที่กำลังยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างนั่นทำให้ฉันอ้ำอึ้งไปพักใหญ่ การลอบมองเขาอย่างจริงจังทำให้ หัวใจของฉันราวกับมีคลื่นแม่เหล็กเล็กๆคอยก่อกวน ใบหน้าที่ขาวซีดและคมคายของเขามีเสน่ห์น่ามอง ผมดำสนิทราวกับนิลที่ยาวแค่คอนั้นเขารวบมันง่ายๆไว้ด้านหลัง แต่ยังมีปอยผมประปรายหลุดลุ่ยอยู่เล็กน้อยอยู่ข้างใบหน้า สีหน้านั้นแม้เรียบเฉยราวกับปูนปั้นแต่ก็ไม่ทำให้ความสวยงามของเขาน้อยลง......ไม่มีอะไรในใจของฉันเหมือนเดิมอีกแล้ว
เติมกาแฟอีกไหมครับ? เสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนของเมย์ทำให้ฉันสะดุ้งนิดหน่อยไม่นึกว่าเขาจะมาปรากฎตัวตรงหน้าเร็วเช่นนี้ ฉันเลิ่กลั่กพยักหน้า เขายิ้มให้ฉันแล้วค่อยๆรินกาแฟลงในถ้วยตรงหน้า รอยยิ้มของเขาเป็นมากกว่าภาพที่น่าประทับใจยามที่มองนะ เพราะมันทำให้ความรู้สึกของฉันฟูลอยได้ ไม่รู้ว่าแววตาของฉันบอกอะไรเขาไปมากแค่ไหน เขาถึงตัดสินใจลากเก้าอี้ใกล้ตัวมานั่งและเปิดบทสนทนากับฉัน จากการพูดคุยทำให้ฉันได้รู้ว่าเขาเป็นเจ้าของร้านนี้ไม่ใช่บริกรอย่างที่ฉันหรือคนอื่นเข้าใจ
ใครๆก็เรียกผมว่าบริกรทั้งนั้นครับ ผมดูอ่อนวัยเกินกว่าจะเป็นเถ้าแก่ ทำไงได้กับกับนักศึกษาปีสี่ที่มีกิจการเป็นของตัวเองแล้ว เขาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ฉันเพลิดเพลินไปกับการได้จ้องมองเขา...เมย์หยุดหัวเราะดื้อๆเมื่อสบตากับฉัน ใบหน้าสวยของเขาช่างตรึงใจฉันนัก...
เราสองคนไม่ยอมเสียไปกับการเดาความหมายในใจมากนัก เมื่อฉันเริ่มยิ้มอีกครั้ง เมย์ก็ยิ้ม ดวงตาของเราทั้งสองเป็นประกาย ทว่า...เราไม่ได้คิดในเรื่องเดียวกัน ฉันคิดว่าฉันรักเมย์....ส่วนเขาคิดว่าฉัน...ไม่รู้สิฉันเดาไม่ออกหรอก
แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 49 07:57:29
แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 49 14:43:17
จากคุณ :
vannessia
- [
21 ส.ค. 49 13:56:36
]