http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4526916/W4526916.html
ตอนที่แล้ว
===========
ตอนที่ 8
แสงสว่างจากไฟบนเวทียกสูงเตี้ย ๆ ประดับประดาด้วยกองฟางเป็นฉากหลัง มีต้นกล้วยเป็นม่านข้างเวที ด้านหน้าดอกไม้สีสวยเรียงสลับตัดกันอย่างงดงาม บนเวทีกำลังมีการแสดงจากเด็กตัวน้อย แต่งชุดไทยทัดดอกไม้ ใบหน้าใสไม่ต้องพอกทาเครื่องสำอางค์ใด ๆ แค่นี้ก็น่ารักน่ามองแล้ว ประกอบกับการรำด้วยความพร้อมเพรียง ท่ารำแปลกตาสะกดคนดูด้านล่างให้มองด้วยความชื่นชม ลูกใครหลานใครก็จ้องกันตาแป๋ว มีเสียงปรบมือคอยให้กำลังใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นคนแก่ ต้องคอยลุ้นกันหน่อยว่าจะร้องเพลงจบหรือเปล่า ทีมยาดมยาหม่องต้องเตรียมพร้อม เสียงดนตรีแบบพื้นบ้านดังเป็นจังหวะง่าย ๆ อย่างชาวบ้าน เรียกเสียงโห่เสียงฮาสนุกสนานเป็นระยะ
หลานสาวเจ้าของไร่นั่งอยู่บนกองฟางหนานุ่ม มองการแสดงบนเวที จริง ๆ เธอไม่ได้ชอบดนตรีพื้นบ้าน เพราะเติบโตมาในเมืองแห่งแสงสีเสียง ดนตรีสตริงแบบสากล หลงไหลเสียงกลองดังกระหึ่มราวกับตีรัวอยู่ในหัวใจ ครั่งไคร้เสียงกีต้าใส ๆ เสียงเปียนโนซึ้ง ๆ มากกว่า แต่ที่เธอนั่งชมการแสดงทุกรายการเพราะอยากให้กำลังใจคนที่ขึ้นมาแสดงมากกว่า อย่างน้อยเขาก็ตั้งใจมามอบความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับทุกคน แม้เธอจะไม่ขำ ไม่ตลก เพราะภาษาพื้นบ้านที่ไม่ค่อยเข้าใจ โชคดีที่ผู้จัดการหนุ่มจะคอยแปลให้อยู่ข้าง ๆ ตลอด ทำให้พอรู้เรื่องรู้ราวกับเขาบ้าง และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ผู้จัดการไร่ตะเกียงไพร
สิ่งที่หลานสาวเจ้าของไร่ประทับใจที่สุดคือ และเฝ้ามองอย่างตื่นตาตื่นใจ เมื่อการเล่นดนตรีไทยเป็นทำนองเพลงฮิตฮอตที่ดังระเบิดเถิดเทิงอยู่ในขณะนั้น ทึ่งในฝีมือของเด็ก ๆ ชาวบ้านที่เข้าใจประยุกต์
อยู่ ๆ ไฟบนเวทีก็ดับพรึ่บลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
สงสัยไฟไม่พอ ที่นี่เราปั่นไฟเอง อีกสักครู่คงจะมาครับ
คุณหนูตะเกียงถือโอกาสเอนตัวพิงกองฟางทางด้านหลัง สายตาจับจ้องมองม่านราตรีกาลสีนิลประดับประดาด้วยแสงระยิบระยับจากดวงดาวนับล้านดวง เด็กสาวนอนมองดวงดาวอย่างสบายใจ ลมพัดเย็นสบาย
ดาวสวยจังเลยระบิล ฉันชอบจังเลย
สักพักไฟก็มาตามที่เขาบอก
คุณตะเกีย
ง ครับ
เขาหันไปเรียกหลานสาวเจ้าของไร่ แต่ทว่าเธอกลับผล็อยหลับเงียบสนิท ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังได้ยินเสียงใส ๆ พูดคุยกันอยู่ดีดี มองใบหน้าสาวน้อยเวลาหลับเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่น่าจะเอาแต่ใจเลยซักนิด เขาไม่ปลุกเธอ ปล่อยให้หลับ เธอเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้ว
ระบิลมองเธอด้วยสายตาชื่นชม เด็กสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ อดทนตากแดดฟาดข้าวอยู่ได้ยังไงทั้งวัน ไม่มีบ่นซักคำ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน และจะไม่ทำก็ย่อมได้ แถมทนทำอยู่จนเสร็จเรียบร้อย เธอคงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไม่น้อยเลย เลือดความมุมานะ ความอดทนของเธอ ไม่แตกต่างจากเจ้าของไร่ตะเกียงไพรแม้แต่น้อย ผู้บุกเบิกพลิกพื้นดินแตกระแหงให้กลับขึ้นมามีชีวิตเป็นสีเขียวจนทุกวันนี้
เสียงกลองรัวอยู่บนเวที เมื่อถึงรายการสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจ ตื่นเต้นไปตาม ๆ กันกับนาทีลุ้นระทึก เมื่อพิธีกรล้วงลงไปในกล่องสี่เหลี่ยมเพื่อจับฉลากคนที่จะขึ้นมาร้องเพลง หรือพูดคุยกันตามประสาพี่ ๆ น้อง ๆ เสียงเฮตบมือดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อชื่อบุคคลที่ถูกจับได้ เป็นชื่อของผู้จัดการไร่ตะเกียงไพร เสียงพิธีกรเรียนเชิญ นาย ของพวกเขามาขึ้นเวที
ระบิลขยับตัวลุกขึ้น เดินไปขึ้นเวที หัวใจเต้นรัวอยู่ข้างใน แต่มาดของเขายังคงรักษาความเคร่งขรึมได้ดี
คุณหนูตะเกียงขยับตัว ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เมื่อได้ยินเสียงตบมือดังติดต่อกันเป็นเวลานานจากเหล่าคนงาน หยีตามองแสงไฟสว่าง ก่อนค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้น มองชายหนุ่มข้างตัว ไม่เห็นเขา
เขาไปไหนนะ?
แล้ว
เสียงใคร
กำลังพูดอยู่บนเวที คุ้น ๆ แฮะ
คนบางคนชีวิตช่างยากช่างเย็นเหลือเกิน
เดินกันไปไม่เคยจะได้ดี
แต่ตัวเราเองยังหวังด้วยพลังที่มี
จึงทำความดีไม่เคยจะท้อใจ
ท่อนแรกของเพลง สักวันต้องได้ดี ของ เต๋อ เรวัต พุทธินันท์ ทำให้เธอต้องรีบย้ายสายตามองบนเวทีอย่างสนใจ เพราะได้ยินแต่เพลงพื้นบ้านมานานแล้ว รู้สึกอึ้ง! แปลกใจสุด ๆ เมื่อเห็นนักร้องบนเวทีเป็นใคร? แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะได้เห็น ได้ยิน นายระบิล ร้องเพลง
มาดขรึม ๆ อย่างนั้น ร้องเพลงเป็นกับเขาด้วยแฮะ
อย่างน้อยสิ่งที่เรานั้นทำลงไป
ไม่คิดอะไรก็แค่ภูมิใจที่เป็นคนดี
อย่างน้อยก็บอกตัวเองหนทางยังมี
แม้ว่าวันนี้มันช่างโหดร้าย
ก็ยังคงทำดีไม่เคยหวั่น รู้ว่าสักวัน ... ต้องได้ดี
คนบางคนบางครั้งต้องทุกข์ต้องทนก็มี
แต่คนดีดีไม่มีวันแพ้ภัย
กาลเวลาเท่านั้นที่ช่วยให้เราเข้าใจ
ลงเอยยังไงก็คงจะรู้เอง
เมื่อเพลงนั้นจบลงเสียงตบมือเกรียวกราวดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับเสียงตบมือให้กำลังใจนะครับ อยากขอเป็นกำลังใจให้พวกเราทุกคน ทำดีต่อไป ขอให้ทำดีโดยไม่ต้องหวังว่าสักวันต้องได้ดี แต่ทำดี เพราะเป็นความดีที่เราควรทำ ขอบคุณที่ช่วยกันทำงาน หนักเอาเบาสู้กันมาตลอด ผลิตอาหารดี ราคาถูกสู่ประชาชน ขอบคุณอีกครั้งครับ
ครับที่จบลงไปนั้นเป็นปาถกฐาของผู้จัดการไร่ตะเกียงไพรของเรานะครับผม เราต้องขอคืนผู้จัดการให้กับคุณหนูตะเกียงที่นั่งอยู่ด้านล่างก่อนนะครับ
เสียงฮาดังขึ้น พร้อมด้วยเสียงตบมือชอบอกชอบใจ
ระบิลหันไปจ้องพิธีกรด้วยสายตาปรามอยู่ในที
ขอโทษครับนาย แค่มองด้วยสายตาก็กลัวแล้วครับ งานนี้สงสัยกระผมคงต้องโดนตัดเงินเดือน แต่ไม่เป็นไรครับ เพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทุกคน ผมยอม
เสียงปรบมือเกรียว โห่ฮาอย่างมีความสุข บนใบหน้าของทุกคนมีแต่รอยยิ้มแห่งความสุขสนุกสนาน
หลานสาวเจ้าของไร่อมยิ้มมองผู้จัดการไร่ตะเกียงไพรอย่างทึ่ง คำพูดแต่ละคำของเขา ความคิด การกระทำ ทำให้ต้องมองเขาด้วยสายตาแห่งความชื่นชม เปี่ยมด้วยศรัทธา คนงานไร่ตะเกียงไพรคงรู้สึกไม่แตกต่างจากเธอ เธอเชื่อมั่นอย่างนั้น
ระบิล นายร้องเพลงเป็นด้วยหรอ พอผู้จัดการไร่เดินกลับมาถึง หลานสาวเจ้าของไร่ก็ไม่วายส่งเสียงล้อเลียน จริง ๆ เธอตั้งใจจะชมเขาว่า ร้องเพลงได้ดี พูดดีต่างหาก แต่ไหงปากกลับหาเรื่องพูดอะไรออกไปอย่างนั้น
ก็เป็นเท่าที่เห็นละครับ ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ ไม่กล้าหันไปมองหน้าสาวน้อย กลัวว่าจะอดใจเขกกะบาลเธอไม่ได้ พยายามเอาสายตาไปจดจ้องอยู่บนเวทีอย่างไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
เด็กสาวหน้าจ๋อยลงทันที ไม่รู้ว่าพูดผิดหรือถูก ทำให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า ที่เห็นอาการเฉยเมยอย่างนั้น
นี่
ระบิล
เธอเรียกชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ แต่ทว่า เขาไม่ยอมตอบซักคำ
นี่ๆ คุณหนูตะเกียงเอาเศษฟางสะกิดแขนเขาเบา ๆ
เฮ้ย
แค่นี้เอง โกรธเหรอ ฉันล้อเล่นน้า
พลางขยับตัวเข้าไปใกล้ ทำเสียงอ้อน
จริง ๆ นายร้องเพลงดีนะ ยังไงก็คงดีกว่าฉันล่ะน่า
ชายหนุ่มหันกลับมามอง
คิดมาก
.ผมไม่ได้เป็นไรซะหน่อย
อยากเขกกะบาลคนที่นั่งข้าง ๆ จริง ๆ เล้ย!!
แน่นะ เด็กสาวทำหน้างง ๆ ตกลงเขาอารมณ์ไหนกันแน่
ครับ
งั้นยิ้มหน่อยสิ
ชายหนุ่มมองหน้าหลานสาวเจ้าของไร่ที่กำลังทำหน้าตาฉีกยิ้มเป็นตัวอย่างให้เขาทำตาม ดูแล้วตลกอดขำเธอไม่ได้ เขายิ้มให้กับความสดใสร่าเริงของเธอ สาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างกายคนนี้อาจจะขี้หงุดหงิดขี้โวยวาย แต่ไม่นานเธอก็หาย ร่าเริงเหมือนเดิม
ทำดีต้องได้ดีจริงเหรอ ระบิล หลานสาวเจ้าของไร่เอ่ยถามอย่างนึกสงสัย
คุณตะเกียงไม่เชื่อเรื่องกรรมหรือครับ
อืม
ก็ไม่เชิงนะ เพียงแต่เห็นคนทำดีแล้วไม่ได้ดีมีถมไป คนชั่วก็ยังมีอำนาจลอยนวล กอบโกยผลประโยชน์จากประเทศชาติได้อยู่น่ะ
ถ้าคุณตะเกียงเชื่อเรื่องกรรม ผมอยากบอกว่า เพราะเขาเคยทำดีมาก่อน ตอนนี้ผลบุญของกรรมดียังส่งผลให้เจริญรุ่งเรืองอยู่ เขาจึงยังได้ดีอยู่ เมื่อบุญหมด และวิบากกรรมตามทัน ถึงตอนนั้น ไม่ว่า เขาจะทำดีสักแค่ไหน ก็ไม่มีใครช่วย และจะมีแต่คนกลั่นแกล้งทำลายล้าง ถึงเวลานั้น เขาต้องชดใช้สิ่งที่ทำเลวทั้งหมด เพียงแต่เวลาส่งผลต่างกัน เวลาเราเกิดเป็นคน มีโอกาสทำดี มีฐานะ เราก็กลับหลงระเริง ทำแต่สิ่งไม่ดี เราจะมาทำดีตอนบาปกรรมมันตามสนอง ทำอย่างไรก็ทำไม่ขึ้นอยู่ดีแหละครับ เขาอธิบายพลางจ้องหน้าคนถามอย่างพยายามค้นหาว่าเธอเชื่อและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่
ผมอยากให้คุณเชื่อ ทำดีต้องได้ดี แต่ไม่อยากให้คุณทำเพราะหวังว่าจะต้องได้ดี แต่ทำเพราะความดีเป็นสิ่งที่เราควรกระทำ เขาเน้นถ้อยคำทุกพยางค์อย่างชัดเจน
เด็กสาวยิ้มให้แทนคำตอบที่อยู่ในใจว่าเธอเชื่อเขาหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ เธอชอบคำพูด ชอบความคิดของผู้ชายคนนี้เหลือเกิน
===============
แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 49 00:11:37
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
23 ส.ค. 49 00:09:27
]