CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    :::.........พระภูริทัต.......ตอนที่ ๗........:::

    redrose

    ตอนที่ ๑
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4523044/W4523044.html#13

    ตอนที่ ๒
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4539482/W4539482.html

    ตอนที่ ๓
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4563032/W4563032.html#10

    ตอนที่ ๔
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4588269/W4588269.html#3

    ตอนที่ ๕
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4607870/W4607870.html

    ตอนที่ ๖
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4626190/W4626190.html


                                  leaf         leaf         leaf




            สุทัสสนะทูลว่า   เทวะ  ถ้าเช่นนั้นขอพระองค์จงรับสั่งให้ราชบุรุษขุดบ่อ ๓ บ่อเรียงต่อกัน ณ ที่แห่งนี้   บ่อแรกบรรจุเต็มด้วยเครื่องยาต่างๆ  บ่อที่ ๒ บรรจุ โคมัย   ส่วนบ่อที่ ๓ บรรจุโอสถทิพย์    พระเจ้ากาสีรับสั่งให้ขุดบ่อแล้ว  เติมเต็มด้วยสิ่งที่พระสุทัสสนะต้องประสงค์ทั้งสิ้นพร้อม

            พระสุทัสสนะก็เทพิษทั้ง ๓ หยาดลงในบ่อที่ ๑   บัดนั้นก็บังเกิดควันไฟคลุ้งลุกขึ้นเป็นเปลวใหญ่  เลยลามไปจับบ่อโคมัย  แล้วลุกลามไปต่อถึงบ่อยาทิพย์   ไหม้ทิพย์โอสถในบ่อที่ ๓ นั้นจนหมดจึงดับลง

            อาลัมพายน์ยืนดูอยู่ใกล้บ่อที่ ๓  ถูกไอควันพิษที่ลุกไหม้ฉาบผิวร่างของเขาลอกออก  กลายเป็นโรคเรื้อนด่าง   อาลัมพายน์ตกใจกลัว  ทั้งเดชแห่งพิษอันคุกคามตน  แล้วยิ่งยินสุทัสสนะเอ่ยนามท้าวธตรฐนาคราช  รู้ตนว่าอาจต่อกรอยู่กับพระภาคิไนยพระเจ้าอยู่หัวด้วยซ้ำ  สิ้นความทะนง ร้องขึ้น ๓ หนว่า  ข้าพเจ้าปล่อยนาคราชแล้ว ๆ ๆ

            พระโพธิสัตว์สดับคำพราหมณ์ จึงเสด็จออกจากกะโปรงแก้ว  นิรมิตพระวรกายคืนรูปเทวบุตรอันประดับรัตนาภรณ์พร้อมแล้ว  ประทับเคียงข้างพระเชษฐา  พระน้องนางอัจจิมุขีก็กลับคืนร่างเทพดรุณี ถวายบังคมพระบรมราชาแห่งพาราณสีด้วย

            เมื่อนั้นพระภาคิไนยผู้พี่ทูลถามพระเจ้ากาสีว่า  มหาราช  พระองค์ทรงทราบหรือไม่ว่า ข้าพระองค์ทั้ง ๓ นี้คือบุตร บุตรีของผู้ใด

            พระปิ่นภพตรัสตอบว่ามิทรงทราบ

            สุทัสสนะจึงทูลว่า   ถ้าเช่นนั้นยังทรงระลึกได้ถึงความที่ราชธิดาสมุททชาในกาลก่อนโน้น อภิเษกสู่นาคพิภพกับท้าวธตรฐพระจอมนาคหรือไม่เล่าพระเจ้าข้า

            พระภูธรรับว่า  ระลึกได้  พ่อดาบส  สมุททชาคือขนิษฐาแห่งเรา

            พระสุทัสสนะก็ว่า  ราชะ  ข้าพระองค์ทั้ง ๒ นี้คือบุตรของพระนางสมุททชา  แลกนิษฐนารีนี้ก็เป็นบุตรีแห่งท้าวธตรฐ  พระองค์เป็นพระมาตุลาของข้าพระองค์

            พระเจ้าสาครพรหมทัตได้ฟังก็ทรงโสมนัสยิ่ง  สวมกอดจุมพิตพระหลานทั้ง ๓  ทรงกันแสงด้วยความปลาบปลื้มพระทัย   นำราชภาคิไนยทั้งสามขึ้นสู่ปราสาท   ต้อนรับด้วยสิ่งอันควรเป็นอันมาก  ทรงปฏิสันถาร  ทรงถามว่า  พ่อภูริทัต   พ่อสูงด้วยเดชานุภาพถึงเพียงนี้  ไฉนพราหมณ์อาลัมพายน์จึงจับพ่อมากักขังไว้ได้เล่า

            พระภูริทัตทูลเล่าเรื่องราวแต่ต้นมาถวายโดยละเอียด  ถึงการที่พระองค์ทรงศีล  ทรงอธิษฐานอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๔  นั้นดุจดั่งทรงสละได้ซึ่งพระชนม์ชีพ   แม้ว่าจะต้องทุกข์ทรมานเพราะการนำไปตามใจของผู้มา ก็จักไม่พิโรธ  ไม่ห้ามหวงตน  มิให้ศีลขาดทำลายเลย

            ที่จริงแล้วด้วยอานุภาพแห่งพระองค์  หากทรงต้องการ จะเสด็จไปจากพราหมณ์ร้ายเมื่อไรย่อมได้    แต่ตั้งพระทัยปวารณาพระกายตามแต่ผู้มาจะปรารถนาไว้ก่อนแล้ว   ย่อมมั่นในเจตน์จำนงของพระองค์   จนอาลัมพายน์พอใจ ยินดีปล่อยพระองค์เองจึงจะเสด็จจากมา

            มิใช่ปวารณาแม้เนื้อเลือดของตนให้ใครๆ ก็ได้ แล้วครั้นเขามาเอาก็กลับใจไปจาก  ไม่ให้ดั่งที่ตั้งใจไว้

            ทรงอธิษฐานสิ่งอันทรงคุณค่าเป็นที่หวงแหนเช่นเลือดเนื้อแลชีวิตนี้เพราะเหตุอันยิ่งใหญ่คือยศแห่งเทพราชา ณ สรวงสวรรค์และพระโพธิญาณ ซึ่งแสนยากสำหรับมนุษย์ธรรมดาจะได้ในภายหน้าจึงได้ทรงทำดังนี้

            จากนั้นทรงแสดงธรรมกถาถวายแด่พระเจ้าลุงให้ทรงรัชสมบัติโดยธรรม


            ครั้นแล้วพระสุทัสสนะก็กราบบังคมทูลว่า   เป็นเวลาสมควรแล้วพระมาตุลาเจ้า  ข้าพระองค์ทั้ง ๓ จักต้องรีบทูลลา  ด้วยเหตุว่าพระมารดายังทรงทุกข์โทมนัสนัก  ป่านนี้คงระทมพระทัยคอยที่จะได้เห็นเหล่าข้าพระองค์ทั้ง ๓ กลับไปเฝ้าโดยปลอดภัยโดยเร็ว

            พระนฤบดีทรงทราบถึงการที่พระนางสมุททชาจะเป็นห่วงกังวลจึงทรงอนุญาต   ตรัสว่า   ดีแล้วเจ้าทั้งสามมิควรอยู่ช้า   แต่ว่า  ลุงเองก็อยากจะได้พบกับแม่เจ้าบ้าง  เราจากกันนานเต็มทีแล้ว   เจ้าเห็นควรอย่างไรบ้าง

            พระสุทัสสนะก็ทูลถามว่า   ข้าแต่พระองค์  ก็บัดนี้พระอัยกาของข้าพระองค์เสด็จอยู่แห่งใดพระเจ้าข้า

            ตรัสตอบว่า  หลานเอย  พระเจ้าตาของพวกเจ้านั้นทรงช้ำชอกพระทัยเพราะเหล่านาคมามากนัก ตั้งแต่พระราชทานน้องสมุททชาไปยังภพนาคแล้ว ก็มิอาจครองราชสมบัติ  ละราชนิเวศน์เสด็จสู่พนาสณฑ์ทรงผนวชเสียแล้ว

            พระเชษฐภาดาทูลว่า  ข้าแต่พระมาตุลา  พระมารดาของข้าพระองค์ก็ประสงค์จะพบพระองค์และพระอัยกาธิราชเจ้าด้วย   ทรงกำหนดวันแล้ว  ข้าพระองค์จะอัญเชิญพระแม่เจ้าไปเฝ้าพระบาทที่อาศรมแห่งพระอัยกา  พวกเราจักพบกันพร้อมทุกพระองค์ดีไหมพระเจ้าข้า

            พระเจ้าพาราณสีเห็นควรเช่นนั้น จึงทรงกำหนดวันนัดแล้ว  พระภาคิไนยทั้ง ๓ ก็ทูลลา ลงจากราชนิเวศน์   พระสาครพรหมทัตส่งพระภาคิไนยแล้ว ทรงกันแสงเสด็จกลับ   นาคราชทั้ง ๓ ก็แทรกแผ่นดินลงสู่นาคพิภพ ณ ที่นั้น



                                   leaf      จบนาคคเวสนกัณฑ์       leaf




    **********************************************
    ดอกไม้ ผู้เรียบเรียง ศรีสุรางค์ สงวนลิขสิทธิ์
    ปวารณา – ยอมให้ขอ  ยอมให้ใช้  ยอมให้ว่ากล่าว

    แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 49 09:18:43

    จากคุณ : ศรีสุรางค์ - [ 23 ส.ค. 49 09:16:53 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com