Re-write ครั้งที่ 2 - 08/09/2006
เนื่องจากเป็นนิยายดังนั้น ไม่คิดว่าไม่ควรจะระบุพาดพิงชื่อตำบล อำเภอ จังหวัด หรือประเทศใดๆ
Re-write ครั้งที่ 1 - 30/08/2006
หลังจากที่เอาไปให้คนสนิทอ่านแล้วไม่ผ่านต้องมาผูกปมเรื่องใหม่เจ้าค่ะ
ตอน ลำนำแห่งพรหมลิขิตฯ " *^~*-.,_,.-* .. คนของพรหมลิขิต ..*-.,_,.-*~^* "
ผู้ชายคนหนึ่งคิดว่า เพียงแค่มีคนรักอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว
ผู้หญิงคนหนึ่งคิดว่า การแสดงออกซึ่งความรักเป็นสิ่งสำคัญต่อการอยู่รอดของคำว่า "ความรัก"
เมื่อเขาและเธอมาเจอกัน
รักกัน รักกันมากๆด้วย
แต่กลับไม่มีความสุขกับ "คำว่ารัก (มากๆด้วย) " ที่มีให้กัน
ยิ่งเมื่อเธอรักเขามากเท่าไร
ตัวเธอก็ยิ่งเป็นทุกข์ลงทุกวัน
ยิ่งเขารักเธอมากเท่าไร
เธอก็ยิ่งเงียบและซึมเศร้าลงทุกที
......
เมื่อวันแรกที่ได้พบกัน
รอยยิ้มแรกของเธอทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้สดใสขึ้นมาอีกครั้ง
เขาชอบรอยยิ้มของเธอ ...
ชอบจนอยากที่จะอยู่กับรอยยิ้มนั้นไปจนตลอดชีวิต
.......
วันแรกที่ฉันเจอเขา เขาเป็นผู้ชายปกติทั่วไป ที่มีท่าทีเฉยๆ นิ่งๆ
แต่ด้วยดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขา ประกอบกับท่าทางที่ดูภูมิฐาน เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง
แต่เธอแอบเห็นว่าเขาก็แอบมองเธออยู่บ่อยครั้ง แต่ก็แค่แอบมองมาเท่านั้น
..........
เวลาผ่านไป ๓ เดือน
เธอกับเขาได้พบกันอีกครั้ง ระหว่างที่เธอนั่งคู่กับเจ้าหน้าที่ต้อนรับ หน้าห้องสัมมนา เนื่องจากงานนี้บริษัทของเธอรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานต้อนรับร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมผู้ประกอบการแห่งประเทศทายาระ
เขามากับรอยยิ้มที่เป็นมิตร ฟันขาวเรียงสวยสะดุดตา ทำให้เสน่ห์ของเขาเพิ่มขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเต็มไปด้วยประกายแห่งความปิติยินดีอย่างเปิดเผยมากขึ้น แวบนึงจนทำให้เป้ยแอบเขินไปเลย
ประโยคแรกที่เธอคนนั้นได้ยินจากปากหนุ่มขี้เก๊กในครั้งแรกที่เจอกันก้อคือ
"สวัสดีครับ ผมชื่อพิพัฒน์ เจริญวัฒนพานิช จาก เจ.วี.พี กรุ๊ป" และเขาก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อย เพื่อแสดงการทักทาย และสายตาของเขาที่จ้องมองมาทำให้เป้ยรู้สึกว่าโลกหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
"สวัสดีค่ะ ชื่อคุณอยู่ตรงนี้ค่ะ รบกวนลงชื่อที่ช่องสุดท้ายด้วยนะคะ" เสียงของเจ้าหน้าที่ข้างๆ ทำให้ทั้งสองคนตื่นจากพะวัง
พิพัฒน์ก้มลงเช็นต์ชื่อตนเองลงในสมุดลงทะเบียน และเงยขึ้นมามองเป้ยอีกครั้ง
"ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าการสัมมนาเริ่มหรือยังครับ" สายตาของเขาเหมือนต้องการคำตอบจากหญิงสาวตรงหน้า
"ยังค่ะ เราจะเริ่มงานเวลาประมาณเก้าโมงค่ะ ถ้ายังไงรบกวนนั่งรอสักครู่ทางโซฟาด้านโน่นก็ได้นะคะ" เจ้าหน้าที่คนเดิมชิงตอบพร้อมกับผายมือเชิญเขาไปที่โซฟาตัวไม่ไกลจากโต๊ะลงทะเบียนนัก
"ขอบคุณครับ" เขาหันไปยิ้มเล็กน้อยอย่างเป็นมิตรกับเจ้าหน้าที่คนนั้น
"นี่เป็นเอกสารประกอบการสัมมนาในครั้งนี้ ลองอ่านดูระหว่างที่นั่งรอก็ได้นะคะ มีหัวข้อหลายอย่างที่น่าสนใจทีเดียว" เป้ยยื่นเอกสารหนึ่งชุดพร้อมอธิบายเสียงใสและใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
"ขอบคุณครับ คุณ ....."
"ปานวาด จาก บีซีแอล คอนซัลแทนต์ เซอร์วิส จำกัด" เธอยื่นมือให้เขาเพื่อแสดงการทักทาย แต่ชายหนุ่มมัวแต่ยืนเหวอนิ่ง กับรอยยิ้มของเป้ยจนไม่ได้ยื่นมือออกมารับมือของเธอ จนกระทั่งเธอหดมือกลับพร้อมรอยยิ้มที่หายไปจากใบหน้ารูปไข่ได้รูปนั้น
"เอ่อ ขอโทษครับ ผมพิพัฒน์ จาก เจ.วี.พี กรุ๊ป" เขายื่นมือเพื่อจับมือหญิงสาว แต่สิ่งที่ได้รับคือการไหว้พร้อมก้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างสวยงาม และเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น ซึ่งเล่นเอาเขาเหวอไปอีกรอบพร้อมคิดในใจว่า ภายใต้รอยยิ้มหวานนี้ ผู้หญิงคนนี้กวนประสาทไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
"คุณปานวาด พอจะมีเวลาไหมครับ" คำถามของเขาเล่นเอาสาวเป้ย งง ว่าหนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหน เพราะความสดใสน่ารักของเป้ย ทำให้มีคนเข้าหาเธอแบบนี้ค่อนข้างเยอะ แต่เธอก็สามารถที่จะบอกปัดได้อย่างนิ่มนวลเสมอ
"ทำไมเหรอคะ" ซึ่งเป้ยก็อยากรู้ว่าหนุ่มคนนี้จะหาเหตุอะไรมาชวนเธอคุย
"ตอนนี้ผมมีโปรเจคใหม่ เลยอยากทราบว่า บีซีแอล พอช่วยคอนซัลฯ งานผมได้หรือเปล่า เผื่อกลับไปเราจะได้มีโอกาสร่วมงานกัน" สีหน้าขรึมจริงจังของเขา เล่นเอาหัวใจของเป้ยเต้นเร็วกว่าปกติ จนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
"เอ่อ.. ค่ะ" โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ชวนสาวคุยด้วยเรื่องงาน ได้แบบที่เธอเองก็ไม่อาจจะปฎิเสธได้ ด้วยความที่ เจ.วี.พี กรุ๊ป เป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่บริษัทของเธอจ้องอยากที่จะได้งานไว้ในมืออยู่แล้ว เพราะนั่นหมายถึงผลงานชิ้นใหญ่และชื่อเสียงของบริษัทขนาดเล็กของเธอ
"งั้นเชิญที่โซฟาด้านโน้นดีไหมครับ" และเขาก็เดินนำไปโดยที่ไม่รอคำตอบของเธอสักคำ ซึ่งเธอก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ก็เลยจำใจต้องเดินตามเพื่องานชิ้นโตที่เธอหวังไว้
"คุณปาดวาดครับ อืม ไม่ทราบว่าคุณมีชื่อเล่นที่เรียกง่ายๆ ไหมครับ" น้ำเสียงของเขาเหมือนกับว่าชื่อของเธอมันเรียกยากเสียเหลือเกิน
"ต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่แน่ใจว่า "เป้ย" นี่ถือว่าเป็นชื่อที่เรียกง่ายๆ หรือเปล่าค่ะ" เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและยังคงรอยยิ้มไว้เหมือนเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ลืมว่าเธอแอบเหน็บเขาเล็กๆ เหมือนกัน
(ยังมีต่อที่ "ความคิดเห็นที่ 6" นะคะ)
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 49 18:24:37
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 49 18:17:01
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 49 08:14:19
แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 49 08:13:07
แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 49 13:01:18
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ย. 49 21:17:08