CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


         ผีเสื้อกระพือปีก     

         กล่าวกันว่าในปี พ.ศ. 1961 นักอุตุนิยมวิทยาคนหนึ่ง ได้ทำการคิดสูตรทางคณิตศาสตร์อันซับซ้อน เพื่อหาทางทำนายการเกิดพายุ เมื่อคำนวณค่าตัวแปรต่างๆ ในครั้งแรกเสร็จแล้ว การคำนวณครั้งต่อมา เพื่อความรวดเร็วเขาจึงได้ตัวตัวเลขทางทศนิยมของค่าตัวแปรทิ้งไป แล้วเริ่มใส่ข้อมูลต่างๆ ลงในคอมพิวเตอร์เพื่อจำลองผล ซึ่งทำให้เขาได้พบบางสิ่ง

         บางสิ่งนั้นไม่ใช่สูตรทำนายผลของพายุที่แน่นอน หากแต่เป็นความฉงนงงงวยอย่างยิ่งยวด ค่าตัวแปรเพียงน้อยนิดที่ถูกตัดไป กลับส่งผลกระทบต่อการเกิดพายุใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพียงเปลี่ยนแปลงตัวเลขนิดเดียวผลที่ได้ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จนเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า

    “เพียงผีเสื้อกระพือปีกในบราซิล ก็ทำให้เกิดพายุทอนาโดในเท็กซัสได้”

    หรือเรามักเรียกย่อปรากฏการณ์ที่ส่งผลต่อเนื่องกันเป็นลูกโซ่ว่า butterfly effect

    +++++++++++++++++++

         ชาญชัยไม่คิดหรอกว่าตอนเช้าของวันทำงานอันน่าเบื่อหน่ายนั้น จะมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเกิดขึ้นกับเขา เหมือนเช่นทุกวัน เขามานั่งรอรถโดยสารที่เพิงที่พักนี้ทุกครั้ง ป้ายโฆษณาด้านหลังเปลี่ยนใหม่ทุกเดือน คนหลายคนก็คุ้นหน้า แต่วันนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป ขณะที่เขาก้มหน้าอ่านหนังสือฆ่าเวลาระหว่างที่รอรถ กลิ่นหอมประหลาดก็โชยมาเข้าจมูก

         เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง หญิงสาวคนนี้ไม่คุ้นหน้าเขา เธอมานั่งข้างๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เร่งร้อนในตอนเช้า เธอกลับดูนิ่งสงบอย่างประหลาด ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตาเป็นประกาย ทุกสัดส่วน ทุกกิริยาล้วนดึงดูดใจให้เขาจ้องมองจนไม่อาจละสายตา

         ผู้หญิงหลายคนคิดว่าการโป๊ะหน้าด้วยครีมทาหน้า หรือใส่ลิปสีสวย จะทำให้พวกเธอน่าดูขึ้น เปล่าเลยในความคิดของเขา ผู้หญิงที่ชอบแต่งหน้านั้นไม่ต่างไปจากตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต มันไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งปรุงแต่งยิ่งห่างไกลจากความสวยงาม ‘แข็งและกระด้าง’ เป็นคำที่เขามักพูดในใจเสมอเมื่อพบผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดๆ

         ‘งามบริสุทธิ์‘ เขาเพิ่งจะให้คำนิยามใหม่สำหรับหญิงสาวที่นั่งข้างๆ ยิ่งมองยิ่งชวนให้ลุ่มหลง ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอาง แต่ก็งามตามธรรมติจะปั้นแต่งได้ ปากสีชมพูอ่อน ขนตางอนยาว แก้มที่เปล่งปลั่ง ที่สุดคือดวงตาคู่นั้น ตาประหนึ่งแก้วเจียรไน แวววาวสะท้อนทุกอย่างที่อยู่รอบตัว

         เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่เขาจะรู้ว่าเธอต้องขึ้นรถคันเดียวกับเขา ขณะเดียวกันมันก็ทุกข์อย่างสาหัส เพราะเขาไม่รู้จักเธอ สมองเริ่มคิดความเฉียบคมของวัยหนุ่มช่วยเขาได้ เธอต้องขึ้นรถคันเดียวกับเขา และเขาจะต้องไปนั่งข้างเธอบนรถ จากนั้นก็อาจชวนคุยด้วยท่าทีสุภาพ หรือถ้ามีความกล้าพอเขาก็จะขอเบอร์โทร

    แล้วรถโดยสารก็จอดเทียบท่า

         มีบางอย่างผิดปกติไป ทุกคนรีบขึ้นรถ หากเป็นเช่นวันปกติเขาคงจะรีบกระโจนขึ้นรถเพื่อหาที่นั่งไปแล้ว วันนี้ต่างจากวันอื่น ชาญชัยเกิดความลังเล หญิงสาวข้างเขาไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น เป็นไปได้ว่าเธอรอรถสายอื่น หรือว่ารอนัดพบกับใครสักคน ทางเลือกสำหรับเขามีไม่มากนัก วันนี้ต้องรีบเอางานไปเสนอในที่ประชุมตอนเช้า ไปสายก็ไม่ได้ ชาญชัยได้แต่ถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนจะก้าวขึ้นรถไป

         หญิงสาวมองชายหนุ่มคนนั้นขึ้นรถไป จนรถเริ่มเคลื่อนตัวออกไป เธอจึงยิ้มอย่างมีเลศนัย ดวงตาดำขลับที่ดูใสชื่อบริสุทธิ์เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินสะท้อนแสงขึ้นวาบหนึ่ง หากใครได้มองคงรู้สึกว่านัยน์ตาคู่นั้นดูลี้ลับอย่างบอกไม่ถูก

    “ขอคุยด้วยได้ไหม” น้ำเสียงเคร่งขรึมของผู้ชาย ดังจากเบื้องหลังของหญิงสาว

    “ได้สิคะ” เธอตอบโดยไม่หันกลับไปมอง ราวกับหญิงสาวรู้ว่ามันต้องมา

    +++++++++++++++

         ชายหนุ่มที่เพิ่งขึ้นรถโดยสารไปหลังสุด ความจริงแล้วเขาควรจะขึ้นเป็นคนแรกๆ ซึ่งระหว่างที่ขึ้นไปนั้น ด้วยความรีบเร่งไม่ระวังเขาก็ไปเหยียบเข้ากับเท้าของอันธพาลที่อารมณ์เสียจากการพนันบอล เรื่องราวต่อมาเขาก็จะถูกชกจนสลบ ไม่สามารถไปเสนองานที่บริษัทนี้ได้ งานอีกชิ้นหนึ่งของเพื่อนร่วมงานจึงได้รับเลือกแทน

         บริษัทนำงานนั้นไปให้ผู้ว่าจ้าง เมื่องานเสร็จผลิตออกสู่ตลาด การตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บริษัทจึงหันไปเน้นหนักงานทางด้านอื่นแทน สายการผลิตตรงส่วนนี้ก็ถูกยุบในที่สุด ระหว่างนั้นก็มีบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาบุกตลาดในไทย จากแนวทางการดำเนินการบริษัทต่างประเทศนั้นต้องหาผู้ร่วมทุนที่เป็นบริษัทของคนไทย โดยตามคุณสมบัติแล้วบริษัทของชายหนุ่มคนนั้นก็เป็นหนึ่งในสองทางเลือก แต่เนื่องจากผลดำเนินการล่าสุดไม่ค่อยดีนัก ผลการเลือกในการร่วมทุ่นจึงเป็นของอีกบริษัทหนึ่ง  

    ซึ่งมันทำงานเป็นหัวหน้าแผนกอยู่ที่บริษัทนั้น

    กมล คือชื่อของมัน

         ตั้งแต่เด็กมาแล้ว มันเติบโตอย่างเช่นผู้คนปกติ จนเมื่อเข้าเรียนชั้นมัธยม วันหนึ่งก่อนสอบปลายภาคเรียน หลังจากการเรียนมาหกปี มันเฝ้าพยายามจะแข่งขันกับคนอื่นในห้อง เพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่มันจะสอบได้ที่หนึ่ง ผลการสอบทุกครั้งมันจะได้ที่สอง มีนักเรียนในชั้นคนหนึ่งชื่อโกสนคว้าที่หนึ่งไปได้ตลอด

         เปลือกหน้านั้นมันร่วมแสดงความยินดี แต่ภายใจกลับรู้สึกอิจฉาริษยา ไม่มีทางหรือที่มันจะชนะได้ ไม่มีทางหรือที่มันจะเป็นที่หนึ่ง คำถามผุดขึ้นทุกวัน ยิ่งเข้มข้นรุนแรงไปเรื่อยๆ จนเช้าวันนั้นวันที่เปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมดของมัน

         มันนั่งอยู่หลังโกสนในห้องเรียน ระหว่างเพ่งมองด้วยความโกรธ พลันคนทั้งห้องกลายเป็นเงาสลัว เพียงโกสนที่นั่งหน้าของมันเท่านั้นที่เคลื่อนไหว มันมองเห็นเส้นสายต่อเนื่องที่เคลื่อนไหวไหลเวียนคล้ายภาพถ่ายความเร็วต่ำ ที่เห็นไฟรถเป็นสายตอนกลางคืน นั่นเองมันเข้าใจในบางอย่าง สิ่งนั้นครอบคลุมทางเดินแห่งชีวิต สิ่งนั้นกำหนดชะตา

    “สนวันนี้แกจะไปทานข้าวที่โรงอาหารอีกใช่ไหม” มันกระซิบถาม

    “อืม… ทำไมเหรอ” โกสนตอบกลับและเหลือบมามองมันด้วยความสงสัย

    “นั่นแน่ ไปทานบ่อยแอบชอบลูกสาวของแม่ค้าในโรงอาหารใช่เปล่า” มันทำเสียงล้อเลียน

    “เปล่าซะหน่อย แกอย่ามาพูดมั่วๆ สิวะ” โกสนบ่ายเบี่ยงแต่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

    “น่า จริงหรือเปล่า เราไม่บอกใครหรอก ชอบก็บอกว่าชอบสิ” มันพูดขึ้นอีก

    “ไม่ใช่โว้ย” โกสนตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

         มันไม่พูดซ้ำอีก เพราะสิ่งที่มันมองเห็นได้เปลี่ยนไปแล้ว หลังจากนั้นเรื่องราวก็เกิดขึ้น โกสนโดดรั้วออกนอกโรงเรียนเพื่อไปทานข้าวที่นอกโรงเรียนกับเพื่อนคนอื่นๆ แทนที่จะไปทานในโรงอาหารตามปกติ ระหว่างที่เดินข้ามถนนรถคันหนึ่งก็พุ่งชนเข้าอย่างจัง โกสนตายคาที ในเทอมสุดท้ายมันได้เป็นที่หนึ่งสมใจอยาก

         ตั้งแต่นั้นมา มันก็ใช้ความสามารถพิเศษนี้กรุยทางไปเรื่อยๆ ทั้ง ผู้หญิงและหน้าที่การงาน ทุกอย่างถูกมันควบคุมตามต้องการ อย่างเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ หลังจากมันพบว่าบริษัทที่มันอยู่นั้นจะพลาดการรวมทุนในอนาคต มันก็สร้างความต่อเนื่องของเหตุการณ์ไปเมื่อสามวันก่อน เพื่อหยุดบริษัทคู่แข่ง

         นับแต่วางกระป๋องน้ำอัดลมบนทางเท้า เพื่อให้เมียของอันธพาลนั้นมาเหยียบ พอเมียของอันธพาลมาเหยียบ ก็ล้มลงหัวแตกต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้ไม่มีใครห้ามมันไปเล่นพนันบอลจนเสียพนันไปหลายบาท  สุดท้ายมันก็ไปขอยืมเงินจากเพื่อนเพื่อมาจ่ายหนี้พนัน แต่ถูกด่าทำให้อารมณ์เสีย และมาพบกับชาญชัยที่ทำงานอยู่บริษัทคู่แข่ง และต่อยจนชาญชัยสลบคารถโดยสาร

    แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นที่มันวางเส้นทางเอาไว้

    ใครมาเปลี่ยน

         นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในรอบเดือนนี้ เหตุการณ์ต่อเนื่องที่มันวางแผนเอาไว้ ถูกเบี่ยงเบนไปแล้วห้าครั้ง ทีแรกมันนึกว่าเรื่องราวเกิดความผิดพลาดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ ติดกัน มันจึงรู้ว่ามีคนเข้ามายุ่ง เมื่อสร้างเส้นทางเหตุการณ์ขึ้นมาอีก คราวนี้มันติดต่อผลกระทบต่อเนื่อง เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น จนที่สุดคนที่มาวุ่นวายกับเรื่องของมันก็กำลังนั่งข้างมันอยู่นี่เอง

    หรือผู้หญิงคนนี้มีความสามารถเหมือนกับมัน

    [[อ่านต่อด้านล่างครับ]]

    จากคุณ : egotech - [ 25 ส.ค. 49 04:35:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com