CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ครั้งแรกของความรัก

    “เธออยากเรียนต่อคณะอะไรที่ไหนเหรอ?” อาจารย์แนะแนววางผลการเรียนตรงหน้าผม ผมมองมันเพียงแว่บเดียวแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เมินสายตาออกไปข้างนอก

    “ไม่รู้ครับอีกตั้งนาน” ผมตอบไปงั้นๆ
    “อีกตั้งนาน!? ชนะชัยเธออยู่ม.6 แล้ว ผลการเรียนแย่แบบนี้จะไปต่อมหาวิทยาลัยที่ดีที่ไหนได้ นี่คิดได้แล้วนะว่าจะเอาอย่างไงกับอนาคต” หล่อนถลึงตาใส่ผมจนแทบถลน ผมเพิ่งเห็นว่ารอบๆดวงตาของหล่อนนั้นเต็มไปด้วยริ้วรอยที่บ่งบอกประวัติศาสตร์ได้ แถมถุงใต้ตาของหล่อนก็ใหญ่พอๆกับกระเป๋าหน้าท้องของจิงโจ้

    “อนาคต?” ผมมองหล่อนตาปริบๆเอ....ไม่รู้สิไม่เคยคิดเลย
    “ใช่อนาคตของเธองัย ชนะชัย” เสียงประกาศของหล่อนก้องกังวานทิ่มแทงเข้าไปในขดสมองผมเลยทีเดียว ...โอย...ช่างเป็นฝันที่ทำให้ผมหายใจไม่ออกเลยจริงๆ ผมลืมตาโพลงมองเพดานห้องอย่างเบลอๆครู่ใหญ่ เฮ้อ...หลายวันมานี่หลังจากที่ได้เข้าพบยัยครูแนะแนววัยดึกของโรงเรียนหล่อนก็ทำเอาผมฝันพิการไปเลย......เสียงนาฬิกาปลุกที่เพิ่งดังบอกให้รู้ว่าหกเช้าแล้ว ผมคลานลงจากเตียงด้วยความลำบากยากเย็นด้วยว่าความล้าความอ่อนเปลี้ยได้ทำตัวราวกับปลิงหน้าด้านเกาะติดกล้ามเนื้อทุกส่วนสัดไม่ยอมปล่อย

    แล้วมันก็ทำให้ท่าทางของผมตอนนี้ช่างเหมือนตัวเงินตัวทองเหลือเกิน
         ผมโดดเรียนวันนี้ก็วันที่สี่เข้าไปแล้ว...
    “วันนี้ผมมีนัด” ประโยคนี้วนเวียนไปมาในหัวของผม ราวกับกระรอกติดกับดับแล้วหาทางออกไม่เจอ ใช่แล้ว..มีนัดตลอดสัปดาห์นี้เลย โรงเรียนเลยไม่ได้ไป โธ่ถึงได้ไปแล้วงัย แบบว่าพวกเลขคณิต อังกฤษ สังคม วิทยาศาสตร์ น่ะแค่คิดก็แทบจะกระอักเลือดออกมากองให้อาจารย์ผู้สอนสำนึกแล้วว่าทำชีวิตผมลำบากแค่ไหน ไอ้เจ้าวิชาลากเลือดเนี่ยะทำให้เมื่อยสมองได้อย่างเดียวจริงๆใกล้สิ้นเดือนแบบนี้ก็จ่ายเป็นค่ารถค่าคอนโดจ่อหัวรออยู่ก็ไม่ได้ด้วยเลยไม่รู้จะโผล่หน้าไปเจอกับมันทำไม

    เอาเวลามาทำงานดีกว่า ....เอ้อครับ...ไม่ผิดหรอกครับ งานครับ ผมมีงานทำแล้ว งานของผมเป็นงานบริการครับ ผมให้บริการคนที่เหงาหรือคนที่ไร้หนทางปลดปล่อยด้วยร่างกายและทฤษฎีทางเพศล้วนๆ พูดง่ายๆผมก็คือชายขายบริการนั่นแหละครับ ทำไงได้ผมมันเด็กบ้านนอกอายุแค่สิบเจ็ดไร้ที่พึ่งที่ถูกคนเมืองนี้หล่อหลอมให้ยึดติดอย่างหัวปักปำว่าความฉาบฉวยที่ว่ากันด้วยเงินๆทองๆของสังคมเมืองสวรรค์เมืองนี้คือชีวิตจริง

    ผมต้องดิ้นรนสุดฤทธิ์ให้ได้มาเหมือนๆหรือเท่าๆกับคนที่รายล้อมตัวผมมีและเป็นอยู่ ที่เลือกงานนี้เพราะมันสบายและหาเงินได้ง่ายกว่างานอื่น อาศัยมีหน้าตาดีกับหุ่นทรมานใจ

    แค่นี้พวกมีกิเลสตัณหากับพวกคนหาทางออกให้กับความเศร้า ความเหงาผิดวิธีก็พร้อมเข้ามาหาและจ่ายให้ผมเป็นกอบเป็นกำเพื่อดับความต้องการและความทรมานในจิตใจ ว่าไหมครับ?เป็นงานที่มีแต่ได้กับได้ไม่มีเสียเลยจริงๆคุณค่าความฉลาดหรือความดีอะไรก็ไม่ต้องใช้ ซ้ำยังมีเงินอวดคนรอบตัวเป็นฟ่อน มีคอนโดสุดหรู กับรถยนต์คันโก้ไว้ประดับบารมีอีกด้วย

    แม้ว่ายังต้องผ่อนต้องเช่าก็เถอะ ไหนจะเสื้อผ้ายี่ห้อหรูตรงจากนอก รองเท้ากีฬาเจ็บๆจากค่ายดัง ค่ายา ค่าหญิง ค่าพนันบอล สุดท้ายค่า...ค่า...อือค่า... ค่ากินใช้ ค่าเที่ยว เงินที่ส่งมาจากต่างจังหวัดน่ะมันไม่พอใช้หรอก ชีวิตในเมืองหลวงน่ะแสนแพง พ่อแม่ที่จะรู้อะไร
    ตารางเรียนกับตารางทำงานแปะไว้ข้างๆกัน แต่มันมีความสำคัญไม่เท่ากันหรอกครับ สัปดาห์นี้ยังไม่ได้หันไปมองตารางเรียนเรียนสักแวบ รายชื่อวิชาเรียนน่ะมันทำให้ปวดหัวจี๊ดเลยเวลาเห็น ก็เลยไม่มองมันซะอย่างงั้น สู้อืม....รายชื่อลูกค้าไม่ได้ยิ่งมองยิ่งสบายตาและตื่นเต้น

    วันนี้ผมมีนัด สามนัดในวันเดียวโห...เป็นสถิติที่น่าทึ่งสำหรับตัวเองเหมือนกัน
    10.00 คุณโอ ให้ไปหาที่คอนโดชิดลม ...โอไหนนะเดี๋ยวขอผมนึกก่อน นึกออกนะครับว่าการใช้บริการกับเด็กหนุ่มๆอย่างผมเนี่ยะ รายละเอียดจริงๆน่ะเป็นของต้องห้ามสำหรับลูกค้าเลยล่ะครับ พวกเขาก็เลยรวมใจกันโดยไม่ได้นัดหมายในการใช้รหัสหรือชื่อปลอมกันทั้งนั้น มันก็เลยมีเสมอล่ะครับที่ซ้ำกันบ่อย แต่ผมจะแยกเบอร์โทรออกว่า เป็นใครกันบ้าง

    อ้อเบอร์โทรนี่ผมจำได้แล้ว คุณโอไฮโซสาวใหญ่ใจถึงหน้าบางคนนั้นเอง ที่บอกแบบนั้นก็เพราะว่าหล่อนใจถึงมากๆเรื่องเซ็กซ์ แต่ดันหน้าบางตอนโทรหาเอเย่นของผมหล่อนดันใช้คนอื่นโทรแทน เวลาอยู่กับหล่อนผมต้องอัฟยาช่วยบ้างเหมือนกันเพราะรูปร่างหล่อนน่ะมันเต็มไปด้วยเซลลูไลน์ทุกสัดส่วนเลย ไอ้ความคิดที่ว่ากำลังระเริงรักกับก้อนไขมันกองโตมันทำผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เจ้ายาหลอดแพงก็เลยต้องเข้ามาช่วยด้วยเหตุนี้ แต่ผมก็ชอบหล่อนนะหล่อนทิปหนักดี

    18.00 คุณเจ.เค หนุ่มวัย 27 ที่กำลังหลงทางคนนี้หย่าเมียยังนะ ผมไม่ได้เจอเขามาสองเดือนแล้ว ตอนที่อยู่ด้วยกันครั้งล่าสุดเขาบอกรักเมียเขาและรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ แต่พอบทรักเริ่มคำคร่ำครวญที่ครางออกมาไม่ยักเรียกเมียสักคำ....เจอกันคงต้องถามเสียแล้วว่า รู้หนทางความรักและเซ็กส์ของตัวเองหรือยัง....ก็ผมอยากรู้นี่นา

    24.00 สาวทำงานเอาแต่ใจ ยัยแม๊กกี้ หล่อนอายุ 24 เท่านั้นแต่เก่งสารพัดเรื่องบนเตียง หล่อนทำให้ผมงงงันกับเซ็กส์แปลกใหม่ที่หล่อนเอามาลองกับผมเสมอ หล่อนชอบบงการมากกว่าที่จะอยู่เฉยให้ผมจัดการกับหล่อน ผมเคยถามหล่อนว่าเก่งกาจทั้งงานราษฎ์งานหลวงแบบนี้ทำไมไม่แต่งงานกับใครสักคน

    หล่อนบอกไม่ชอบความจำเจและผมก็ชายบริการคนที่ห้าของหล่อนในเดือนนั้น การที่หล่อนเรียกหาผมอีกนั่นแสดงว่าหล่อนติดใจเรื่องประหลาดที่ผมป้อนให้หล่อนเหมือนกัน แสดงว่างานนี้เราเสมอกัน ปิ๊งป่อง~เอาไปคนละหนึ่งแต้ม

    ผมถอนใจ..เออหนอ.....เดี๋ยวนี้ชายหญิงบอกไม่ได้แล้วว่าใครเสื่อมทรามกว่ากัน

    ผมใช้เวลาแต่งตัวไม่นานก็พร้อมสำหรับนัด ชุดที่เลือกใส่นั้นก็ดูดีหรูหราสมราคาลิบลิ่ว เวลาที่เหลืออีกนิดหน่อยผมใช้ไปกับการสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก....ปลายตาผมสะบัดไปเห็นชุดนักเรียนที่แขวนไว้หน้าตู้...มันยังไม่ได้รีดเลย....

         คอนโดของคุณโอนั้นงดงามอลังการตั้งแต่ชั้นกราวด์จนถึงชั้นสูงสุด การตกแต่งประดับประดาทั้งภายในภายนอกทำได้วิจิตตะการทุกกระเบียดนิ้ว รายละเอียดเหล่านี้สามารถบ่งบอกมาตราฐานชีวิตอันสูงส่งของผู้อาศัยได้เป็นอย่างดี ผมยืนรอลิฟท์ร่วมกับทุกคนอย่างไม่ขัดเขินด้วยว่าการแต่งกายด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีนั้นทำให้ผมมั่นใจที่จะอยู่ท่ามกลางผู้มีอันจะกินพวกนี้ ผมมองกลับทุกคนที่แอบทอดสายตามาให้ผมเพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าผมเปิดโอกาสในการพูดคุยให้เสมอ

    เผื่อวันข้างหน้าเราอาจจะได้ทำธุรกิจกัน อดไม่ได้ครับที่จะแขวนค่าใช้จ่ายเรื่องต่างๆในชีวิตผมไว้กับคอของทุกคนที่ผมส่งสายตาตอบกลับไป แล้วผมก็ปะสายตาเข้ากับเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกับผมโดยบังเอิญ หล่อนทำให้ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านของผมเงียบเสียงลง ท่าทางเอียงอายของหล่อนที่มีตอนที่เราสบตากันนั้นบอกชัดว่าไร้มารยา

    หล่อนมากับพ่อแม่และผู้ติดตามอีกสองคน ผมได้ยินผู้ติดตามพวกนั้นเรียกพ่อของหล่อนว่า “ท่านรัฐมนตรี” เรียกแม่ของหล่อน “คุณหญิง” และเรียกหล่อนว่า “คุณหนู” ครอบครัวของหล่อนดูสนิทสนมกลมเกลียวกันดี มือของหล่อนกำข้อมือของพ่อกับแม่ไว้คนละข้างหลวมๆ

    เสียงพูดคุยในเรื่องสัพเพเหระมีเบาๆไม่ขาดระยะ บทสนทนาที่มีแต่ความอารีอารอบต่อกันแบบนั้นดีเหลือเกินครับ ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่เบาโล่งรู้สึกปลอดโปร่ง

    หล่อนเป็นคนรูปร่างดีมากในชุดติดกันสีครีมผลงานของดีไซเนอร์ระดับโลก สูง ผิวขาวเหมือนงาช้าง ผมยาวถึงกลางหลังนั้นตรงและดำสนิทราวกับนิล เมื่อมองผิวกับผมของหล่อนก็พบว่ามันตัดกันได้อย่างสวยงามมีศิลปะ ดวงตากลมโตของหล่อนกระพริบถี่อย่างน่ารักเมื่อมองมาที่ผมอีกครั้งปากอิ่มแดงเรื่อนั้นตวัดมุมยิ้มน้อยๆ และด้วยท่าทางแบบนั้นผมเดาไม่ยาก หล่อนกำลังพึงใจอยู่

    ภาพสวยงามแบบนี้ทำเอาสิ่งรอบตัวกลายเป็นอัมพาตไปหมดในความรู้สึกของผม แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดเข้ากับสิ่งที่หล่อนใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายใบใสของหล่อน...
    หนังสือเล่มโตหน้าเล่มเขียนว่า “ข้อสอบ En’4...”

    ประตูลิฟท์เปิดทุกคนเข้าไปในลิฟท์กันหมดแล้ว ผมเองก็อยากจะตามหล่อนเข้าไปด้วยแต่เท้ากลับขยับ หล่อนส่งสายตาเหมือนจะถามผมยิ้มน้อยๆแล้วส่ายหน้า แล้วความสวยงามของหล่อนก็หายวับไปจากสายตาทันทีที่ประตูลิฟท์ปิดลง หล่อนจากไปนานแล้วแต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิม สายตาผมก็เอาแต่จับจ้องปลายเท้าร่างกายผมหนักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

    “หล่อนสวยเหลือเกิน สวยกว่าใครที่ผมเคยเจอ ลูกค้าที่ว่าสวยและเร้าใจยังไม่ใช่ในแบบที่หล่อนเป็น” ความรู้นี้นิ่งงันสุดบรรยายราวกับก้อนหินที่กำลังจมดิ่งสู่ก้นแม่น้ำ หัวใจผมบังเกิดเรื่องประหลาดมันพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกดูแคลนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ชอบหล่อนใช่ไหมล่ะ ก็น่าอยู่หรอกนะหล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี สดสวยทั้งร่างกายและภาพพจน์ แล้วยังงามสง่าทั้งชาติตระกูล

    การศึกษาและฐานะ ผู้หญิงอย่างหล่อนควรมีผู้ชายที่เหมาะสมกันในทุกด้าน ผู้ชายที่ดีขาวสะอาดทั้งร่างกายและหัวใจ สุดท้ายเขาควรจะมีอนาคตที่ดีให้หล่อนภูมิใจ งัยล่ะไอ้โง่นายมีอะไรที่ว่านี้บ้างหรือเปล่า?” ผมพิงผนังข้างตัวแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ผมมองไฟบอกชั้นของลิฟท์ที่กำลังกระพริบเปลี่ยนไปมาอย่างเลื่อนลอย.... น่าแปลกที่ผมไม่เห็นค่าใช้จ่ายใดๆแขวนอยู่ที่คอของหล่อน...ตอนที่เราสบตากันผมแค่คิด......จะเป็นอย่างไรถ้าเรามีนัดกันสักวัน......นัดในแบบทีว่าแค่กินข้าว แค่ดูหนัง แค่ฟังเพลง แค่จับมือ แค่สบตา แค่ปล่อยให้หัวใจชื่นชมกันและกันอย่างเขินอาย......และเธอก็ไม่ต้องจ่ายให้ผมสักบาทเมื่อต้องแยกจากกัน.....

    รอยหยักสมองส่วนไหนก็ไม่รู้ของผมเริ่มคิดถึงตารางเรียนวันพรุ่งนี้ คิดถึงการต้องเข้าพบอาจารย์ปกครองที่ขาดเรียนไปหลายวัน ใจผมวาบกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อคิดว่าโรงเรียนอาจไล่ผมออก....ผมภาวนาขอให้อาจารย์จะยังคงให้โอกาสผม....อีกสักครั้ง
    มีเสียงกระซิบที่หาแหล่งที่มาไม่ได้บอกกับหัวใจของผม ที่ผมทำนี้มันคือความผิดพลาด ด้วยวุฒิภาวะอันอ่อนเดียงสาทำให้ผมคิดง่ายเกินไป อาชีพนี้จะกลายเป็นกับดักฆ่าผมหากสักวันมันเป็นเบื้องหลังของผม ถึงจะรายได้งามแต่สักวันก็คงหมดไปพร้อมกับสังขารที่ไม่เอื้ออีก

    ผมอายุเท่านี้คิดเรื่องการใช้เงินก็ยังไม่เป็นนอกจากซื้อความสุขส่วนตัวแล้วอย่างอื่นนึกไม่ออก เงินทองไม่นานก็จะหมดไปแต่ความรู้ความดีที่จะสร้างความสง่าให้ชีวิตไม่มีวันหมดมันติดตัวไปจนตาย พ่อแม่จะคิดอย่างไรจะโกรธจะเกลียด..หรือร้องไห้กับพฤติกรรมแบบนี้ของผมล่ะ นี่เป็นความสงสัยที่น่าหวาดกลัวจริงๆ ในอนาคต....ความต่ำต้อยที่ผมก่อขึ้นจะทำลายตัวผมแน่ๆ อา..ใช่ล่ะ...อนาคตที่อาจารย์ฝ่ายแนะแนวเคยถามถึงงัยล่ะ

    ..แท้จริงแล้วผมเองก็อยากมี นั่นคงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคำถามของอาจารย์แนะแนวถึงกลายเป็นฝันร้ายของผมไป

         นัดของคุณโอกลับมาวนเวียนในหัวผมอีกครั้งและมันก็ทำให้ผมหมดแรงเอาดื้อๆอย่างที่ไม่เคยเป็น...
    ผมได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้ความคิดแบบนี้จะหายไปเมื่อผมตื่นขึ้น......ว่าแต่...อยากกลับรีดชุดนักเรียนเหลือเกิน..

     
     

    จากคุณ : vannessia - [ 30 ส.ค. 49 18:44:55 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com