CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    เหยื่อของใคร

    บนเส้นทางชีวิตเมื่อล้มลงแล้วสามารถหาทางลุกขึ้นยืนใหม่ แต่บางครั้งความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจกลายเป็นความสูญเสียยิ่งใหญ่ที่ไม่มีโอกาสแก้ตัวได้อีกเลย

    ภายในห้องสี่เหลี่ยมของด้านหลังอาคาร นพดลในชุดนักศึกษานั่งอยู่ต่อหน้าเสี่ยใหญ่เจ้าของโต๊ะพนันบอล ใบหน้าส่อถึงความกังวลจนต้องขยับตัวตลอดเวลา หนี้พนันที่ติดค้างอยู่จำนวนหนึ่งแสนเป็นภาระหนักอึ้งที่สุดในชีวิตที่จะต้องหามาชดใช้เพื่อแลกกับความมีชีวิต

    ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจมาก่อนเลยว่าการเล่นพนันในคราวนี้จะทำให้ต้องเสียเงินที่มีไว้ใช้จ่ายส่วนตัวจนหมดสิ้นแล้วยังมีหนี้ติดค้างอีกเป็นจำนวนมากเช่นนี้ แต่เพราะแทงผิดพลาดในเกมคู่แรกเป็นแรงกระตุ้นความโลภมุ่งแต่ต้องการแก้คืน จึงทำให้ถลำลงลึกอย่างไม่รู้ตัว เขาเคยขอผัดผ่อนการใช้หนี้มาแล้วถึงสามครั้งและพยายามดิ้นรนหากู้ยืมจากคนที่รู้จัก แต่ในเวลานี้เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินเพราะทุกคนล้วนมีหนี้ติดตัวด้วยกันทั้งสิ้น

    “อั๊วะจะเสนอเงื่อนไขให้กับเอ็ง” เสี่ยใหญ่หน้าตาอวบอูมนั่งยกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะจิบไวน์ โดยไม่มีทีท่าใส่ใจกับหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าแม้แต่น้อย

    “ถ้าทำได้ถือว่าหนี้ทั้งหมดถูกหักล้างกันไป”

    “เงื่อนไขอะไรครับเฮีย” นพดลกระตือรือร้นอยากรู้
    เงื่อนไข “ถ้าหากผมสามารถทำได้จะยอมทำเพื่อชดใช้หนี้ทั้งหมดให้เฮีย” พยายามพูดให้น่าฟังที่สุด

    แต่ดูจะไม่สบอารมณ์ของเสี่ยใหญ่นักถึงกับคิ้วขมวดขึ้นมา แกยกแก้วไวน์ขึ้นแตะริมปากใช้ปลายนิ้วเคาะกับปากแก้วสองสามครั้ง ลูกน้องสองคนที่นั่งจ้องตาแข็งใส่อยู่แล้วเดินปรี่เข้ามาดึงแขนสองข้างทำให้หนุ่มนักศึกษาจำใจลุกเดินตามออกไปด้วยความงงงวย

    เพียงสักพักประตูบานเดิมเปิดออกอีกครั้ง ลูกน้องหน้าตาดุทั้งสองคนช่วยกันประคองร่างสะบักสะบอมที่เดินโซเซเข้ามามีรอยฟกช้ำไปทั้งใบหน้า เสื้อที่สวมใส่เรียบร้อยอยู่เมื่อครู่กลายสภาพเป็นเปื้อนรอยเท้าจนยับรุ่งริ่งผมที่พองฟูเต็มหัวอยู่แล้วดูกระเซิงยิ่งขึ้น นพดลประคองตัวให้กลับเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวเดิมอย่างยากลำบาก

    “อั๊วะจะเสนอเงื่อนไขให้กับเอ็งทั้งหมดสามข้อ ถ้าทำได้ถือว่าหนี้ทังหมดหายกันไป” เสี่ยใหญ่ย้ำคำพูดใกล้เคียงประโยคเดิมอีกครั้ง ปลายนิ้วเคาะโต๊ะอย่างสบายใจระหว่างรอคำตอบ

    “ได้เลยครับเฮีย ผมยินดีทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง” นพดลรีบละล่ำละลักพูดยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว ตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งตัว

    “อืมมม..ไม่อยากรู้เงื่อนไขก่อนหรือไง” เสี่ยชายหางตามองหน้าหนุ่มรุ่นลูก ถือแก้วคลึงเล่นในมือและกระดิกปลายเท้าทั้งสองข้างราวกับว่าไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
    “อะไรก็ได้ครับ แล้วแต่เฮียสั่ง” หนุ่มน้อยรีบตอบอย่างรวดเร็วเช่นเดิมน้ำเสียงชัดขึ้น

    “คุยง่ายขึ้นกว่าเดิมนะ” แม้จะเป็นการชมแต่โทนเสียงเรียบเบาจนไร้วิญญาณและรอยยิ้มที่ไม่เต็มใจนั้นยิ่งทำให้ดูน่าสะพรึงกลัว

    เหรียญสิบบาทที่อยู่ในมือเสี่ยใหญ่ถูกดีดขึ้นสูง เมื่อหล่นลงมาใกล้ถึงโต๊ะฝ่ามือซ้ายโฉบเข้าตะปบปิดทับทันที

    “เอ็งลองทายดูสิว่าเป็นหัวหรือก้อย ถ้าทายผิดมันสองคนจะพาเอ็งออกไปข้างนอกเหมือนเดิม” โจทย์ข้อนี้โอกาสทายผิดทายถูกเท่ากันแต่ผลที่จะได้รับเมื่อทายผิดนี่สิ เกิดอาการที่เสียดแทงหัวใจเป็นอย่างยิ่ง การถูกรุมซ้อมเมื่อสักครู่แสนจะทรมานเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว เกิดการเกร็งทั้งตัวลำคอแห้งผาก ทำหน้าเหมือนกับว่าจะร้องให้ออกมา
    “ทาย...” เสียงตะคอกห้วนสั้น ยิ่งทำให้ไอ้หนุ่มหัวฟูเกิดความประหม่าจนตัวสั่น

    “เอ่อออออ...ก้อยครับ” เสียงสั่นรัวแหบพร่าจ้องตานิ่งมองใต้ฝ่ามือนั้น

    เมื่อฝ่ามืออวบนุ่มเปิดออก หนุ่มน้อยถึงกับเป่าลมออกจากปากเอนหลังพิงพนักรู้สึกโล่งอก สองมือปาดเช็ดเหงื่อเต็มใบหน้า รอดตัวไปได้ในเงื่อนไขแรก

    “ต่อไปเป็นข้อที่สอง”แกยังพูดน้ำเสียงเรียบเช่นเดิม

    “เอ็งแก้ผ้าออกทั้งหมด” คนรับเงื่อนไขถึงกับสะดุ้งอ้าปากค้างแสดงท่าทีอึกอัก แม้ว่าในห้องนี้จะมีแต่ผู้ชายด้วยกัน แต่ทำใจลำบากหากมีสิ่งพิเรนเกิดขึ้น เขาคงยากที่จะทำใจยอมรับตราบาปนี้ได้ ยิ่งเห็นสายตาลูกน้องของเสี่ยใหญ่ทั้งสองคนที่มองดูแล้วไม่น่าวางใจ

    หนุ่มหัวฟูขนลุกใบหน้าเหยเกรู้สึกคับแค้นใจอย่างยิ่งเมื่อเริ่มถอดเสื้อออกจนเนื้อสัมผัสไอเย็นของแอร์โดยตรง แต่ต้องจำใจทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นวันนี้คงไม่มีชีวิตรอดออกไปได้แน่ รูปร่างสูงโย่งผิวดำคล้ำแถมมีรอยด่างทำให้คนในห้องนั้นพากันส่ายหน้า จนชั้นในชิ้นสุดท้ายถูกดึงออกพ้นลงมาจนเห็นแก้มก้นปอดดำทั้งสองข้าง

    “พอแล้ว.. เอ็งใส่กางเกงซะ อุบาทว์ตาฉิบหา...” เสี่ยใหญ่รีบร้องห้ามปนหัวเราะออกมาจนลูกน้องทั้งสองคนหัวเราะขบขันตามไปด้วย แต่นพดลกลับรู้สึกดีใจอย่างมาก

    “เอ็งใจกล้าดีเหมือนกัน สั่งง่ายไม่ถามให้เรื่องมากจนน่ารำคาญ” นพดลมัวแต่รีบใส่กางเกงและเสื้อเข้าที่เดิมจนไม่ได้มองความเคลื่อนไหวของเสี่ยใหญ่ เมื่อหันกลับมาเห็นถึงกับผงะหงายใจเต้นระส่ำรู้สึกว่าตัวล่องลอย ที่บนโต๊ะมีปืนพกใส่อยู่ในถุงพลาสติกและมีเม็ดกระสุนอีกห้าลูกวางอยู่หน้าเสี่ยใหญ่ หนุ่มก้นปอดหน้าเสียรีบยกมือไหว้จะออกปากอ้อนวอน

    “เอ็งไม่ต้องกลัว อั๊วะยังไม่ทำอะไรเอ็งตอนนี้หรอก” เสี่ยยกมือห้ามปราม ปลอบขวัญเด็กรุ่นลูกให้สบายใจขึ้น “แต่นี่เป็นอาวุธที่เอ็งอาจจะต้องใช้สำหรับทำตามเงื่อนไขข้อที่สามของอั๊วะ” เสี่ยผลักปืนมาตรงหน้า พร้อมยื่นภาพถ่ายส่งให้ซึ่งเขาจำได้ว่าคนในภาพนั้นเป็นรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ในสถาบันเดียวกัน เมื่อพลิกดูด้านหลังของภาพมีที่อยู่และเบอร์โทรให้ไว้อย่างชัดเจน

    “มันชื่อประวิทย์เรียนอยู่ที่เดียวกับเอ็ง เป็นลูกค้าเก่าของอั๊วะแต่คราวนี้ท่าทางมันอยากจะลองดี ดังนั้นเอ็งต้องไปทวงมันให้เอาเงินสี่แสนบาทมาจ่ายอั๊วะภายในสามวัน ถ้าวันศุกร์นี้มันยังหาเงินไม่ได้ เอ็งจะต้องเอาข่าวว่ามันไม่อยู่ในโลกนี้แล้วมาให้อั๊วะแทน จบงานนี้เมื่อไรชีวิตของเอ็งเป็นอิสระเมื่อนั้น” เสี่ยใหญ่ยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้ราวกับว่ามันง่ายเหมือนเขียนหวยบนดิน

    นพดลได้ฟังเงื่อนไขถึงกับตาโตเบิกโพลงออกอาการพะอืดพะอมเหนียวลำคอ เพียงแค่ส่ายหน้าเท่านั้นเจ้าลูกน้องของเสี่ยทั้งสองคนทำท่าจะลุกเข้ามาหาจนเขาต้องรีบเปลี่ยนเป็นพยักหน้ายอมรับโดยเร็ว ไม่มีแม้แต่เสียงที่จะพูดออกมา ครั้งนี้เป็นโจทย์ที่ทำยากที่สุด

    “เอ็งมีเวลาสามวันเช่นกันถ้าทำไม่สำเร็จ ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะเดินเข้าไปทวงหนี้จากเอ็งเพื่อขอล้างหนี้ของพวกมัน” เสี่ยใหญ่ขู่สำทับก่อนที่จะไล่ให้เขาออกจากห้อง
    ..............................................

    ในยามนี้มีแต่ความสับสนกระวนกระวายร้อนรุ่มใจ ความหวาดผวาและหวาดกลัวตามหลอกหลอนตลอดเวลา คิดถึงอนาคตข้างหน้ามองเห็นเส้นทางชีวิตที่กำลังแปรเปลี่ยนไปเป็นอาชญากร หรืออาจต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของนักพนันพวกกันเอง

    เมื่อคิดถึงครอบครัวที่อยู่แนวหลังซึ่งต่างเฝ้ารอดูความสำเร็จรอภาพของวันรับใบปริญญา สภาพจิตใจในเวลานี้มีแต่ความหดหู่รันทดใจน้ำตาไหลอาบสองแก้มทั้งคืน

    เช้านี้แม้จะรู้สึกอ่อนเพลียแต่นพดลรีบเดินทางมาถึงสถาบันก่อนพระออกบิณฑบาตเสียอีก เขานั่งเฝ้ารออยู่ที่ประตูด้านหน้าหยิบรูปภาพในกระเป๋าเสื้อออกมาดูอีกครั้ง ใบหน้าขาวสะอาดใส่แว่นตาบ่งบอกว่าคงมีฐานะอยู่บ้างแตกต่างกับเขาโดยสิ้นเชิง แต่สุดท้ายกลับต้องมาอยู่ในวังวนตกเป็นทาสของผีพนันมีชะตากรรมเดียวกัน

    จนกระทั้งสาย สองหนุ่มนักศึกษารุ่นพี่รุ่นน้องนั่งคุยกันในจุดที่อยู่ห่างไกลสายตาผู้อื่น

    “พวกมันยังสั่งมาว่า พี่ต้องเอาเงินทั้งหมดไปให้พวกมันอย่างช้าวันศุกร์นี้ตอนเช้า”

    “ไม่มีทางได้หรอกว่ะ ตอนนี้พี่ขโมยของในบ้านออกมาขายหลายชิ้นแล้วยังได้ไม่ถึงครึ่งเลย ต้องให้เวลามากกว่านั้น”

    “พวกมันเอาจริงนะ มันขู่ยื่นคำขาดมาแล้ว” สองหนุ่มสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

    “พรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันอีกที กลุ้มใจจะบ้าตายกับพวกมันอยู่แล้ว” หนุ่มรุ่นพี่สรุปอย่างหมดหนทาง
    .......................................

    นพดลตัดสินใจนั่งรถกลับบ้านในบ่ายวันนั้น เพราะไม่มั่นใจว่ารุ่นพี่จะหาเงินมาได้ทัน เขาต้องดิ้นรนหาทางออกสุดท้ายให้ได้ หากสามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ได้ก่อนวันศุกร์ เขายังมีหนทางที่จะไม่ต้องใช้ปืนนั่นก่อเรื่องในสิ่งเลวร้าย
    ทุกคนในครอบครัวพากันดีใจที่เห็นเขากลับมาเยี่ยมบ้านแม้จะไม่เข้าใจข้ออ้างนักแต่ไม่มีใครใส่ใจ ความรักและจิตใจที่ใสซื่อทำให้เขาตื้นตันใจและรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งที่ต้องแอบซ่อนปกปิดความผิดของตัวเอง

    “แม้ว่าพ่อกับแม่จะยากจน แต่มีความภูมิใจในตัวของลูกมาก จงทำความฝันของพ่อให้เป็นจริงให้ได้นะ” ความอิ่มเอมใจอยู่เปื้อนใบหน้าของทุกคนจนลูกชายต้องก้มหน้ารับคำ

    “ปีนี้ฝนทำท่าจะดีตั้งแต่ต้น พ่อคงจะมีเงินไถ่ที่นาของเราคืนมาได้”

    เหมือนกับว่าหัวใจปริฉีกเจ็บแน่นหน้าอก ความหวังเดิมที่ตั้งใจจะมาขอกู้เงินพังละลายไปสิ้น นาผืนเดียวของครอบครัวถูกจำนองไปแล้วเมื่อเทอมก่อนเพื่อหาเงินส่งให้เขาได้เรียน สองอารมณ์ปะทะกันความซาบซึ้งใจในความรักที่พ่อแม่เต็มใจมอบให้ยอมเสียสละผืนนาเพื่อลูกชาย กับความปวดร้าวขมขื่นใจเมื่อหมดสิ้นหนทาง เสียงอื้ออึงดังก้องทั้งหัวละเหี่ยใจจนยากบรรยาย ยอมที่จะเก็บกดความรู้สึกทั้งหมดไว้กับตัวเอง ทนแกล้งฝืนยิ้มไม่กล้าจะสบตากับใคร

    บ่ายของวันรุ่งขึ้นนพดลรีบย้อนกลับมาที่สถาบันอีกครั้งด้วยใบหน้าที่หมองคล้ำกว่าเดิม ไม่มีความคิดที่จะเข้าห้องเรียนแม้แต่น้อย วันนี้พฤหัสแล้วเขาต้องคุยกับรุ่นพี่ให้รู้เรื่อง ต้องทวงเงินให้สำเร็จ เพื่อที่จะไม่ต้องใช้วิธีสุดท้าย แต่เมื่อทนรอและตามหาจนทั่วสถาบันแล้วยังไม่เจอ จึงกดโทรศัพท์ตามหมายเลขที่มีอยู่หลังรูปภาพ

    เพียงเขาแนะนำตัวเท่านั้นมีเสียงตอบสวนกลับมาทันที

    “ไปบอกพวกมันเลย พี่ต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่าอาทิตย์จึงจะหาเงินไปให้พวกมันได้ และต่อไปนี้ไม่ต้องมาตามอีก” เพียงข้อความเท่านั้นที่ได้ยินและถูกตัดสายทิ้งปิดเครื่องไนทันที

    เชือกฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น เพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งได้รับคำเตือนจากโต๊ะพนันเช่นกันว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง ไม่เช่นนั้นวันเสาร์นี้จะมีลูกหนี้อีกสองคนมาตามทวงเงินจากเขาและประวิทย์

    หนุ่มบ้านนอกเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าดวงตาเปิดกว้างรับความสว่าง นับเป็นครั้งแรกที่ได้ปล่อยให้สายตาได้ทอดออกไปไกลทำให้จิตใจผ่อนคลาย วันพรุ่งนี้เขาจะปลดภาระที่แบกหนักมาสองวันปล่อยทิ้งไป ทั้งความโกรธจากเมื่อครู่ที่รุ่นพี่ไม่ยอมให้ได้พูดและสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว
    .........................................

    ตั้งแต่เช้ามืดฟ้ายังไม่สว่างนพดลมาซุ่มรอประวิทย์อยู่ที่หน้าบ้านตามแผนที่ เห็นประตูบ้านถูกเปิดออกอย่างระวัง หนุ่มรุ่นพี่กำลังย่องเงียบเตรียมตัวออกจากบ้านแต่เช้าตรู่เช่นกัน แสดงว่าครั้งนี้เขาประเมิน ‘เกม’ ได้ถูกต้อง

    นพดลปรี่เข้าดักขวางทันทีจนประวิทย์ตกใจ หนุ่มรุ่นน้องชวนรุ่นพี่ให้เดินลัดเลาะไปคุยกันที่ตึกร้างซึ่งอยู่ไม่ไกล โดยอ้างว่าด้านนอกมีคนของเสี่ยใหญ่ดักรออยู่ ทำให้ประวิทย์ซึ่งพอรู้วิธีการทวงเงินที่โหดเหี้.ยมอยู่แล้วรีบเดินตามทันที เส้นทางทั้งหมดบริเวณนี้ถูกนพดลมาสำรวจจนทั่วตั้งแต่เมื่อคืน

    เมื่อนพดลถามย้ำหนักแน่นจนแน่ใจว่าประวิทย์ไม่มีเงินไปจ่ายให้เสี่ยใหญ่ได้แน่และกำลังหาทางหลบหนีอีกด้วย จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่จำเป็น เขาล้วงปืนในย่ามออกมาเล็งไปที่หัวของรุ่นพี่
    ....

    จากคุณ : กุลา - [ 31 ส.ค. 49 20:33:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com