CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ใต้เงาหัวใจ 9

    กำลังแก้ตอนเก่าๆ อยู่ เปิดมาดูคอมเมนท์ใหม่ ผ่าง!! ดันเจอทวง ^_^ (ซะงั้นน่ะ)

    มีคนจุดธูปเรียกก็เลยมา เอาของที่แก้มาให้ดูด้วย พยายามตบๆ ให้เนียน แต่ว่าไม่รู้จะเนียนหรือเปล่า ง่วงมากเลย เบลอ ตาเป็น หมาแพนดี้ หมีแพนด้า เสียแล้ว


    ลองดูที่แก้เนอะ


    “เศษเงินแค่นี้ฉันไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย” เขาปัดมือออกห่างแล้วเดินเฉียดผ่านจานข้าวเช้าที่ตั้งอยู่บนพื้นไปอย่างไม่ใส่ใจ

    “แต่ฉันจะจ่ายเพื่อความสบายใจและศักดิ์ศรีของฉัน”

    “พวกนักนิยมศักดิ์ศรี”

    “ฉันว่าเราพูดดีๆ กันบ้างก็ดีนะ”

    “พูดไป พวกคนอย่างเธอก็ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของฉันหรอก”

    “ฉันเข้าใจ” นลินลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเข้าไปขวางหน้า “ฉันก็ไม่รู้ว่าจะตามวัชกลับมาให้คุณได้อย่างไร”

    “แน่นอน เธอก็อยากให้น้องชายเธอตกถังข้าวสารอยู่แล้วนี่”

    “คุณเข้าใจผิดนะ ฉันเข้าใจว่าคุณโกรธ คุณกำลังโกรธมากๆ ใช่ น้องชายฉันก็ผิดที่ไม่ให้เกียรติน้องสาวคุณ แต่ว่ามันเพราะว่าเขารักกัน ความรักมันแปลกนะคุณ ถ้ารักจริงแล้วมันก็ช่วยให้อย่างอื่นง่ายขึ้นได้เองแหละ แต่ถ้าคุณโกรธคุณจะมาลงที่ฉันแทนก็ได้ เผื่อว่าคุณหายโกรธแล้วคุณอาจจะเข้าใจ...”

    “อยากเสนอตัวให้ฉันอีกคนก็พูดมาตรงๆ.... พวกเธอนี่หิวเงินกันจนน่าเบื่อ ถอยไป ฉันจะไปกินอาหารเช้า แล้วก็จำไว้ให้ดี เธอรู้จักความโกรธของฉันแล้วนี่ ฉันต้องการได้น้องของฉันคืนมา รุ้งกลับมาเมื่อไหร่เธอก็เป็นอิสระ แต่ถ้าเธอคิดจะหนี ฉันก็จะจ้างนักสืบ แล้วถ้านักสืบของฉันเจอตัวน้องชายของเธอเมื่อไหร่ จะเอาคืนให้สาสม”  

    “ป่าเถื่อน”

    “เธอเป็นพี่สาวแสนดีนี่ ทำตัวดีๆ เพื่อน้องน่าจะดีกว่านะ เผื่อฉันจะหายโมโหลงมาได้บ้าง”

    “คุณจะทำยังไงกับฉันก็ทำ แต่ขอร้องล่ะคุณ เรื่องน้องชายฉันน้องสาวคุณ พูดกันดีๆ ดีกว่าไหม?”

    “พูดกับลาสมองโง่ พูดไปเท่าไหร่ก็ได้ผลเท่าเดิม ออกไป ฉันจะไปหาอะไรกิน”

    ร่างสูงเดินผ่านร่างบอบบางของนักเขียนสาวอย่างหงุดหงิด กระแทกไหล่กลมกลึงเต็มแรงจนนลินเซไปหาโซฟา

    บ้า!!

    ว่าคนอื่นสมองลา... ตัวเองก็สมองแคบเสียยิ่งกว่าอะไรพอๆ กัน










    อีกซีน




    “ต้องให้ฉันใช้วิธีเหมือนกับพวกโสเภณีข้างถนนหรือไงเธอถึงจะยอมปริปากพูด...ได้... ทำไมไม่บอกตรงๆ ล่ะว่าเธอก็ต้องการขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ฉันจะได้สนองให้เธอถูก... แบบนี้”

    ขาดคำ เขาก็กระชากร่างเล็กๆ นั้นเข้ามาใกล้แล้วก้มหน้าตัวเองลงไปหาริมฝีปากอิ่ม ประทับจุมพิตเบียดขยี้ด้วยความเกรี้ยวกราด ความโมโห นลินใจหายวาบไปอยู่ที่ตาตุ่ม อึกอักอยู่ในลำคอหากมือแข็งๆ อีกข้างก็กดท้ายทอยของหล่อนแน่น บังคับให้แหงนเงยหน้ารับจุมพิต

    “โอ๊ย!!”

    เสียงร้อง..เจ็บ...ดังมาจากเจ้าของริมฝีปากเรียวกระด้าง ลิ้นบวมขึ้นมาทันตาเพราะแรงกัดอย่างแรงจากเจ้าของริมฝีปากบาง นลินสะบัดตัวหนีออก...ห่าง...เคืองแค้น

    “ชั่ว... ทราม...เลว....สุดท้ายคุณมันก็พวกผู้ชายที่เห็นแก่ได้เหมือนคนอื่นๆ”

    “ทำไม?” มือหนาเอื้อมมากระชากร่างบางแน่งน้อยกลับเข้ามาตะคอกถาม “เธอก็ชอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ได้ประโยชน์ทุกอย่างนี่ น้องชายเธอก็ได้น้องสาวฉันไป เธออยู่ที่นี่ไม่เรียกร้องอะไรก็เพราะผลประโยชน์มันอยู่ตรงหน้าเห็นๆ อยู่แล้ว”

    “จิตต่ำ! ฉันยอมอยู่ที่นี่ก็เพราะเห็นว่าน้องชายฉันทำผิดจริงก็เท่านั้น นึกว่าฉันอยากอยู่มากนักหรือไง น้องฉันเอาน้องคุณกลับมาคืนเมื่อไหร่ ฉันจะออกไปทันทีเดี๋ยวนั้น!”

    “เสแสร้ง!”

    “คำก็บอกว่าโกหก อีกคำก็เสแสร้ง คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่ คุณโกรธเรื่องน้องชายฉันแต่คุณก็ต้องเข้าใจบ้างสิว่าฉันไม่รู้จะช่วยคุณยังไงเหมือนกัน สองคนเขารักกันเขาโตกันแล้ว คุณจะไม่สงสารเขาบ้างเลยเหรอ?”

    “เธอคิดว่าเขาจะอยู่กันได้ตลอดรอดฝั่งเหรอ คนที่พื้นฐานชีวิตต่างกันมากมายขนาดนั้น เธอไม่เข้าใจหรอก"

    “ถ้าฉันไม่เข้าใจแล้วจะยอมมาอยู่ให้คุณโขกสับเหมือนพวกไร้อารยะอยู่อย่างนี้เหรอ คุณนั่นแหละ ยึดติดอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

    มือเรียวบางผลักอกกว้างออกไปสุดแรง ดวงตาคู่งามจ้องมองใบหน้าคมสันที่บูดบึ้งด้วยแรงโทสะประกายวาวโรจน์

    “อย่ามาต่อปากต่อคำ”

    “ใช่! ไม่มีประโยชน์ที่ฉันต้องพูดกับคุณ”

    จิรภัทรจิกเล็บลงบนผิวเนียนละเอียดแน่นจนเป็นรอยแดง...ริมฝีปากเม้มเรียบตึง ไม่ใช่เพราะความโกรธในคำพูดต่อว่า หากเป็นดวงตานั้นต่างหากเล่า ดวงตาที่ฉายแววดูถูก หมิ่นหยาม และถือดี ทั้งที่หล่อนคนนี้ไม่มีอะไรที่จะยกมาหยิ่งผยองเชิดใส่หน้าเขาได้เลยแม้แต่น้อยนิดเดียว

    “เอามือออกไปให้พ้นจากตัวฉัน”

    “รังเกียจนักเหรอ?”

    “ไม่”

    “แน่ใจ”

    “ใช่” นลินย้ำ... ชัด... “ไม่ได้รังเกียจ แต่ฉันขยะแขยง”

    “ปากดี... ดูซิว่าจะขยะแขยงจริงอย่างที่เธอพูดออกมาหรือเปล่า หรือว่าปากบอกว่าขยะแขยง แต่ตัวสั่นระริกอยากให้ฉันเข้าหาเดี๋ยวนี้”

    ฉาด!!!

    เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังชัดเจน หากแลกกลับด้วยริมฝีปากอุ่นบดเบียดลงมาหนัก...แรง...ไม่รับรู้แม้แต่มือเรียวบางเล็กที่ทุบตีหยิกข่วน ไม่รับรู้ถึงแรงดิ้นรน มีเพียงแต่โทสะ...โทสะที่เป็นเหมือนไฟเผาพลาญให้ทุกอย่างสลายกลายเป็นเศษเถ้าเล็กน้อยเท่านั้น

    จิรภัทรก็ไม่แน่ใจตัวเองนักว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น หากทันทีที่ริมฝีปากอิ่ม นุ่มหยุ่น สัมผัสอย่างแนบสนิทชิดเชื้อกับริมฝีปากของเขา ก็เหมือนกับว่าความอุ่นร้อนบางอย่างแผ่ซ่านไปทั่วร่าง เหมือนกับเป็นกับดักที่วางไว้แล้วเขาก็ตกลงไปในหลุมพรางแห่งนั้น ด้วยความรู้สึกอันแปลกประหลาด...แรงเย้ายวนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะทราบว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ทำให้ทุกอย่างในศีรษะหมุนพร่าง รู้สึกถึงแรงปรารถนาที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลักดันให้เขามุ่งไปด้านหน้าโดยไม่หยุดถอยหลัง

    มือหนาเลื่อนลงไปโอบรอบแผ่นหลังเพรียวบาง ลูบไล้อย่างหิวโหยขณะที่ริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ทั่วใบหน้างาม ไม่สนใจแม้แต่เสียงร้องขัดขืน... ที่ชายหนุ่มเจ้าสำราญมาตลอดชีวิตอย่างเขาเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนให้เป็นคำร้องขอวิงวอนได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที...

    “ฉันเกลียดคุณ....” เสียงกระซิบแผ่วจากคนที่เขานึกว่าเป็นใบ้ดังอยู่ข้างใบหู.... “คุณจิรภัทร...ฉันเกลียดคุณ”

    นลินหลับตา... ปล่อยให้เขาถือโอกาสฉกฉวยโอกาสในการล่วงเกินหล่อนได้ตามแต่ใจเพราะหมดแรงที่จะต่อสู้... เงินตรา...อำนาจ...ไม่ว่าอะไรมันก็ทำให้ทุกอย่างตกแก่ผู้ชายอย่างจิรภัทรได้อยู่เสมอ




    ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจ วิจารณ์ ฯลฯ ทำให้แก้ได้ง่ายขึ้นมากเลย กระทู้ที่แล้วขอโทษคุณ scottie ด้วยที่ทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นคนช่างจับผิดไป (ซะงั้น) คือที่บอกว่า

    "มาแปะเรื่องนี้ทีไรเสียวสันหลังวาบๆ เห็นนามท่าน scottie แล้วใจจะแบบ กระตุก วูบๆ (ไม่ใช่โรคหัวใจกำเริบ Love Love นะ) ประมาณว่าโอ้ วันนี้จะต้องแก้เรื่องใดอีก"

    นี้จะบอกถึงความสามารถในการปล่อยไก่ของตัวเองที่ปล่อยทีเป็นฝูงเลย T_T


    เออ พูดถึงเรื่องนี้ ที่จริงแล้ว ในความรู้สึกจริงๆ ตอนเขียนนะ ที่นางเอกไม่หนีไป คือ ตอนเขียนรู้สึกว่า แบบ น้องชายนางเอกเขาผิดจริง ในความเป็นจริงก็คือ ลำบากเหมือนกันนะคนที่อยู่คนละฐานะจะมาอยู่ด้วยกัน นึกถึงพ่อที่ หวงลูกมากๆ ขนาดเอาปืนมาคอยยิงว่าที่ลูกเขย (ทำนองนั้น) ในชีวิตจริง ส่วนใหญ่เราก็มักจะแต่งงาน หรือ มีคู่ กับคนที่ฐานะการงานใกล้เคียงกันเนอะ เหมือนกับตัวเอง ถ้าได้เป็นแบบ สมาชิกราชนิกูลแห่งดินแดนสารขัณฑ์ แล้วเราจะอยู่อย่างไร ตอนคิดก็มีความสุขนะแต่เข้าวังไปอาจพูดกับใครไม่รู้เรื่องก็ได้ จะพูดอยู่แต่กับสวามีก็แปร่งๆ  กุชชี่ ปราด้า ก็ใช้ไม่ค่อยเป็น มีแต่มองน้ำลายไหลแล้ว ไหล อีก (ชาตินี้ถ้าลูกมีบุญ....แต่คงจะไม่มีแล้วแหละ อายุปูนนี้ขนาดแฟนยังหาไม่ได้เลย ซะงั้น)

    อืม ส่วนตัวนลินก็คิดประมาณว่า เขาก็เข้าใจความโกรธของจิรภัทรแต่ว่าเขาก็หนักใจกับความรักของหยาดรุ้งเหมือนกัน เขาเข้าใจว่าทำไมจิรภัทรโกรธก็เลยทำให้ทนอยู่ได้ (ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า)

    แต่พอเขียนออกมาแล้วมันประหลาดๆ เนอะ ตามแก้ตบให้เนียนไปเรื่อยๆ ฉุฉะๆ ๆ ๆ


    แต่เสียดายว่าเขียนจบแล้ว ลืมเขียนให้นางเอกท้องแล้วพระเอกไม่รู้เรื่องตามสเต็ปหนังไทยเลย (อยากกรีดร้องโวยวาย เสียดายจัง) แต่ไม่เป็นไร เนื่องในความที่ชอบนิยายยุงชุม เดี๋ยวอนาคตไม่พลาดแน่ฉากแบบนี้


    โฮ่ๆ ๆ ๆ (แล้วฉันจะมีพัฒนาการไหมเนี่ยยยยยยยยยยยย?? คนอ่านทำใจหน่อยน้า.......)

    จากคุณ : พิณณ์อวี - [ 3 ก.ย. 49 03:50:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com