ความคิดเห็นที่ 1 หมาผู้เขียน เลี้ยงในบ้าน มันทายทัก มันรู้จัก ออดออเซาะ ให้เราสุข เราเข้าใจ ว่ามันรัก มันไม่ทุกข์ มีความสุข เคล้าแข้งขา พาสุขใจ ให้รู้ไว้ นี่ก็คือ “สัญชาตญาณ” มีมานาน หลายพันปี ไม่ขาดสาย หัวหน้าฝูง คือตัวเรา อย่าได้อาย มันได้กลาย เป็นลูกฝูง รู้จูงใจ หากมันรู้ มันเหนือกว่า มันข่มขู่ เข้าไปสู่ การหักหาญ อย่าสงสัย หมาบางตัว กัดเจ้าของ หมองหมางใจ หากวันใด มันหิวจัด มันกัดเอา เกิดเป็นคน หากขาดสิ้น วินิจฉัย มันก็คล้าย ดั่งพวกสัตว์ ที่โฉดเขลา ให้คนจูง ให้คนไล่ ใจมัวเมา เป็นคนเขลา ให้เขาจูง หลงลืมตน วินิจฉัย ใช้อะไร ได้วิเคราะห์ ใช้เหมาะเจาะ สมองจิต ให้ส่งผล ตามหลักศาสตร์ สมองสั่ง อย่าได้งง จะส่งผล ให้ปากพูด กายแสดง ตามหลักศาสน์ ใช้จิต วินิจฉัย ความเป็นไป ในโลก ต้องแสวง รู้ที่ตั้ง รู้ที่มา พาแสดง จิตของคน ไม่รู้แหล่ง แห่งไปมา อันร่างกาย ที่เราเห็น เป็นเพียงธาตุ มากสามารถ ทำทุกสิ่ง มุ่งหรรษา ความมุ่งมั่น นั่นคือ “จิต”ติดกายมา สั่งกายา ให้กระทำ นำสุขใจ “จิตและกาย” ต้องอยู่คู่ จึงเกิดผล เหมือนดั่งฝน คู่กับเมฆ จึงสดใส ชายคู่หญิง พึ่งพิงกัน คู่กันไป ให้สดใส ด้วยอยู่คู่ ดูใหญ่โต ความรู้สึก ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก “จิต” ใคร่ครวญคิด “จิต” ปราศร่าง ไม่มีผล “จิต” ได้ฝึก จะคงอยู่ ยังคงทน จะนำผล เกิดพลัง ยั้งคาดการณ์ “จิต”ในร่าง เมื่อแรกเริ่ม ขาวสะอาด นึกจะวาด สิ่งอื่นใด ให้หรรษา หรือทุกข์ทน เป็นสีดำ ไม่งามตา “จิต”นำพา กายวาจา พาเป็นไป จะเป็นสัตว์ ในร่างคน ย่อมทำได้ เป็นสัตว์ร้าย หรือน่ารัก ที่สดใส หรือเป็นยักษ์ เจ้าโมหะ ที่จิตใจ กระทำไป ตามที่ฝึก ให้ตรึกตรอง “จิตที่ขาว หรือจิตดำ” อยู่ที่ฝึก จงคิดนึก ก่อนให้จิต คิดเป็นสอง ขาวสวรรค์ ดำนรก จิตหมายปอง คนจ้องมอง ปองสีเทา เอามากมาย สีเทาดำ หรือเทาขาว เราได้เห็น คนใจเย็น สีเทาขาว จิตเศร้าใส มีความสุข มากกว่าทุกข์ พึงเข้าใจ เอาใจใส่ เรื่องธรรมะ เข้าต่อเติม จิตเทาดำ เรื่องธรรมะ ด้อยกว่าโลก มีความโลภ มากกว่าทาน ช่วยส่งเสริม มีความทุกข์ มากกว่าสุข โง่เพิ่มเติม หลงทางเดิน เพราะด้วยจิต คิดทางเลว จิตสีดำ หมายถึงจิต อกุศล เที่ยวเวียนวน เรื่องราคะ จิตล้มเหลว ภายในจิต โทสะโม่ห์ จุดเป็นเปลว ความแหลกเหลว ในชีวิต จิตมืดมน จิตสีขาว จิตสงบ พบสุขเย็น ได้เล็งเห็น ความทุกข์ยาก ทุกแห่งหน จิตจึ่งละ ทั้งดีชั่ว พัวพันตน ให้เป็นคน จิตปล่อยวาง สว่างใจ จากคุณ : บุญสม - [ 7 ก.ย. 49 14:58:21 A:203.118.114.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 สุขหรือทุกข์ ปลดปล่อยไป ให้สิ้นหมด จิตขาวสด บริสุทธิ์ สุดสดใส เหมือนดั่งดาว ส่องประกาย เห็นแต่ไกล ยามเข้าใกล้ ได้เชยชิด ติดไอเย็น เป็นชาวพุทธ ขอได้คิด เรื่องของจิต ที่ผูกติด แต่กำเนิด ทุกคนเห็น เป็นชาวพุทธ หยุดปฏิบัติ จึ่งลำเค็ญ ทุกข์ยากเข็ญ ลำบากจิต ลำบากกาย ประพฤติธรรม น้อมนำจิต รู้ธรรมชาติ ที่สามารถ ได้สอนสั่ง จิตสดใส เป็นคุณครู ผู้ประเสริฐ เลิศวิไล ไม่มีใคร เทียบเคียงได้ ในโลกา มาบัดนี้ เหล่ามนุษย์ สุดห่างไกล ธรรมชาติ ถูกทำลาย ไร้เสน่ห์หา ไม่รู้สึก กตัญญู ผู้เมตตา จิตนำพา สู่จิตดำ ต่ำช้าเกิน ณ วันนี้ คนเป็นทาส อกุศล จิตมืดมน หน้าหมองคล้ำ ยามเดินเหิน แม้นอนหลับ ให้ร้อนรน กลุ้มยามเดิน เพราะหลงเพลิน ต่อกิเลส เสพเมามัน โทสะจิต โมหะจิต เข้าครอบงำ จิตถลำ ตกในห้วง ทุกข์มหันต์ จะถอนตัว ก็ไม่ได้ จิตเมามัน ปัญญาสั้น สติหมด หมดความดี เราชาวพุทธ จงตั้งจิต ให้หยุดนิ่ง ในทุกสิ่ง เกิดแล้วดับ ตามวิถี ธรรมชาติ ได้สร้างมา มาเช่นนี้ สมควรที่ นิ่งไว้ก่อน ค่อยผ่อนปรน วิถีพุทธ ต้องตั้งจิต ให้สงบ ควรพักรบ ไว้เสียก่อน มองเหตุผล คิดทบทวน ให้หลายครั้ง ก่อนเริ่มต้น ต้องอดทน มีความเพียร เพียรปัญญา งานใหญ่เล็ก ต้องยึดถือ สัจจะธรรม ไม่ชอกช้ำ ไม่ระกำ จิตหรรษา ไม่กล่าวเท็จ ไม่ส่อเสียด ให้ระอา ไม่งามหน้า หากก้าวร้าว เป็นคนพาล ถือคำสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้ง จิตหยุดยั้ง การฉ้อฉล ให้ประหาร ความซื่อสัตย์ มีในจิต ติดยาวนาน ให้สืบสาน รักษาไว้ ได้มงคล เป็นมนุษย์ ปุถุชน รักสันติ อย่าได้คิด เบียดเบียน ป้ายเสียดสี ความเมตตา อยู่ในจิต จิตปราณี ให้เป็นที่ รู้จักแจ้ง ถึงแดนไกล หากคนใด ใฝ่สันติ จิตสงบ สิ่งที่พบ คิดเชิงบวก ลบห่างหาย แม้มีใคร คิดไม่ดี มุ่งคิดร้าย ทำจิตได้ ให้อภัย ไม่ร้ายตาม จิตคิด “ให้” เป็นจิต คิดเมตตา ไม่โกรธา แม้ถูกเกลียด ทั้งเหยียดหยาม คิดแต่ “ให้” ด้วยใจจิต ที่ดีงาม ยิ้มรับตาม ที่จิต คิดอภัย เมตตาจิต เท่านั้น เกิดสันติ มีสติ อยู่ทุกเมื่อ ไม่ห่างหาย จิตสันติ ไม่เคยคิด จะทำลาย แม้ใกล้ตาย ใจยึดมั่น “ความเมตตา” “ความเมตตา” นำพาโลก ให้เกิดสุข โลกยิ้มสุข ระเริงรื่น ชื่นหรรษา เหล่าสัตว์ได้ อานิสงส์ คนเมตตา สุขกายา พร้อมมอบกาย ให้กับคน คนกับคน มีเมตตา ให้ต่อกัน ไม่มีวัน จะพบทุกข์ ได้สุขสม ไม่มีวัน จะกล่าวเท็จ ให้ระทม ไม่มีวัน จะขื่นขม จมอเวจี จากคุณ : บุญสม - [ 7 ก.ย. 49 15:01:24 A:203.118.114.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 หากวันใด ขาดเมตตา จิตวุ่นวาย ชาติเสียหาย เพราะสันติ นั้นบินหนี ความละโมบ ความโกรธ มาแทนที่ ตัดความดี ที่จะเกิด เกิดกับตน เป็นชาวพุทธ ชอบทำบุญ และตักบาตร หลังตักบาตร หลังทำบุญ แผ่กุศล ให้สรรพสิ่ง ที่มีมา ในสากล แผ่กุศล ให้ได้รับ ทั่วถึงกัน หลังเสร็จกิจ การทำบุญ กลับบ่นด่า ไร้ปัญญา ไม่แก้ไข ไม่สร้างสรรค์ ปัจจุบัน ช่างหาง่าย ได้ทำกัน ยิ่งนานวัน ยิ่งแย่ลง จงคิดดู พุทธที่แท้ นำหลักธรรม มาประพฤติ จิตไม่ยึด จิตไม่ติด จิตรับรู้ จิตละสิ้น ทุกสิ่งอัน พลันน่าดู พร้อมจะรู้ พร้อมจะทิ้ง ทุกสิ่งอัน ขอนำท่าน ให้ได้รู้ “อหิงสา” ให้รู้ว่า คำคำนี้ มีความหมาย “ไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้าย ต่อผู้ใด” ควรนำใช้ ให้ถูกที่ ให้ถูกทาง คำคำนี้ มักจะใช้ ในชุมนุม ไม่รวมกลุ่ม เพื่อทำร้าย อย่ากังขา พฤติกรรม ให้แตกต่าง คำกล่าวมา รวมกลุ่มมา เพื่อคัดค้าน ด่าว่ากัน ตะโกนใส่ ก่นด่า กันย่อยยับ ไม่รู้จัก ยับยั้งจิต จิตหุนหัน มีโทสะ มีโมหะ ด่ากันลั่น สุดเมามัน สรรกล่าวหา พาเพลิดเพลิน นี่นะหรือ การชุมนุม ด้วยสงบ ยิ่งกว่ารบ ด้วยอาวุธ สุดโหดเสริม ใช้วาจา เข้าพิฆาต สาดกันเพลิน ให้สรรเสริญ ได้อย่าไร ใครบอกที การชุมนุม ปราศอาวุธ ถูกทางโลก ไม่กล่าวโทษ คนอื่นใด ให้เสียศรี ย่อมทำได้ กรอบกฎหมาย ได้บ่งชี้ ธรรมนี้สิ ผิดแน่แน่ ในมงคล เป็นชาวพุทธ พุทธแต่นาม จิตเศร้าหมอง ทำลำพอง ทะนงตน เห็นทุกหน ทำแต่สิ่ง ไม่ก่อเกิด เป็นมงคล จิตสับสน คนไร้ศาสน์ ขาดศีลธรรม เป็นชาวพุทธ พุทธที่แท้ ธรรมประพฤติ จิตลุ่มลึก สู่จิตว่าง สว่างล้ำ จิตใสสด เป็นประกาย ด้วยแสงธรรม ทุกเช้าค่ำ จิตสะอาด ปราศธุลี เรามาดู มาศึกษา คำ “ปัญญา” ได้กล่าวมา หลายพันปี เป็นสักขี มีความหมาย “ความรอบรู้” แยกชั่วดี ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ เกิดมงคล เกิดปัญญา ในทางโลก ไม่รอบรู้ ตรีโทเอก เพียงเรียนจบ อย่าสับสน เพียงรอบรู้ เฉพาะงาน การของตน จิตสับสน ทะนงตน ทุกข์ตามมา ความรอบรู้ ในทางธรรม ล้ำประเสริฐ เป็นฐานเกิด สรรพวิชา หลากสาขา รู้ทำกิน รู้สุขทุกข์ รู้วิชชา รู้งามตา ต้องประพฤติ จิตมงคล ความรอบรู้ ในทางธรรม สุทธิปัญญา เป็นที่มา พาสงบเย็น เป็นกุศล สุขภายนอก สุขภายใน ใครได้ยล เกิดมงคล แผ่ทั่วทิศ จิตเย็นดี หากชนใด หลงงมงาย เรื่องวัตถุ จิตสิ้นสุด ความรอบรู้ ไร้ราศี มีราคะ มีโทสะ โม่ห์มากมี ปิดความดี ปิดปัญญา ปิดวิชชา จากคุณ : บุญสม - [ 7 ก.ย. 49 15:10:39 A:203.118.114.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 วิสุทธิ์ปัญญา ประเสริฐแท้ มีในตน ใครคิดค้น จะได้พบ หมดปัญหา ให้เป็นคน สั่งสอนง่าย เกิดปัญญา ภัยนานา ปราศหมดสิ้น ด้วยกลิ่นธรรม ไม่ประมาท ในธรรม ดีงามเลิศ เกราะประเสริฐ ป้องกันภัย ใจสูงล้ำ ถ่อมกายจิต ต่อทุกคน ไม่ระกำ สุดเลิศล้ำ รักสันโดษ โทษไม่มี กตัญญู รู้คุณท่าน ต้องตอบแทน ไม่ดูแคลน ในพระธรรม ให้เสื่อมศรี ได้ฟังธรรม ตามกาล เป็นสิ่งดี อดทนดี สิ่งต้องการ ทำเป็นคุณ บำเพ็ญตบะ เพื่อละสิ้น เหล่ากิเลส สุดวิเศษ พรหมจรรย์ ต้องสุขุม อริยสัจ อยู่ในจิต ไม่ร้อนลุ่ม จิตไม่กลุ้ม จิตรู้แจ้ง แห่งนิพพาน จิตไม่หวั่น จิตรู้ทัน โลกธรรม จิตงามล้ำ จิตไร้โศก โลกหรรษา จิตปราศจาก เหล่ากิเลส เรื่องนานา จิตเกษม จะตามมา เข้านิพพาน วิสุทธิ์ปัญญา เกิดขึ้นได้ กับทุกคน มีหรือจน ไม่ได้เกี่ยง เพียงค้นหา นำประพฤติ ไม่เกี่ยวข้อง กับเวลา ไม่นานช้า ได้เข้าถึง จิตสุขเย็น เป็นชาวพุทธ พุทธแต่นาม ขาดปฏิบัติ ไม่ขจัด อวิชชา ตัวกูเห็น กูทำถูก เอ็งทำผิด ผิดเช้าเย็น ข้าไม่เห็น เอ็งทำถูก แม้ครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้ ชาวไทยพุทธ สุดยุ่งเหยิง หลงระเริง ในรูปรส กลิ่นและเสียง ไม่นานช้า ชาติจะล่ม จมอยู่เคียง เป็นความเสี่ยง ของชาติไทย แต่โบราณ มัชฌิมา ปฏิปทา ชาวพุทธรู้ เพียงแต่รู้ ไม่ปฏิบัติ ไร้สุขศานต์ อวิชชา เข้าครอบครอง จิตระราน ความสมาน สามัคคี ขาดหายไป ทางสายกลาง เป็นแนวทาง ความดับทุกข์ มากเกิดทุกข์ น้อยเกิดทุกข์ ความสุขหาย ไม่มากไป ไม่น้อยไป สุขใจกาย การขับถ่าย หากบ่อยครั้ง กายอ่อนเพลีย ปากพูดมาก พร่ำแต่บ่น เป็นคนบ้า จิตเมื่อยล้า จากคิดมาก หลีกเลี่ยงเสีย ใครคนใด เดินสายกลาง ไม่อ่อนเพลีย ไม่ต่ำเตี้ย ทำได้เหมาะ เจาะสุขใน ทางสายกลาง ใช้มรรคแปด นำปฏิบัติ จิตต้องจัด เป็นจิตว่าง กระจ่างใส “ความเห็นชอบ” ถือเหตุผล อย่างจริงใจ ไม่ฝักใฝ่ ในฝ่ายใด ใจเป็นกลาง “ดำริชอบ” คิดให้พ้น สิ่งเกิดทุกข์ พยาบาท ทำให้ทุกข์ ไม่หรรษา การเบียดเบียน ก็เกิดทุกข์ สิ้นปัญญา จิตนำพา เป็นสีดำ ระกำทรวง “วาจาชอบ” ไม่กล่าวเท็จ ให้เสียหาย เข้าทำลาย สามัคคี ที่ปวดหัว พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ จิตขุ่นมัว หลงเมามัว พูดหยาบคาย อายผู้คน “การงานชอบ”การฆ่าสัตว์ จิตเศร้าหมอง อย่าหมายปอง ทรมาน ไร้เหตุผล ลักขโมย ผิดในกาม จิตวิกล งานต้องพ้น เรื่องเศร้าหมอง จึ่งค่อยทำ “เลี้ยงชีพชอบ” อยู่ในกรอบ ของกฎหมาย อย่าทำลาย ประเพณี ที่งามขำ ผิดวัฒนธรรม ของชาติ ละเว้นทำ สุดงามล้ำ ทำเพื่อชาติ เป็นชาติพลี จากคุณ : บุญสม - [ 7 ก.ย. 49 15:17:39 A:203.118.114.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 “ความเพียรชอบ” เพียรระวัง การทำบาป กำจัดบาป ไปให้สิ้น ไม่หน่ายหนี เพียรสร้างบุญ สร้างกุศล เป็นทวี เป็นศักดิ์ศรี ของตัวตน พ้นกรรมเวร “ระลึกชอบ” ถึงที่ตั้ง ของสติ มีสติ พิจารณากาย ที่หันเห มันไม่เชื่อ มันเปลี่ยนแปลง มันเกเร มันเสเพล มันไม่ใช่ เป็นของเรา มีสติ พิจารณา ความรู้สึก ดูให้ลึก ความสุขทุกข์ ไม่ให้เขลา สุขเมื่อได้ ทุกข์เมื่อพราก ใช่ของเรา เป็นเพียงเงา ที่แอบแฝง ไม่แน่นอน มีสติ พิจารณา เศร้าผ่องแผ้ว มันเกิดแล้ว ดับสูญสิ้น ให้คิดถอน ไม่ยึดติด ไม่คิดเอา ตะบึงตะบอน ไม่นิ่งนอน ให้จดจำ แล้วทิ้งไป มีสติ พิจารณา บุญกุศล บุญสร้างคน ให้เป็นคน ดีเหลือหลาย ไม่ได้ยึด ไม่ได้ติด ไว้ในใจ มีสิ่งใด สละสิ้น จิตว่างดี “ตั้งใจชอบ” จิตตั้งมั่น ในสมาธิ ตั้งสติ ได้แน่วแน่ มีราศี ความดีชอบ ให้หมั่นทำ เป็นทวี สมาธิดี ด้วยตั้งใจ ได้มงคล ทางสายกลาง ที่กล่าวมา นำพาสุข ทางโลกสุข ทางธรรมถูก จิตส่งผล จิตสงบ พาสังคม พ้นทุกข์ทน จิตของคน จึงต้องฝึก นึกทุกกาล เป็นชาวพุทธ ต้องกล้าหาญ ชาญฉลาด มิได้ขาด ฉลาดคิด จิตประสาน ฉลาดทำ ทุกเรื่องราว ถือเป็นงาน จิตห้าวหาญ กล้าทำดี มีมงคล ความกล้าหาญ เกิดขึ้นได้ ห้าข้อธรรม ให้จดจำ นำไปใช้ มีเหตุผล สร้างจิตแกร่ง ไม่อ่อนไหว ในจิตตน จึงเป็นคน น่ายกย่อง ผ่องอารมณ์ ข้อที่หนึ่ง “สัทธา” (ศรัทธา) คือความเชื่อ ในความเชื่อ จำต้อง มีเหตุผล เชื่อสิ่งที่ ควรเชื่อได้ ไม่หลงกล หากไหลหลง ในสิ่งใด จิตงมงาย อย่าสัทธา ตัวบุคคล เป็นที่ตั้ง อย่าคาดหวัง เขาจะดี ไม่เหือดหาย ในทุกครั้ง เกิดสัทธา จิตผ่อนคลาย จิตไม่คลาย จิตร้อนรน ใช่สัทธา เกิดสัทธา ตัวบุคคล พึงระวัง สิ่งคาดหวัง อาจมลาย ไร้หรรษา จิตมนุษย์ สุดจะหยั่ง ชั่งได้นา ความเมตตา อาจแฝงมา เพียงข้ามวัน เกิดสัทธา ในวัตถุ อาจโง่ได้ ถ้าไม่ใช้ จิตวิเคราะห์ จิตแปรผัน ความสัทธา กลายเป็นหลง ในทันควัน นานนับวัน ยิ่งหลงใหล จิตงมงาย ความสัทธา อันเกิดจาก จิตวิเคราะห์ จิตต้องเจาะ ให้รู้ลึก ถึงเส้นสาย เหตุที่มา ได้ปรากฏ ไม่เคยตาย ความจริงได้ พิสูจน์ จึ่งเชื่อตาม เมื่อสัทธา พิสูจน์แล้ว ว่าแท้จริง เชื่อในสิ่ง ที่เป็นจริง จึงกล้าหาญ จะกล้าพูด จะกล้าทำ ไม่รำคาญ ทำการงาน มีหลักการ ผ่านด้วยดี ข้อที่สอง นั่นคือ “ศีล”พึงประพฤติ อย่าได้นึก อย่าได้ติด คิดสงสัย รักษาศีล จัดระเบียบ วาจาใจ ให้งามใจ งามกาย งามวาจา ปฏิบัติ รักษาศีล อยู่เนืองนิตย์ ศีลลิขิต ให้เห็นธรรม สุขหรรษา จะทำกิจ สิ่งใดใด ใจเมตตา จำนรรจา ด้วยเหตุผล ตนเจริญ ข้อที่สาม “ความเป็นผู้ ศึกษามาก” รู้เหนื่อยยาก รู้หลากศาสตร์ ไม่ขวยเขิน รู้ดีชั่ว รู้ถูกผิด กล้าเผชิญ ยามก้าวเดิน ไม่ก้มหน้า หลบตาคน ใครผู้ใด ใฝ่ศึกษา ได้เป็นปราชญ์ ความสามารถ มีมาฝาก มากเหลือล้น กล้าพูดทำ ชำนาญกิจ จะได้ยล ความสำเร็จ จะเป็นผล ดลสุขใจ ข้อที่สี่ “กล่าวถึงพูดถึงความเพียร” มีความเพียร ทำกรรมดี สีสดใส ละทำบาป ทำแต่บุญ อยู่ร่ำไป จิตสดใส เมื่อเพียรทำ แต่กรรมดี ข้อที่ห้า คือ “ปัญญา” จิตรอบรู้ สิ่งควรรู้ ไม่ละเลย ไม่เมินเฉย จิตใฝ่รู้ ตามไปดู ไม่เกินเลย หากนิ่งเฉย ให้โง่เขลา เบาปัญญา คนใฝ่รู้ ต้องค้นคว้า ในทุกสิ่ง ไม่ประวิง รีบวิเคราะห์ เจาะปัญหา ให้รู้ซึ้ง ในเหตุผล ความเป็นมา ไม่นานช้า ได้รู้แจ้ง แหล่งเป็นไป “เวสารัชชกรณธรรม” ธรรมบทนี้ เป็นบทชี้ ทำให้เกิด ความกล้าหาญ ผู้ปฏิบัติ เชื่อมั่น ในคุณงาม จึ่งมีความ เชื่อมั่น ความดีตน มีปัญญา ไตร่ตรอง ความดีชั่ว ไม่เมามัว ต่อกิเลส ไม่สับสน แยกถูกผิด ที่เกิดขึ้น ได้แยบยล จึ่งเป็นคน ไม่หวาดหวั่น ต่อเหตุการณ์ เป็นชาวพุทธ นำประพฤติ นั้นดีแท้ ดีทุกแง่ ดีทุกมุม จิตมีฐาน จึ่งรับได้ ในทุกรูป ทุกเหตุการณ์ แม้เนิ่นนาน จิตแข็งแกร่ง แห่งความเพียร การฝึกจิต เป็นชาวพุทธ ต้องกระทำ ใส่ใจจำ นำปฏิบัติ ไม่ผิดเพี้ยน ทำจิตว่าง มีสติ ไม่ติเตียน ไม่หลีกเลี่ยงนำประพฤติ ยิ่งมงคล เป็นชาวพุทธ พุทธแต่นาม เหมือนกาฝาก นำความยาก ให้พุทธแท้ ทุกแห่งหน ท้ายที่สุด พุทธแท้ ต้องหมองหม่น ต้องทุกข์ทน เพราะกาฝาก มากเกินไป จิตของคนที่เร้น ในกาย จิตก่อเกิดมากมาย ต่อสู้ สังขารย่อมตามใจ จิตส่ง ดีชั่วเลวกระด้าง แน่แท้จิตแสดง 14 มีนาคม 2549 จากคุณ : บุญสม - [ 7 ก.ย. 49 15:21:23 A:203.118.114.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 เขียนเยอะจริงเยอะจังนั่งไม่ไหว "สาธุ" ไปร่วมด้วยช่วยกุศล ในโลกนี้คิดได้คงหายจน "น้ำใจ" ล้นประเสริฐเลิศจริงจริง จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 7 ก.ย. 49 18:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาเป็นซีรีส์เลยอะ จากคุณ : Kala_mydog - [ 7 ก.ย. 49 19:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วเข้ากับ เสียงเพลงสวดอินเดียที่ พระส่งมาให้ฟังเลยค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 7 ก.ย. 49 21:42:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ยังอ่านไม่จบ อ่า แต่อ่านแล้วใจเย๊นเย็น... จากคุณ : สนิทใจ - [ 7 ก.ย. 49 23:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรามีใจไว้รับรู้ดูดีชั่ว แล้วพาตัวให้รอดปลอดทุกข์ผ่าน เรามีจิตไว้คิดสร้างทางนิพพาน ทั้งดีชั่วไม่ต้องการทั้งสองทาง.... จากคุณ : เจียวต้าย - [ 8 ก.ย. 49 06:04:17 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณนัทตี้ พี่ขอบคุณ ที่ช่วยรับ อย่านั่งนับ อย่านั่งเบื่อ จิตประสาน อันความดี ทำด้วยจิต ติดทนนาน กายวาจา ช่วยประสาน งานเจริญ 0 คุณKala Mydog ขอบอกกล่าว ทุกเรื่องราว มียาวสั้น ชังสรรเสริญ จับใจความ มาวิเคราะห์ ให้เพลิดเพลิน บนทางเดิน มีขวากหนาม มีอำพราง 0 คุณทิกิ ช่างเปรียบเทียบ ได้เหมาะเจาะ ความไพเราะ คล่องทำนอง ต้องเนื้อหา จะให้ดี ต้องปฏิบัติ จึงงามตา ตามเนื้อหา พุทธองค์ ทรงแสดง 0 อ่านไม่จบ ไม่เป็นไร คุณสนิทใจ อ่านแล้วได้ ใช้ประโยชน์ ไม่แสลง อ่านแล้วร้อน ในเนื้อหา พาแสดง นั่นคือแสง แห่งนรก หมกไหม้ตน 0 อ่านแล้วเย็น มองเห็นทาง แห่งความสุข ไม่เกิดทุกข์ ไม่เกิดสุข อาจหลุดพ้น นั่งคือทาง พาสุขเย็น เป็นทุกคน เจียวต้ายล อาจเข้าถึงทางนิพพาน ด้วยความปราถนาดี บุญสม จากคุณ : บุญสม (knccjsk) - [ 8 ก.ย. 49 14:39:01 ]