ความเดิมจากตอนก่อน ยังไม่ถึงบ้านเลย เรื่องราวก็ยาวเหลือคณา ไม่ใช่ว่ากลัวจะอ่านกันไม่ไหว ทราบมาบ้างว่าท่านผู้อ่านเรียนสูงกันทั้งนั้น แต่กระนั้น เขียนยาวๆจะไประคายเคืองสายตาป่าวๆ ยิ่งจอภาพสมัยนี้ การทำงานมันซับซ้อน วุ่นวาย อากาศเปลียนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพกันดีๆนะครับ
ตอนนี้ที่จริงก็เขียนต่อจากตอนก่อน แต่กั๊กไว้ก่อน ดูกระแสตอบรับหน่อย อย่างงี้แหละครับ คนเริ่มรู้จักเราก็เริ่มเล่นตัว เริ่มหยิ่ง
ว่าแล้วก็เข้าเรื่อง ตอนนี้ มาถึงท่ารถเมืองที่อาศัยแล้ว
ลงรถมาก็ร่ำลาขอบคุณพี่เค้าที่อุปการมาตลอดทาง
ว่าแล้วเดินแบกสัมภาระ ออกตัวไปป้ายรถเมล์ ระหว่างทางดูวังเวง โล่งๆ ไม่มีรถเลย นึกไปว่าเราไปอยู่เมืองกรุงมานาน เห็นรถมากมายวุ่นวายจิต มาเจอนิ่งๆเลยผิดสังเกต
สาวมาอีกสามก้าวถึงรู้ เค้าปิดถนนนี้เอง
เนื่องด้วยเมืองเราได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพงานกีฬาชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ไอ่เราไม่รู้ไปมุดอยู่ไหนมา เค้าโปรโมทกันอย่างกะทาทาออก เอลนินโย่ เพิ่งจะโผล่มาเจอ
วันนี้วันสุดท้าย มีแข่งวิ่งมาราธอน วิ่งวนกันทั้งเมือง รถเมล์ไม่วิ่งสักสาย
ไอ่เรา กีฬากรูก็ไม่ได้เล่น คนยุโรปกรูก็ไม่ได้เป็น ต้องมาเดินมาราธอนกลับบ้าน
สำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทางจากสถานีรถไฟกลางเมืองโยทตาบอย มาจุดหมายปลายทางหอโรตารี่ ให้ลองนึกภาพตามอารมณ์ประมาณไปหอบของหนีภาษีมาจากหาดใหญ่ นั่งรถไฟมาลงหัวลำโพง แล้วเดินหอบของไปขายที่มาบุญครอง ในกรณีนี้ ทดไว้ในใจว่ามาบุญครองอยู่บนภูเขาทอง
โชคดีที่เอามาแค่ยี่สิบโล ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนขึ้นไปเก็บยอดนามาชะ มาให้พี่เบิร์ดเลย
ว่าจะไปขอเหรียญรางวัล แต่ไม่รู้จะเป็นชาติอะไรดี(อันนี้ท่านผู้อ่านไม่ต้องเสนอแนะ)
จากคุณ :
AKOKOROV
- [
8 ก.ย. 49 16:21:24
]