ฆาตกรรมในเกสต์เฮ้าส์
ตอนต้น
ผู้ตายเป็นชายชาวต่างชาติ ผิวขาว ถือหนังสือเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา มีชื่อตามหนังสือเดินทางว่า คริสปิน อัลแลน เอ็กเกิร์ต อายุ 47 ปี มีอาชีพเป็นโปรแกรมเมอร์อิสระ ภูมิลำเนาอยู่ในรัฐนิวยอร์ก เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ปีที่แล้ว โดยวีซ่านักท่องเที่ยว ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม...
สารวัตรหนุ่มใหญ่ฟังรายงานที่ร้อยเวรเจ้าของคดีซึ่งเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งความหอบกลับมาทำต่อที่ห้องพักของฝ่ายหลังช่วงนอกเวลางานอย่างตั้งใจ
สำหรับเขาและลูกน้องคนสนิทที่ทำงานอยู่ด้วยกันตรงนี้ ไม่ว่าคดีไหนก็ล้วนมีความสำคัญเท่ากันหมด เพื่อเห็นแก่ความรู้สึกของทุกคนที่สูญเสีย เพื่อปกป้องคนที่ไม่ได้กระทำความผิด และให้ความยุติธรรมกับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างเสมอหน้า แต่สำหรับฝ่ายผู้บริหาร และพวกนักธุรกิจทั้งหลาย คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวถือเป็นคดีใหญ่ ซึ่งเกี่ยวพันกับหน้าตาของประเทศ ซึ่งกำลังส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ และยังมีประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
อย่าให้ประเทศไทยต้องขายหน้า... เจ้านายใหญ่สั่งมาอย่างนั้น
แน่ละ นี่ไม่ใช่คดีแรก และคงไม่ใช่คดีสุดท้าย แต่ก็ไม่ควรจะเป็นคดีอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้น แล้วยังหาตัวคนร้ายไม่ได้ เหมือนคดีฆาตกรรมหญิงสาวชาวอังกฤษที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่เมื่อไม่กี่ปีก่อน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสั่นคลอนต่อชื่อเสียงของประเทศ แต่ยังสะท้อนถึงความไม่พร้อมและความไม่รัดกุมในการรักษาที่เกิดเหตุของตำรวจด้วย โดยแพทย์ที่เข้าทำการชันสูตรศพในวันนั้น ได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ระบุชื่อและหน่วยงานที่ตนสังกัด และบอกเล่าความบกพร่องในการของตำรวจให้ทราบ โดยเฉพาะเรื่องการจำกัดบุคคลที่เข้าไปในที่เกิดเหตุ เพราะเมื่อแพทย์เข้าไป ตำรวจก็ปล่อยให้นักข่าวที่รอทำข่าวเข้าไปในห้องด้วย ถือเป็นการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็ได้ลงจดหมายฉบับดังกล่าวในกระดานข่าวของเว็บไซต์ด้วย แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะมีคนให้ความสนใจกันแค่ไหน
ตอนนั้นเขาถูกยืมตัวไปช่วยราชการในอีกคดีหนึ่งที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนนายร้อยตำรวจตรีหนุ่มร่างสูงที่เป็นผู้รับผิดชอบคดียังไม่ได้โอนย้ายเข้ามาทำงานที่นี่
แต่เขาแน่ใจว่าคดีนี้ จะไม่คว้าน้ำเหลวอย่างคดีก่อนอย่างแน่นอน... ลูกน้องของเขาเป็นคนรอบคอบ และนายแพทย์ผู้ชันสูตรศพออกปากชมความพยายามในการรักษาที่เกิดเหตุอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้อีกด้วย
นายพันตำรวจโทเหลือบมองภาพถ่ายของศพ และสถานที่เกิดเหตุในจอคอมพิวเตอร์
ภาพแรกเป็นภาพศพชายผิวขาว ผมทอง รูปร่างอ้วนกลม ใส่แว่นตากรอบดำเลนส์หนาเตอะ สวมกางเกงบ็อกเซอร์ลายสก็อตสีแดงดำ กับเสื้อยืดสกรีนอักษรภาษาอังกฤษว่า NIRVANA ชื่อวงดนตรีร็อกชื่อดังระดับตำนาน ที่เคิร์ต โคเบน นักร้องนำของวงฆ่าตัวตาย มือขาวอวบอูมกำอยู่ที่ด้ามมีดปอกผลไม้ซึ่งปักคาอยู่บนอกซ้าย ใบมีดส่วนที่คมหันลงด้านล่าง ปลายด้ามมีดชี้เฉียงขึ้นไปทางด้านบน ในลักษณะเหมือนกับการจ้วงแทงลงมา
ตอนนี้ คนใส่เสื้อที่ว่าก็ตายตามนักร้องของวงไปแล้ว... แต่ไม่ใช่เพราะการฆ่าตัวตาย...
และไม่ได้ตายในทันทีเสียด้วย เพราะยังมีเวลายกมือขึ้นกำด้ามมีดที่ปักอกตัวเองก่อนหมดลม
ก็เป็นไปได้ ที่คนแทงตัวเองตายในลักษณะดังกล่าว แต่ท่าทางที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่าในการหวังผล คือ การแทงเข้าไปในอกตรง ๆ ขนานกับพื้น หรือแทงเสยขึ้นไป โดยเฉียงมีดขึ้นเล็กน้อย ซึ่งประการหลังนี้ ปลายด้ามมีดก็ควรจะชี้ลงไปทางปลายเท้า
และอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เขาไม่คิดว่านี่เป็นการฆ่าตัวตาย คือ ศพที่พบนอนแอ้งแม้งอยู่บนเก้าอี้หมุน แบบเก้าอี้สำนักงานซึ่งหงายหลังกลิ้งโค่โล่อยู่บนพื้นห้อง หันพนักเข้าไปหาโต๊ะคอมพิวเตอร์ บนเบาะนั่งมีเศษมันฝรั่งทอดชนิดเดียวกับที่ติดอยู่บนมือ และอยู่ในปาก แล้วบนโต๊ะก็ยังมีกระป๋องพริงเกิ้ลส์ รสซาวครีมกับหัวหอม ซึ่งยังมีมันฝรั่งทอดชนิดแผ่นจำนวนหนึ่งวางอยู่บนฝาในระยะที่เอื้อมมือหยิบได้สะดวก โค้กกระป๋องที่เปิดแล้วอีกกระป๋องหนึ่ง และแอปเปิ้ลปอกแล้ว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมกับส้อมสำหรับจิ้มอีกจานหนึ่ง
สารวัตรขยับขาเปลี่ยนท่าเป็นนั่งไขว่ห้าง เอนหลังอิงเก้าอี้หมุน แต่ แล้วเขาก็อุทานออกมาเบา ๆ คำหนึ่งด้วยความตกใจ เมื่อเก้าอี้ที่นั่งอยู่หมุนไปทางหนึ่งทำให้รู้สึกเหมือนจะเสียหลักล้ม แต่ความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นมาในวินาทีที่ได้สตินั้นนั่นเอง
ความไม่มั่นคงของเก้าอี้จะทอนแรงปะทะจากการแทงลงไปมาก โอกาสที่จะเจ็บตัวแต่ไม่ถึงตายมีสูงกว่า ถ้าหนุ่มอเมริกันชะตาขาดคนนี้คิดจะฆ่าตัวตายจริง ๆ ละก็ เขาน่าจะเลือกยืน หรือนั่ง หรืออยู่ในท่าอื่นที่มั่นคงกว่านั่งเก้าอี้หมุนแบบนี้
เขาคลิกเมาส์ย้อนกลับไปดูภาพถ่ายระยะใกล้ของใบหน้าผู้ตาย พลางส่ายหน้าด้วยความอนาถใจ
คนที่จะฆ่าตัวตายคงไม่มีอารมณ์แทงตัวเองทั้งที่ยังเคี้ยวพริงเกิ้ลส์อยู่เต็มปากหรอก
แม่บ้านของเกสต์เฮาส์พบศพนายคริสปิน เอ็กเกิร์ตเมื่อเวลา 7.15 น. ขณะเข้าไปทำความสะอาดห้องตามปกติ แพทย์เข้าทำการชันสูตรศพในที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 8.17 น. จากการชันสูตรศพเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้ตายเสียชีวิตมาได้ประมาณ 9 10 ชั่วโมง นอกจากบาดแผลถูกแทงแล้ว บาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกายของผู้ตายก็มีรอยแผลถลอกเป็นแนวสั้น ๆ คล้ายเกิดจากการเกาซ้ำ ๆ หลายรอย และผื่นยุงกัดที่ขาทั้งสองข้างเท่านั้น ส่วนสาเหตุ และพฤติการณ์การตายที่แน่ชัดต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการของแพทย์
สารวัตรฟังพลาง ยกมือกอดอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด และเอ่ยทวน แสดงว่าเวลาตายน่าจะอยู่ที่ประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่ม... ไม่มีบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ด้วย
ครับ สารวัตร ผู้หมวดตอบรับ ไม่พบร่องรอยการรื้อค้นเพื่อหาทรัพย์สิน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ... แต่ยังสรุปไม่ได้ว่ามีของมีค่า หรือเอกสารสำคัญอื่น ๆ หายไปบ้างหรือไม่ ต้องรอให้ญาติมายืนยันครับ
ตอนผู้ตายถูกแทงล้ม น่าจะมีเสียงดังโครมครามบ้าง ไม่มีใครเอะใจตามมาดูบ้างเชียวเหรอ
ผู้ใต้บังคับบัญชาส่ายหน้า ผู้ตายนั่งทำงาน หลับ แล้วหล่นจากเก้าอี้ หรือไม่ก็ทำเก้าอี้ล้มเป็นประจำ ตอนแรกได้ยินเสียงโครมคราม ก็ตกใจกันใหญ่ แต่ได้รู้แบบนี้ ก็ไม่มีใครสนใจเขาแล้วละครับ
แสดงว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ผู้ตายถึงยอมให้เข้ามาในห้อง สารวัตรสืบสวนสอบสวนออกความเห็น และหันไปถามผู้ใต้บังคับบัญชา พอจะรู้ไหมว่าผู้ตายมีเพื่อนสนิท หรือคนที่ไปมาหาสู่กันเป็นประจำหรือเปล่า
เท่าที่สอบถามผู้พักอาศัยในเกสต์เฮาส์เดียวกัน ผู้ตาย ไม่ได้คบหากับใครเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เจอหน้าก็ทักกัน คุยกันเล็กน้อยตามมารยาท มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าไปหาถึงในห้อง...
ชายหนุ่มขยับแว่นสายตา ยกสมุดบันทึกคดีขึ้นมาอ่านรายชื่อของบุคคลเหล่านั้น ซึ่งอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยมากที่สุด
มี แอน แฟนของผู้ตาย เป็นสาวเสิร์ฟในบาร์แห่งหนึ่งแถวถนนลอยเคราะห์ อีกคนหนึ่งเป็นชาวอเมริกัน ชื่อ แดนนี่ สแตนตัน เป็นโปรแกรมเมอร์อิสระ เป็นนักเขียนประจำของนิตยสารคอมพิวเตอร์ฉบับหนึ่งในอเมริกา และนิตยสารฟรีก็อปปี้ฉบับหนึ่งในเชียงใหม่ เรียนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกับผู้ตาย มาเจอกันที่เชียงใหม่โดยบังเอิญ ส่วนคนสุดท้าย คือ เจอโรม ดูลัค เป็นเจ้าของเว็บไซต์การพนันออนไลน์ ชาวแคนาดา มาเที่ยวพักผ่อน และแวะมาตามความคืบหน้าของงานโปรแกรมรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าที่เขาจ้างให้ผู้ตายทำ
(มีต่อค่ะ)
จากคุณ :
ปิยะรักษ์
- [
12 ก.ย. 49 20:18:27
]