ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีควันบุหรี่ มีแต่มิตรภาพและเสียงฮา....

หลังอิ่มจากมื้อค่ำ สหายด้วงชวนเปิดประเด็นว่าด้วย “สามเหลี่ยมอาถรรพณ์”
แว่บแรกที่ข้าพเจ้าและนายชงคิด กลับไม่ได้คิดถึง “สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” แต่อย่างใด
ด้วยพวกเรารู้ว่า สหายผู้นี้มักอุปโลกน์ตนเป็นกูรูแห่งโลกียศาสตร์
ถ้าหากเขาพูดคุยเรื่องลึกลับจริง ก็ดูจะค้านกับสิ่งที่เขาถนัดอย่างไม่น่าให้อภัย



นายด้วงเปิดประเด็นว่าสามเหลี่ยมนี้น่าจะมีชื่ออื่นที่เหมาะสมและน่าฟังกว่านี้  นายชงหันรีหันขวางคล้ายต้องการความเห็นจากข้าพเจ้า

“เอาอย่างนี้ ให้ชื่อว่าทางสามแพร่งแหล่งกำเนิดมนุษยชาติก็ละกัน” ข้าพเจ้าว่า

ดูเหมือนนายด้วงจะไม่ค่อยเห็นด้วย ในขณะที่นายชงมีสีหน้าคล้ายครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก่อนร้องด้วยความดีใจว่า

“ข้านึกออกแล้ว เอางี้ ให้มันใกล้เคียงกับสามเหลี่ยมเมอร์บิวด้า งั้นเรียก สามเหลี่ยมเมียของข้า ดีกว่า”

“เฮอะ ไอ้นี่ ช่างเล่นคำคล้อง”  


นายด้วงเห็นว่านายชงพูดถึงเมีย ก็เลยเสริมเข้าให้ว่า

“นี่ข้าไม่ได้ทะลึ่งนะ พวกเอ็งเชื่อไหมว่า โลกนี้น่ะ ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์สู้จิ๋มเมียไอ้ชงแล้ว”

นายชงรู้สึกคล้ายโดนหักหน้ากลางวงเพื่อนฝูง จะโกรธก็ยังไม่กล้า ด้วยต้องถามไถ่ที่มาก่อน

“เอ็งเอาอะไรมาพูดวะ ไอ้ด้วง ทะลึ่งแล้วไง”



นายด้วงค้าน “ข้าพูดจริง” สั้น ๆ แล้วกลับสู่หัวข้อที่เขาตั้งไว้แต่แรก คล้ายไม่ใส่ใจ

“ไม่ใช่ของแฟนเอ็งคนเดียวหรอก แต่ของสาวใหญ่สาวน้อยทุกคนน่ะ ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันหมด”

คล้ายนายชงยังไม่พอใจคำตอบ ข้าพเจ้าอ่านออกทางสีหน้า จึงถามแทนให้

“ด้วง เอ็งจะบอกว่าไอ้สามเหลี่ยมเมียใครหว่านี่คือยอดของวิเศษอย่างงั้นหรือ ?”

“ใช่” นายด้วงรับคำหนักแน่น “เอ็งเคยได้ยินไหมล่ะ ที่ว่า ใครปลุกเสกเลขยันต์น่ะเขาไม่ให้ลอดราวตากผ้าถุง”

“เออ เคย ไม่อย่างนั้นของดีจะเสื่อม” ข้าพเจ้าตอบ “แล้วไง”

“แล้วเอ็งเคยได้ยินเรื่องนี้ไหม” รอบนี้นายด้วงหันไปถามนายชง  

“เมียน้อยผสมเลือดประจำใส่น้ำให้ผัวกิน แล้วผัวก็หลงจนทิ้งเมียหลวงมาอยู่ด้วยน่ะ”

“เรื่องพรรค์นี้ข้าก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน” นายชงรับคำ



นายด้วงพูดต่อไปคล้ายนักวิชาการที่จบด็อกเตอร์มาทางด้านนี้โดยตรง

“ถ้าเอ็งมีของศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่าง แล้วเผอิญผู้หญิงเดินข้าม ของเสื่อมไหม ?”

“เสื่อม” ไอ้ชงตอบ ทั้งไอ้ชงและข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจขึ้นทีละน้อย

“ทีนี้ เอ็งเข้าใจหรือยัง หรือจะให้ข้าต้องรับรองอะไรอีก ไอ้ดำ ไอ้ชง”

“ไม่ต้องละ จริงของเอ็ง บรรดาคุณไสย์ทั้งปวงในโลก ข้าเห็นจะไม่มีอะไรเกินสามเหลี่ยมของเอ็ง” ข้าพเจ้าตอบ

“แล้วพวกเอ็งรู้ไหมว่าผีอะไรที่ไม่กลัวสามเหลี่ยมนี่” นายชงอมยิ้ม หายเคืองแล้ว และกลับเป็นฝ่ายถามบ้าง

“ข้ารู้” ข้าพเจ้าตอบ “ผีกระจู๋ ไง ถูกไหม ?”

เท่านั้น นายด้วง นายชงและข้าพเจ้าก็ปล่อยกร๊ากกันครืนใหญ่


ก่อนแยกย้ายกัน นายด้วงยังได้ยกเอาบาลีสุดมั่วขึ้นมาเจริญพรให้เพื่อนฝูงฟังอีกบทหนึ่ง  ความว่า…

“จำคำข้าไว้ ไอ้ชง ไอ้ดำ คณัง รูปี อิตถี รูปัง”

“เฮอะ ไอ้นี่เล่นคำบาลี แปลว่าอะไรวะ” นายชงอดถามไม่ได้

“คณังรูปี อิตถี รูปัง ก็... อันว่านารีทั้งปวงมีรูเป็นอาวุธไงโว๊ย...ฮ่า ๆ ๆ”


เย็นวานนั้น ใครที่อยู่ในละแวกนั้นเป็นอันต้องได้ยินสามสหายบอกใบ้เลขเด็ดไว้แทงงวดหน้า ชนิดสองตัวสามตัวแทบไม่ต้องกลับเลย ไม่ 55 ก็ 555 รับประกันว่าถ้าไม่ถูกเงินก็ถูกกินเป็นแน่แท้...