CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    @ เริ่มต้น ณ ถนน.... จบ ณ หัวใจ @

    @ เริ่มต้น  ณ ถนน.... จบ ณ หัวใจ @ โดย อุณากรรณ

            แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านสีครีม ส่งให้ภายในห้องสว่างขึ้นหลังจากที่ตกอยู่ในความมืดมิดแห่งราตรีมาหลายชั่วโมง นาฬิกาแขวนผนังเรือนใหญ่ซึ่งติดแนบอยู่บนกำแพงเหนือคอมพิวเตอร์เดินเสียงดังติ๊ก...ติ๊ก...ติ๊ก อันเป็นเพียงเสียงเดียวในห้องแห่งนี้

            จู่ๆร่างที่นอนเหยียดตามความยาวของเตียงซึ่งตั้งอยู่ชิดผนังฝั่งตรงกันข้ามกับนาฬิกาก็ผวาลุกขึ้นคล้ายว่าจิตใจส่วนลึกของคนผู้นั้นกำลังกังวลอยู่กับอะไรบางอย่าง ดวงตาสีฟ้าเหลือบขึ้นมองนาฬิกาก่อนจะผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมสบถอย่างหัวเสีย

            “Scheisse” ร่างสูงปราดเข้าไปยืนชิดหน้าต่างดึงรูดม่านให้เปิดออกยอมให้แสงตะวันส่องฉายลงบนพื้นห้องอย่างเต็มที่ ดวงตาคมลึกเพ่งมองลงไปยังพื้นถนนเบื้องล่าง

            แม้จะเป็นยามเช้าจวนสายในฤดูร้อนซึ่งผู้คนในเมืองหนาวมักจะออกมาเดินรับไอแดดอุ่น หากถนนระหว่างหอพักนักศึกษาก็ยังว่างเปล่าและเงียบสงบ ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเบือนหน้าจากถนนไปมองรายงานเล่มโตที่ดึงรั้งให้เขาจมอยู่กับมันจนเกือบรุ่งสางจึงได้เข้านอน เขาหันกลับไปมองถนนอันไร้ผู้คนอีกครั้งอย่างปลดปลง

            หากยังมิทันได้หมุนตัวออกห่างจากหน้าต่าง สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นหญิงสาวร่างเล็กวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากประตูหอพักฝั่งตรงกันข้าม ผมสีดำที่เคยรวบผูกเป็นหางม้า หรือถักเป็นเปียเดี่ยว วันนี้กลับถูกปล่อยสยายให้แสงแดดและสายลมยามเช้าโลมไล้

            โธมัสยืนกอดอกอิงกรอบหน้าต่างมองร่างนั้นวิ่งหายไปจนลับสายตา รอยยิ้มเอื้อเอ็นดูปรากฏบนใบหน้า เธอคงตื่นสายเฉกเช่นเดียวกับเขา อาจเป็นเพราะรายงานที่ต่างเนื้อหารายวิชา หากเล่มโตคล้ายกัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะเกมออนไลน์ที่เขาเคยได้ยินเธอบ่นว่าไม่เคยชนะสักทีและอ้อนวอนขอสูตรเกมกับเพื่อนชาวเกาหลีในMensa....โรงอาหารของมหาวิทยาลัย

            ท่าทีเธอในยามออดอ้อนช่างน่าดู เสียงพึมพำ...bitte bitte ...ได้โปรดเถอะ ได้โปรด ช่างน่าฟัง ใจเขายามนั้นร่ำๆอยากเป็นหนุ่มเกาหลี หน้าตี๋ ตาตี่ มากกว่าจะเป็นหนุ่มด๊อยช์ ร่างสูงใหญ่ ผมสีทอง ตาสีฟ้าอย่างที่เป็นอยู่

            ความเร่งรีบให้ทันเรียนในคาบแรกของเธอทำให้เขาอดชมการแสดงกายกรรมจากหญิงสาวชาวเอเชีย ที่คงแสร้งว่าก้อนอิฐที่เรียงสูงจากพื้นประมาณหนึ่งฟุตเพื่อกั้นเขตสนามหญ้าหน้าหอพักกับถนนเล็กๆเป็นเส้นลวดเส้นเล็กซึ่งถูกขึงสูงเทียบกับตึกสิบชั้น เธอจะกางแขนสองข้างเลี้ยงตัวอยู่บนก้อนอิฐไปจนสุดทาง ในยามที่พลาดหากอารมณ์ดีเธอก็จะหัวเราะแล้วเริ่มใหม่ ทว่าในยามที่อารมณ์ขุ่นมัวเขาจะเห็นเธอยืนถอนหายใจแล้วก็เมินกับก้อนอิฐนั้นพาตัวเองลงมาเดินบนพื้นถนนอย่างที่คนทั่วไปกระทำกัน

            ไม่ว่าอารมณ์ของเธอจะอยู่ในระดับดีมากหรือลดต่ำฮวบลงไปจนถึงขั้นขุ่นมัว หากเธอก็นำรอยยิ้มมาเยือนใบหน้า พาความสุขมาสู่หัวใจเขาได้เสมอ

            Pamida  Bvonsakdichotikul นั่นคือชื่อและสกุลของเธอ แม้นไม่เคยพบปะพูดคุยกัน หากเขาก็รู้ ก็จะยากอะไรในเมื่อเธออยู่ชั้นสอง และเป็นห้องที่สามนับจากมุม บวกรวมถึงการที่เขามีเพื่อนอยู่ชั้นสี่ในหอพักแห่งนั้นจึงรู้ถึงการเรียงหมายเลขห้อง จากนั้นก็ตรงไปดูที่กล่องรับจดหมาย ชื่อของเธอติดหราราวกับรอการค้นพบจากเขา

            ‘ผมอยากรู้จักเพื่อนคุณ’ เขาเคยบอกหญิงสาวชาวโปแลนด์ผู้เป็นแฟนกับเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนกับเธอในช่วงก่อนคริสมาสต์ปีที่แล้ว หากคำตอบที่ได้ก็บั่นทอนกำลังใจเขาอย่างที่สุด

            ‘เธอมีแฟนแล้ว’ ก็คงจะจริงเพราะในวันหยุดเขามักจะเห็นเธอไปยืนรอหนุ่มเอเชียซึ่งคงจะเป็นคนชาติเดียวกันกับเธอที่ป้ายรถเมล์อยู่บ่อยๆ มาช่วงสามสี่เดือนหลังนี่แหละที่เขาไม่เห็นหนุ่มคนนั้นมาเยือนเมืองนี้อีกเลย

            เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นได้ ตราบจนกระทั่งวันนั้น...วันที่เขาคาดคะเนว่า เธอและชายหนุ่มของเธอคงบอกลากันไปแล้ว โธมัสยิ้มกับกระจกบานใส...โอกาสของเขามาถึงแล้ว ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาอีกครั้งแล้วต้องรีบคว้าผ้าเช็ดตัวตรงดิ่งเข้าห้องน้ำด้วยจวนใกล้เวลาเรียน


            พามิดาพยายามถ่างตาซึ่งกำลังหรี่ปรือเพราะความง่วงงุน หูก็เฝ้ารอเสียงระฆังจากโบสถ์เก่าแก่ของเมืองซึ่งอยู่เยื้องกับตึกเรียน เธอเฝ้าสังเกตและเปรียบเทียบกับนาฬิกาข้อมือมาหลายคราแล้วว่า หากเสียงเหง่งหง่างจากโบสถ์ดังเมื่อไหร่ เสียงนั้นก็ราวกับเสียงสวรรค์ปลดปล่อยเธอจากห้องเรียนอันแสนน่าเบื่อและเฟรา บล็อค อาจารย์หญิงชราผู้แสนเฉื่อยชา

            ในที่สุดเสียงระฆังก็ดังขึ้น หญิงสาวแทบจะกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ หากเธอก็ยังนั่งอย่างสงบ ดวงตากลมโตจ้องเป๋งไปยังกระดานอย่างนักศึกษาที่ดี ก่อนจะแอบปรายตามองเพื่อนข้างๆ อันนา เพื่อนสาวชาวเยอรมันแอบส่งยิ้มให้อยากรู้กัน อาหมัด เพื่อนร่วมชั้นชาวปาเลสไตน์อมยิ้มและยักคิ้วให้คล้ายจะบอกเป็นนัย....ฉันรู้นะว่าเธออยากเอ่ยลา... Tschuess  กับเฟรา บล็อคแค่ไหน พามิดายักคิ้วกลับไปพลางเชิดหน้าท้าทาย...นายก็เหมือนกันแหละน่า

            “ชู้ส” หลังจากทำปากจู๋เอ่ยคำลากับอาจารย์ไปแล้ว พามิดาก็กวาดเก็บเครื่องเขียนทุกชิ้นและสมุดเข้ากระเป๋า ระหว่างที่กำลังยื้อแย่งกระเป๋าดินสอและคาดคั้นเอาคำแปลตัวอักษรเกาหลีที่ถูกจารึกลงด้านในของกระเป๋าจากเพื่อนหนุ่มชาวเกาหลี อันนาเพื่อนสาวชาวเยอรมันก็หันมาเอ่ยชวน

            “แพม...ไปดื่มกาแฟไหม” แม้นอันนาจะไม่เอ่ยชื่อร้านออกมา กระนั้นพามิดาก็รู้ อันนาคงจะไม่ย่างกรายเข้าไปในคอมฟี่ช้อปแห่งอื่นของเมือง นอกเสียจากร้านซึ่งตั้งอยู่หัวมุมถนนคนละฟากฝั่งกับที่ทำการไปรษณีย์ ร้านซึ่งมีบาริสต้าหนุ่มมาดเข้มผู้สวมต่างหูเงินห่วงเล็กสามห่วงบนใบหูข้างซ้ายที่อันนาคลั่งไคล้และเทียวไล้เทียวขื่ออยู่หลายเดือน

            “ไปสิ” พามิดาหันไปตอบแล้วกระชากกระเป๋าดินสอจากเพื่อนหนุ่มชาวเอเชียพลางถลึงตาใส่และคาดโทษว่าเธอจะฟ้องอึนมีแฟนสาวต่างคณะถึงพฤติกรรมอันไม่น่ารักของเขา หากคนถูกขู่กลับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นเหยียบโต๊ะเล็กเชอร์ไต่ลงไปยังพื้นเบื้องล่างเมินเฉยต่อบันไดทั้งสองข้างของห้องเรียน

            พามิดาย่นจมูก นิ่วหน้ากับการกระทำของเพื่อน ถึงแม้การขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเล็กเชอร์เพื่อหันหน้ามาคุยกับเพื่อนซึ่งนั่งอยู่แถวหลังหรือการเดินบนโต๊ะเล็กเชอร์นั้นจะเป็นเรื่องปกติของนักศึกษา หากเธอก็ทำใจให้ยอมรับไม่ได้สักทีก็ประเทศที่เธอจากมานั้น การที่จะขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ เหยียบเก้าอี้เรียน เธอต้องยกมือกราบแล้วกราบอีกด้วยกลัวสอบตก กลัวบาปกรรม

            ทันทีที่ก้าวเข้าไปในร้านอันนาก็ปราดเข้าไปนั่งบนสตูลสูงหน้าเคาน์เตอร์ส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้หวานใจแล้วสั่งเอสเปรสโซให้ตนเอง พามิดาก้าวเข้าไปนั่งข้างๆ

            “คาปูชิโน่ แล้วก็...” ยังไม่ทันที่เธอจะสั่งจบ สาวเสิร์ฟประจำร้านที่คุ้นหน้ากันดีก็เอ่ยแทรกพร้อมส่งยิ้มให้

            “บาแก็ตทูน่า” หญิงสาวรับคำแล้วยิ้มเขิน จริงๆแล้วก็ไม่แปลกหรอกที่สาวเสิร์ฟหน้าสวยจะจดจำได้เพราะทุกครั้งที่เธอเข้ามาเป็นแขกร้านนี้เธอจะสั่งเมนูเดิมซ้ำๆโดยเฉพาะ เจ้าบาแก็ต...ขนมปังฝรั่งเศสที่ถูกหั่นให้มีขนาดความยาวเท่าฝ่ามืออบจนกรอบด้านนอกหากด้านในยังนิ่ม แล้วผ่าครึ่งเติมทูน่าซึ่งผสมมายองเนสและเครื่องปรุงอื่นๆจนได้รส อันเป็นเมนูที่พามิดาลงความเห็นว่า...รสชาติเลิศสุดในร้าน

            อันนาขุดเรื่องสัพเพเหระมาเล่าในขณะเดียวกันก็ส่งสายตาชม้อยชวนไปยังหนุ่มมาดเข้มขวัญใจ พามิดาวางศอกลงบนเคาน์เตอร์ มืออีกข้างจับช้อนคันเล็กคนกาแฟไปมา พลางพยักหน้าหงึกหงัก เออออรับคำพอเป็นพิธี เพื่อมิให้เพื่อนสาวรู้ถึงความเบื่อหน่าย แสนเซ็งกับบทสาวเจ้าชู้ที่ตนแสดงอยู่

            ดวงตากลมโตดำขลับกวาดไปทั่วร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่คือนักศึกษาที่แวะเวียนมาสังสรรค์หลังชั่วโมงเรียน แล้วพามิดาก็ต้องอมยิ้ม ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นแคธี่เพื่อนสาวชาวโปแลนด์ก้าวเข้ามาในร้านและตรงดิ่งมาที่เพื่อนทั้งสอง

           น่าสงสาร ! แคธี่ผู้ยิ้มอย่างเริงร่าเข้ามาใกล้โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตนเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่จะได้รับตำแหน่งเพื่อนนางเอกจอมเจ้าชู้ต่อจากพามิดา

            “แพม ! ดีใจจังที่เธออยู่ที่นี่ ฉันมีเพื่อนจะแนะนำให้รู้จัก โสดสนิท และที่สำคัญเขาสนใจเธอมานานแล้ว” คนพูดวางมือลงบนไหล่เพื่อนสาว ก้าวเข้ามานั่งข้างๆเมินเฉยต่อกิริยาของพามิดาที่โน้มตัวลงไปวางคางบนเคาน์เตอร์ ถอนหายใจอย่างเอือมระอากับการจับคู่ของเพื่อน อันนาหัวเราะคิกคักอย่างไม่คิดจะปิดบังแล้วหันไปขยิบตาให้บาริสต้าหนุ่ม

    จากคุณ : อุณากรรณ - [ 19 ก.ย. 49 15:35:05 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com