หลังนี้เหรอ ทำไมไม่มีประตู หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังมองบ้านหลังเล็กที่ชายหนุ่มพามา บ้านหลังนี้ก็เหมือนกับบ้านทั่วไป ที่แปลกคือกำแพงบ้านเป็นก้อนอิฐสีขาวสลับเขียว ตรงกึ่งกลางแนวกำแพงนั้นเป็นช่องทางเข้าบ้านที่ไม่มีประตูกั้นอยู่
อย่า! ผมรีบร้องห้ามเธอ แต่ไม่ทันหญิงสาวสาวก้าวเดินเข้าไปบริเวณบ้าน โดยหารู้ไม่ว่าสภาพที่เห็นนั้นไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง
โอ้ย! เป็นที่คาดเดาได้ เธอรีบถอยกรูดออกมาจากบ้าน
เหมือนน้ำเย็น แต่มองไม่เห็น เธอพูดพลางใช้มือลูบต้นขาเบาๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
สิ่งใดจึงทำร้ายแม้กระทั่งดวงวิญญาณได้
นี่เรียกว่าตาข่ายห้วงสำนึก ทางเข้าบ้านที่ไร้ประตูมนุษย์ที่ยังมีชีวิตจะไม่สามารถมองเห็นมันได้ ส่วนผู้ที่ล่วงล้ำกล้ำกลายจะไม่รอดพ้นหูตาเจ้าของบ้านนี้ได้ วิญญาณที่อ่อนแอจะรู้สึกเหมือนก้าวขาลงในธารน้ำเย็น และยิ่งเดินเข้าไปลึกน้ำก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ผมอธิบายรวบยอดให้เธอฟัง พลางบอกต่อ ตามผมมา
บ้านหลังเล็กตั้งอยู่มุมของบริเวณรั้ว สิ่งที่อยู่กลางบริเวณนั้นคือสระน้ำขนาดใหญ่ ผมรู้ว่าเจ้าของบ้านรู้ว่าผมมา แต่กระนั้นเขาก็ยังแกล้งไม่สนใจ ด้วยความเปิดเผยยิ่งผมพาวิญญาณหญิงสาวเดินผ่านตาข่ายแห่งห้วงสำนึก ช่องทางถูกฉีกออก เมื่อใยที่ถักร้อยขาดลง เจ้าของใยก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น
ว้าย! หญิงสาวร้องเสียงหลง เมื่อมองลงไปในสระน้ำ
มีคนตายอยู่ในสระ เธอพูดเสียงตระหนก คล้ายกับลืมไปว่าตัวเองนั้นก็เป็นคนตายแล้วเช่นกัน
ดูดีๆ ไม่ใช่คนตายหรอก ผมยืนฝ่ามือลงแตะบริเวณผิวน้ำ มวลน้ำที่เคยสงบนิ่งพลันสั่นกระเพื่อมขึ้นลง จากคลื่นลูกเล็กกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่จนที่สุดเกิดเสียงตูมใหญ่ น้ำทั้งสระหายไป คนที่ก้นสระก็หายไปด้วย
ฝีมือดีขึ้นมากเลย คุณตำรวจ เสียงพูดขึ้นที่ด้านหลังผม
ก็อยากทดสอบผมไม่ใช่เหรอครับ
ชิ ทำเป็นรู้ทัน วันนี้มีเรื่องอะไรมาอีกล่ะ เสียงแง่งอนคล้ายตัดพ้ออยู่ในที
อยากให้ช่วยตามหาคนในรูปนี้หน่อย มันเป็นฆาตกรต่อเนื่องฆ่ามาหลายคนแล้ว ผมล้วงแผ่นภาพที่พิมพ์มาจากศพของหญิงสาว
รวมถึงแม่สาวน้อยนี่ด้วยหรือเปล่า เจ้าของเสียงเดิมเดินเข้าไปหาร่างวิญญาณของหญิงสาว พลางยกมือของลูบไล้ใบหน้า หญิงสาวอุทานขึ้นเมื่อพบว่ามือนั้นสามารถจับต้องเธอได้
น่าสงสารยังเด็กอยู่แท้ๆ เจ้าของเสียงเดิมพูดเสริม แต่ก็ลดมือลงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่พอใจ
ว่าฉันเด็ก แล้วเธอนะเป็นผู้ใหญ่มากหรือไง หญิงสาวทำหน้างอพูดเสียงแข็ง
หากดูหน้าตาแล้ว ก็สมควรที่วิญญาณหญิงสาวจะโกรธอยู่บ้าง เพราะว่าเจ้าของบ้านที่ผมพามาหานี้ ดูหน้าตาแล้วอายุไม่น่าจะเกินสิบแปดปี แต่อันที่จริงแล้วมันก็เหมือนกับบ้านหลังนี้ ไม่มีอะไรเป็นจริง เมื่อยี่สิบหกปีก่อนหลังเกิดเหตุการณ์นั้น ผมถูกรับตัวมาดูแลรวมถึงการอบรมจากเธอ ปิช
ปิช คือหญิงสาวเจ้าของบ้านหลังนี้ รูปร่างหน้าตาแม้ผ่านวันคืนก็ไม่เคยเปลี่ยน มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่บ่งบอกระยะเวลาอันยาวนานของชีวิตที่ล่วงมา ผมไม่อาจนับอายุที่แท้จริงของเธอได้ และเธอก็ไม่เคยตอบคำถามนี้แก่ผม จากการคาดคะเนรวมถึงภูมิหลังที่เธอเคยเล่าให้ฟัง ถ้าจะนับอายุแล้วคงไม่ต่ำกว่าหกสิบปีเป็นแน่ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับโลกที่ผมอยู่ โลกอันแท้จริง
ปิชเพียงยิ้มที่มุมปาก ไม่ถือโทษที่โดนวิญญาณของหญิงสาวโกรธ เธอยกกระดาษขึ้นมาดูแล้วจ้องมอง ผมรีบยืนบังร่างวิญญาณของหญิงสาว แล้วกระแสสำนึกจำนวนมหาศาลก็ไหล่ทะลักออกจากปิช กระแสสำนึกนี้จะแผ่ขยายออกทุกทิศทุกทาง ข้ามหมู่บ้าน ข้ามเมือง ข้ามประเทศ หรือแม้กระทั่งปกคลุมทั้งโลก เพื่อตามหาฆาตกรในรูป
เจอแล้ว ปิชพูดพลางสบัดมือลงบนกระดาษแผ่นเดิม เส้นสายสีเหลืองเรืองรอง ไหลออกมาจากปลายนิ้ววาดเป็นสถานที่อยู่อาศัยของฆาตกร
[[อ่านต่อด้านล่างครับ]]
จากคุณ :
egotech
- [
20 ก.ย. 49 22:24:29
]