อ่านหนังสือพิมพ์เมื่อสองสามวันก่อน เจอว่าโรคใหม่ปากมือเท้า ด้วยความสนใจรีบคลิ๊กเข้าไปอ่านดูเพราะมันอาจจะตรงกับโรคที่นัทตี้เป็นอยู่
ปาก หยับ ๆ เหมือนเคี้ยวไข่ฝรั่ง เอ๊ยหมากฝรั่งตลอดเวลา
มือ หยิบโน่นหยิบนี่เข้าปากได้ทั้งวัน
เท้า เดินขึ้นเดินลงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งแดดจ้าเท่าไหร่ยิ่งเดินขึ้นที่สูง รู้สึกว่าโรคนี้เป็นหนักขึ้นทุกวัน
เอ๊ะ ผิดคาด มันไม่ใช่โรคเดียวกับที่นัทตี้เป็นอยู่
อาการของโรคมันจะมีเม็ดในปาก เป็นไข้ แล้วตาย โอ้โห มันน่ากลัวนะตายได้ด้วย
ในข่าวบอกว่าโรคนี้เป็นในเด็กเท่านั้นนะ
เด็กไทยตายไปแล้วหกคน เศร้าใจแทนพ่อแม่ของเด็ก ๆ เหล่านั้นจริง ๆ เพราะนัทตี้เองก็เป็นแม่ รู้ดีว่าความรู้สึกของพวกเขาเหล่านั้นแย่ขนาดไหน
โรคนี้ยังไม่ได้หยุดแต่เพียงแค่นี้ หลังจากที่หนังสือพิมพ์ยืนยันแล้วว่าระบาดในเด็กเท่านั้น ก็ชักจะไม่เป็นความจริง
คิดดูสิจะจริงได้ไง ? ระบาดในเด็กไม่กี่วัน ก็เริ่มระบาดเข้ามาในกลุ่มผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดกับนัทตี้เสียด้วย เพิ่งเป็นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวานนี้เอง
ที่หน้าจอคอมฯ เอ็มเอสเอ็น
เพื่อน " นัทตี้ อยู่เปล่า"
นัทตี้ ส่งสัญญลักษณ์ไปเป็นรูปหลับตายักคิ้ว อย่างเดียวเท่านั้นจริง ๆ
เพราะหลังจากนั้น อู๊ย..ชื่อใครต่อใครโผล่มาให้เห็นกันตั้งหลายชื่อแน่ะ เพื่อนรักบ้างไม่รักบ้าง รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้างหลายท่านมารวมตัวเป็นชุมชนแออัดอยู่หน้าเดียวกันบนจอคอมฯ แทบระเบิด
ถ้าอยู่ใกล้ ๆ คงได้ยินปากที่พะงาบขึ้นพะงาบลงของบรรดาเพื่อน และเพื่อนของเพื่อน โวยโน่นนี่อย่างต่อเนื่องแน่นอน
คิดดูแล้วกันตัวอักษรนะขึ้นมาจนคอมฯ รับแทบไม่ทัน ไม่ได้หยุดเลย พรึบ พรึบ พรึบ สีเขียว แดง ดำ ฯลฯ ลายไปหมด
ปกตินัทตี้เองก็เป็นคนชอบคิดบ้า ๆ บอ ๆ ขำ ๆ ไปตามเรื่องตามราว ไม่ค่อยเอาดีเท่าไหร่นักทางความคิดลบ ๆ
แต่คราวนี้กลับนึกไปในทางลบได้ไงไม่รู้ จินตนาการไปว่ามือของเจ้าหล่อนทั้งหลายต่างเร่งพิมพ์เข้ามารายงานสถานการณ์รายวันสั้น ๆ ให้นัทตี้อ่านพร้อม ๆ กันโดยมิได้นัดหมาย
ที่รู้จักได้คุยกันบ่อย ๆ น่ะไม่แปลก แต่คนที่ไม่รู้จักนี่สิดันรายงานด้วยซึ่งไม่เคยปรากฏในเอ็มเอสเอ็น จะว่าพระจันทร์เต็มดวงก็ไม่ใช่อีก
งั้นขอเรียกว่าเพื่อนรวม ๆ กันไปแล้วกันนะเพื่อสะดวกในการอธิบาย เพื่อนทั้งหลายของนัทตี้จะเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่โรคปากมือเท้า แต่ยังก่อน เพราะตอนนี้มันแค่ลงปากกับมือเท่านั้น ยังฟันธงไม่ได้ว่าพวกเจ้าหล่อนเป็นแน่นอนร้อยเปอร์เซนต์
ตัวอักษรขึ้นจออย่างรวดเร็ว บ้างเล่านิทานเรื่องกระเป๋าสามสิบใบ บ้างก็เล่าว่าห่วงสามีเธอบ้าง ห่วงลูก ห่วงโน่นห่วงนี่ยันไปถึงบ้านเมือง แอบสงสัยเหมือนกันว่าเพื่อนมีโรคเกี่ยวกับสมองแทรกร่วมด้วยหรือเปล่า
บ้างตลกแก้เครียด เถียงกันเองบ้าง วงในก็มี วงนอกก็มี ยังกะเล่นมวยแน่ะ แต่คำเขียนเหล่านั้นก็มีแต่คำสั้น ๆ จนนัทตี้จับไม่ได้ว่าเรื่องอะไร มั่วนี่หว่า
เนื่องจากว่าหน้าจอหนึ่งเราคุยกันหลายคน และบังเอิญมันขึ้นพร้อมกันสองหน้าจอ อีกจอหนึ่งมีเคียดแค้นร่วมด้วย พอนัทตี้เขียนถามว่า "อะไร" ก็ไม่ได้คำตอบ ไม่รู้จะแค้นอะไรหนักหนา
บรรดาสัตว์เลื้อยคลานวิ่งผ่านหน้าจอไปมาเป็นระยะ ๆ บ้างฮึ่ม ๆ เหมือนผีสิง ตูจะฆ่าเมิง ๆ นัทตี้ก็ได้แต่เขียนคำว่า "อะไร" แต่เพื่อนก็เห็นคำถามเราไม่มีความหมาย
เพื่อน๑ "ทหารเต็มเลย"
เพื่อน ๒ "ฟัง ๆ "
เพื่อน๓ "เรื่องใหญ่แน่"
นัทตี้ "โรคใหม่ลามไปถึงทหารแล้วเหรอ?"รอคำตอบเพื่อนเป็นนานด้วยความกระวนกระวายใจ แต่ไม่มีใครยอมตอบให้หายข้องใจสักคน
นัทตี้เลยฆ่าเวลาด้วยการทำกับข้าวจนเสร็จ มีตัวอักษรขึ้นเป็นคำสั้น ๆ เต็มหน้า นัทตี้ไม่ได้เลื่อนขึ้นไปอ่านหรอก เพราะเยอะจัด ส่งสัญญาณเป็นรูปหลับตายักคิ้วเข้าไปใหม่ให้รู้ว่ายังอยู่
เพื่อน "นั่น ๆ ตบเท้าเข้ากรุงแล้ว"
นัทตี้ "อะไรวะ"
เพื่อน ๑ "แถลงการณ์"
เพื่อน ๒ "ใช่"
เพื่อน ๓ "เน็ทจะตัดด้วยนะ"
เพื่อน๔ "มือถือด้วย แย่ฉิบ"
เพื่อน ๑ "ไปไหม"
เพื่อน ๓ "ไปไหน?"
เพื่อน ๑ "เดินโว้ย"
เพื่อน ๒"เพื่อชาติ ไปด้วย"
เพื่อน ๓ "อย่าไป"
เพื่อน ๔ "อย่านะ"
นั่นเห็นไหม เริ่มจากปาก มือ แล้วก็ลงเท้าเลย โรคนี้ติดผ่านทางหน้าจอได้ด้วย ว่าแล้วสองคนก็ปิดจอกันโรคระบาด
มารู้เอาเมื่อตอนเลื่อนขึ้นไปดูลิงก์หลายอันที่เพื่อนเขียนทิ้งไว้ให้ดูในเอ็มเอสเอ็น ว่าโรคมือเท้าปากเฉียบพลัน กำลังระบาดไปทั่วประเทศไทยตั้งแต่เมื่อวานนี้
เอ..ไม่ใช่แต่ในไทยสิ ยังข้ามทวีปผ่านดาวเทียมมาถึงนี่เป็นเวลาทุ่มครึ่ง หลังจากนั้นให้หลังไม่นาน มีโทรศัพท์กริ๋งกร๊างจากเพื่อนฝรั่งสองสามคนที่เขามีน้ำใจโทรมาถามด้วยความเป็นห่วงแทนพี่น้องทางเมืองไทย เพราะพวกเขารู้ว่านัทตี้เป็น Bangkoker
"ไม่มีอะไรหรอก เชื่อสิ อ้อขอบใจนะที่เป็นห่วง" นั่นคือคำตอบสั้น ๆ อย่างไม่ตกใจหรือกังวลของนัทตี้ทางโทรศัพท์กับเพื่อนต่างชาติผู้มีน้ำใจ
*รายงานที่ค้นพบใหม่และน่าสนใจเกี่ยวกับโรคมือเท้าปาก*
โรคระบาดมือเท้าปากนี้มีรายงานสถิติที่นักวิจัยต่างชาติสนใจทำนับเก็บเอาไว้ว่า มันเป็นโรคระบาดใหญ่ที่เกิดกับประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่ยี่สิบ บางทีก็ทำให้มีคนตายเพราะเดินมาก(ข้อพึงระวัง โรคนี้เวลาลงเท้าแล้วจะทำให้เดินไม่หยุด อาจถึงตายได้)
ถ้าพบตัวแพร่เชื้อก็อาจจะถูกส่งข้ามทะเลไปอยู่เมืองหนาวที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาถึงติดลบแทนเมืองร้อน เพราะเป็นการสเตอริไรด์ฆ่าเชื้อด้วยธรรมชาติไปในตัว
โรคมือเท้าปากนี้ต้องใช้ยาปฏิชีวนะชื่อ "พุชฯ" เข้าช่วยระงับการระบาด
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่น่าตื่นเต้นไปมากมาย เพราะมีวิจัยจากสถาบันวิจัยทั่วโลกได้ค้นพบและยอมรับแล้วว่า สายเลือดคนไทยเป็นสายเลือดพิเศษ เพราะมีเม็ดเลือดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งสี จะมีมากน้อยต่างกันไปตามเพศและอายุ แต่ก็สามารถค้นพบได้ในเลือดทุกคนที่เป็นคนไทย
ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์แปลกแตกต่างไปจากประชากรทุกทวีปในโลกนี้ที่ปกติมีแค่เม็ดเลือดแดงและขาวเท่านั้น
นอกจากนี้เม็ดเลือดสำคัญเหล่านั้นยังทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันและต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บให้คนไทยทั้งหลายได้เองอย่างอัตโนมัติ
โดยเลือดสามสีเหล่านี้จะมีกลไกการทำงานผ่านหัวใจโดยตรงทั้งสี่ห้อง หัวใจทำหน้าที่เปลี่ยนเลือดสามสีให้เป็นภูมิคุ้มกันสูบฉีดตรงขึ้นไปยังสมองปล่อยสารที่เรียกว่า"สามัญสำนึกที่ดี"เป็นอันดับแรก
ผ่านลงมาที่หัวใจอีกครั้งเพื่อนำสิ่งแปลกปลอมที่บังเอิญได้รับมาจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเช่น เชื้อโรคที่ผ่านอากาศเข้ามาทางหู หรือฝุ่นสกปรกที่ผ่านอากาศเข้าตา ปากหรือน้ำลายของผู้ป่วย เอาเข้ามาฟอกที่หัวใจอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับรับภูมิคุ้มกันที่ดีสูบฉีดไปปกป้องส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้เกิดความปิติ ความรู้สึกที่ดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย
ท่านที่ยังไม่ได้รับโรคระบาดนี้เข้าไป มีทางป้องกันได้คือ
๑. พยายามหาผ้าปิดปากของท่านไว้ให้รัดกุม ไม่พ่น ไม่ไอ ไม่คุยในที่สาธารณะ เพราะการพ่น การไอ การคุยจะทำให้ติดเชื้อโรคและแพร่เชื้อโรคจริงและเทียมให้กระจายได้ง่าย
๒.มือควรล้างด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้ออยู่เสมอ ไม่หยิบจับต้องหรืออยากได้ของที่คนแปลกหน้ายื่นให้ โดยเฉพาะวัตถุที่ทำด้วยพลาสติก ผ้า กระดาษ ไม้ เช่นกระดาษแผ่นป้าย หมวก เสื้อ ฯลฯ
๓.ไม่ควรพาเท้าย่ำไปตามถนนหนทางที่มีคนชุมนุมกันอยู่แออัด ถึงแม้ท่านอยากใส่รองเท้าโชว์ก็ตาม โรคระบาดจากเท้าผู้อื่นอาจจะติดท่านได้โดยไม่รู้ตัว
ควรล้างเท้าให้สะอาดทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน ตรวจดูเล็บและซอกนิ้วเท้า ใช้ครีมนวดเท้าด้วยทุกครั้ง
๔.เมื่อเสร็จกิจภาระหน้าที่นอกบ้าน ให้รีบกลับบ้านทันที
หากทุกท่านปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว โรคระบาดมือเท้าปากก็จะห่างไกลจากท่าน และทุกคนในประเทศไทยก็จะอยู่กันอย่างเป็นสังคมที่มีความสุขตลอดไป
จากคุณ :
NATTI นัทตี้
- [
21 ก.ย. 49 01:06:22
]