CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    พ่อแง่:-)อน เรื่องเล่าของเขาที่เราต้องเกี่ยว

    นึกถึงลักษณะของคำว่า "งอน" กันออกไหม ?
    ถ้าไม่ออกจะบอกให้คือ อะไรก็ได้ที่เป็นรูปร่างโค้ง ๆ ที่ไม่ใช่ลักษณะเส้นตรงแล้วกัน

    ถ้าเป็นคำชมแกมอิจฉากับคนอื่นจะว่า แหมเด็กคนนี้ขนตางอนจัง หรือว่า ว๊าย ดูก้นยายคนนั้นสิก้นงอนน่าอิจฉาจัง ฯลฯ

    ถ้าใช้เป็นคำประชดลูกประชดเพื่อนรัก เช่น เอ๊ะ นังนี่ โตจนป่านนี้ยังงอนจนปาฝาไม่ติด

    ถ้าใช้เป็นคำด่า"ของใช้"เฉพาะตัวให้ชาวบ้านได้ยินก็จะเป็น  เมียส้งตีงอะไรวะ เอะอะอะไรก็งอน

    นี่คือคำจำกัดความจากตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของคำว่า "งอน"

    อยากจะชี้ให้เห็นว่าลักษณะการใช้คำว่า "งอน"ในสองแบบข้างต้นนั่นพอเข้าไปออกความเห็นด้วยได้

    แต่ถ้าเป็นการใช้คำว่า"งอน" ในแบบที่สามนั้น ขอร้องไว้ ณ. ที่นี้ว่าอย่าได้แจ๋นไปออกความเห็นด้วยเชียว

    แต่ถ้าบุคคลนั้นเป็นผู้ที่มาเล่าให้เราฟังเองด้วยความไว้วางใจก็อนุโลมให้ฟังได้

    การฟังอย่างมีศิลปะที่อยากแนะนำคือ ฟังแล้วเงียบ หรือ ฟังแล้วทะลุหูซ้ายออกหูขวา หรือฟังแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ปลอบใจเพื่อน เท่านั้น



    แต่เรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ มันทำให้นัทตี้ได้ศิลปะในการฟังมาอีกหนึ่งอย่าง ค่อย ๆ อ่านแล้วคิดไปแล้วกันว่านัทตี้จะทำอย่างไร


    คริสตี้กับร็อฟ เป็นสามีภรรยากันมานาน มีลูกด้วยกันสองคน เขาทั้งคู่รักกันหวานจ๋อย

    ตอนที่จีบกันใหม่ ๆ เธออายุได้สิบสี่ปี ร็อฟสิบหกปี ตอนนั้นร็อฟยังเรียนหนังสืออยู่ มีรายได้แค่เงินค่าขนมที่พ่อแม่ให้เดือนละนิดหน่อย

    แต่ถึงกระนั้น ร็อฟก็ยังแสดงความรักกับคริสตี้ด้วยการแอบเด็ดดอกไม้จากสวนที่บ้านของเขา เม้มมาฝากคริสตี้ทุกวันที่โรงเรียนหนึ่งปีเต็ม ๆ

    ร๊อฟเป็นคนอารมณ์ดีติดตลก เมื่อเริ่มทำงานเขาจะใช้เงินอย่างประหยัดบวกลบคูณหารถอดรูทหลายรอบกว่าจะควัก (แม้แต่ไอศครีมยังซื้อแค่แท่งเดียวผลัดดันดูดกับคริสตี้เลย)

    แต่ถึงอย่างไรคริสตี้ก็ยังรักเขา เพราะเขามักจะพูดว่าจะเก็บเงินทุกเหรียญ ไว้เพื่อสร้างอนาคตอันสวยหรูเพื่อชีวิตคู่ของเขาและเธอ

    วันหยุดงานเขาจะพาคริสตี้ไปเดินเที่ยวตามป่าเขา ริมลำธารชี้ชวนความงามของดอกไม้ให้เธอดู(ดูนะใจคน จากที่เคยขโมยดอกไม้จากบ้านแม่มาให้ ก็กลายเป็นชี้ให้ดูเฉย ๆ )

    หลังจากมีสัมพันธ์ทางกายและใจอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลานานตั้งแต่วัยรุ่น ทั้งสองก็จูงมือกันไปแต่งงานเมื่อต่างฝ่ายต่างมีงานทำ เช่าอพาทเม้นต์อยู่หลายปีจนมีลูก คริสตี้ก็ออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว

    เนื่องจากว่าฝรั่งมักจะเรื่องมาก พอมีลูกเพิ่มขึ้นมาอีกสองคน ก็รู้สึกว่าอพาทเม้นต์ที่เช่าอยู่ชักจะคับแคบ (โง่จัง สู้คนไทยไม่ได้เนอะ เอาฟูกมาปูกับพื้นนอนเรียง ๆ กันไปได้ตั้งเป็นสิบคน เหอ เหอ)

    สนามเด็กเล่นเล็ก ๆ อยู่ข้างล่างด้านหลังของตัวตึกและใกล้ถนน  ถึงจะมีรั้วเตี้ย ๆ กั้นก็ตาม แต่ร๊อฟก็กริ่งเกรงไปว่าเมียจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอ กลัวลูกถูกรถทับตาย

    ร็อฟกับเมียจึงตกลงใจซื้อบ้านเก่าได้หลังหนึ่ง เหมือนนกน้อยที่ช่วยกันสร้างรัง

    ไม่ว่าใครเมื่อมีบ้านเป็นของตนเองก็จะเกิดความภาคภูมิใจ จะจัดการตกแต่งซ่อมแซมบ้านของตนให้อยู่ในสภาพที่สะอาดตา สะอาดใจอยู่เสมอ ร็อฟและคริสตี้ก็ไม่พ้นกฎเกณฑ์อันนี้เช่นกัน



    คริสตี้ชอบดอกไม้ เจ้าหล่อนจะเอาเวลาว่างที่ลูกคนเล็กนอนหลับจัดตกแต่งทำสวนอยู่ตลอดเวลาในหน้าร้อน รอบ ๆ บ้านของเธอเต็มไปด้วยดอกไม้สารพัดสี ใครผ่านไปผ่านมาก็ชื่นชม มองดอกไม้เหล่านั้นด้วยความอิจฉาในความขยันของเธอ

    สามีเธอก็มองด้วยความโมโห เพราะนั่นหมายถึงเงินที่ต้องจ่ายออกไปมากมาย เพราะว่าดอกไม้หน้าร้อนนั้นต้องซื้อหามาด้วยราคาแพง และแน่นอนที่ว่า เมื่อหมดฤดูร้อนแล้วต้องทิ้งมันไปโดยเปล่าประโยชน์

    ด้วยเหตุที่เงินร่อยหรอลงไปกับการซ่อมแซมบ้านเป็นจำนวนมาก ร็อฟจึงเกิดความเครียด ผัวเมียที่เคยคล้อยตามกันในทุกเรื่องก็เกิดการกระทบกระทั่งกัน

    ร็อฟ. "เมียส้งตีงอะไรวะ เอ๊ะอะอะไรก็งอนยัน" เนี่ย..เขาพูดแบบนี้แหละ ไม่รู้ว่าแหย่เล่น หรือบ่น

    ถ้าคริสตี้โกรธจะไม่ยอมพูดแต่ออกอาการกระแทกกระทั้นไม่พอใจ บังเอิญวันนั้นจานที่ถืออยู่ในมือดันตกลงมาแตกได้จังหวะโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจ(เธอบอก)

    ขณะที่เธอก้มลงเก็บจานที่แตกอยู่นั่นเอง
    ร็อฟ. "อย่ามาทำกระแทกรดหัวอย่างนี้นะ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดโว้ย ใครพูดก่อนเป็นหมา" ดู..ดูความน่ารักของเขานะ

    คริสตี้โมโหที่ผัวใช้คำพูดหยาบคายและท้าทายเธออย่างนั้น ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้เธอเกิดทิฐิ พูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราดรับคำท้าขึ้นมาว่า "เออ กรูก็อยากจะรู้นักว่าหน้าไหนมันจะแน่จริงกว่ากัน ใครพูดก่อนเป็นหมานะ จำไว้"




    คริสตี้เล่าว่าคืนแรก หลังจากส่งลูกเข้าห้องนอนเสร็จ เธอก็อาบน้ำเข้านอนเหมือนอย่างเคย แต่ล็อคห้องนอนไว้แน่นหนา

    กำลังนอนเคลิ้ม ๆ หูก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ เหมือนคนเคาะประตูเบา ๆ แต่ไม่มีเสียงเรียก เธอก็คิดว่าฝันไป

    สักครู่มีเสียงดังโครม ๆ กระแทกประตูห้องนอนแทบพัง เธอลุกขึ้นไปเปิด ร็อฟนั่นเอง

    คริสตี้หมุนตัวเดินมานอนต่อ ร็อฟตามมาเอนตัวนอนลงข้าง ๆ แล้วยื่นหน้าไปจูบแก้มเธอเหมือนอย่างทุกคืน

    แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ไม่มีคำพูดว่า "ราตรีสวัสดิ์" หลุดออกมาจากปาก

    นั่นคือการทะเลาะกันครั้งหลังสุดถึงขนาดไม่ยอมพูดกันถึงสองอาทิตย์เต็ม แต่ถึงอย่างไร เขาทั้งสองคนยังคงอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน นั่งทานข้าวร่วมโต๊ะกันอยู่เหมือนเดิม

    คริสตี้เล่าว่า ช่วงที่ไม่พูดกันนี้ ต่างฝ่ายต่างหยิ่งต่างวางแผนไว้ในใจเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ ไม่ก็พูดกระแนะกระแหนล้อเล่นกับลูกตลก ๆ แต่กระทบอีกฝ่ายเล่น ๆ เป็นสงครามทางความคิดเล็ก ๆ




    จนกระทั่งวันหนึ่ง ร็อฟกลับบ้านมารีบตรงขึ้นไปยังห้องนอนเปลี่ยนเสื้อผ้า คริสตี้ได้ยินเสียงเหมือนกับการปาของหนัก  ๆ สักพักเขาลงมาแบมือให้เธอดูนาฬิกาปลุกที่เคยตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเตี้ยตรงข้างเตียง

    มันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คริสตี้ยืนยันกับนัทตี้ว่า เธอแน่ใจว่าสามีเธอต้องตั้งใจปามันทิ้งแน่ ๆ ไม่งั้นฟันเฟือง ตัวน๊อตต่าง ๆ คงไม่หลุดกระจัดกระจายออกมาเกลื่อนห้องอย่างนั้นแน่

    คริสตี้ก็ถือที่ตักขยะไปเก็บกวาดทำจนสะอาดตามหน้าที่แม่บ้านที่ดี ในหัวเธอก็ระแวงคิดไปว่า สามีเธอต้องวางแผนอะไรไว้อีกเป็นแน่

    ก่อนที่เธอจะเข้านอน ร็อฟยื่นรออยู่ตรงหน้าห้องนอนยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ เขาเขียนไว้ว่า
    "พรุ่งนี้แปดโมงเช้า ปลุกด้วยนะที่รัก" คริสตี้ยื่นมือรับกระดาษนั้นมาไม่ได้พูดอะไร




    วันรุ่งขึ้นร็อฟตื่นขึ้นมาเอง เขาเหลือบตาไปมองข้าง ๆ ตัว คริสตี้ตื่นแล้ว เอ..นี่มันกี่โมงแล้วหว่า มีประชุมเสียด้วยสิ
    ร็อฟมองไปที่นาฬิกาติดผนัง

    ตายโหง !!! มันบอกเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาพอดี

    ร็อฟรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง  หางตาเขาเหลือบไปเห็นกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งแผ่นวางอยู่บนโต๊ะ มันเขียนไว้ว่า

    "แปดโมงเช้า ตื่น ตื่น"

    จากคุณ : NATTI นัทตี้ - [ 23 ก.ย. 49 22:05:46 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com