CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    บ ท ห นึ่ ง ข อง เ ว ล า กับ...โชคชะตาสองหัวใจ

    ความมืดมิดโรยตัวคลี่คลุมรอบกายพร้อมๆ กับความเย็นยะเยือกจู่โจมจากปลายเท้าไล่ขึ้นมาจนจุกร้าวอยู่กลางอก   อากาศรอบกายคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นเก็บกว้านกักกัน  ลมหายใจสะดุดไหว…ร่างหนึ่งเพียรยื้อยุดฉุดรั้งลมหายใจสุดท้ายให้อยู่กับตัว…
    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    “เทียน! เทียน!”  เสียงเรียกสลับกับเสียงทุบประตูโครมๆ แต่เช้าตรู่  แทบจะปลุกเรียกให้คนทั้งคอนโดฯ ตื่น  หากห้องที่เป็นเป้าหมายกับเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่  คนเรียกเกือบจะลงไปตามยามให้มาไขกุญแจอยู่รอมร่อ  ถ้าเสียงโครมครามคล้ายอะไรตกจะไม่ดังขึ้นภายในก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้ารีบรน ไม่ถึงนาทีบานประตูก็ถูกผลักเปิด

    “หนาว….” เสียงทักแหบโหย  กับใบหน้าขาวจนเกือบซีดไม่ได้ทำให้แขกผู้มาเยือนสังเกตเห็น ที่สัมผัสได้คือกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งราวกับเจ้าตัวบริโภคด้วยการอาบ…ไม่ใช่ดื่ม!  เสียงที่เปล่งวาจาจึงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดขัดใจ

    “นี่เมาอีกแล้วเหรอเทียน?”  ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้ตอบ…หญิงสาวก็ใส่ต่อทันควัน  

    “แล้วทำไมเมื่อคืนถึงไม่รับโทรศัพท์  ถ้าหนาวมีธุระร้อนหรือมีเรื่องคอขาดบาดตาย  ป่านนี้…หนาวก็คงตายไปตรงนั้นแล้วใช่มั้ย…”  คนฟังระบายลมหายใจยาวกับคำต่อว่าต่อขานนั้น  ก่อนจะหลุดปากคำสั้นๆ ที่เขามักเป็นฝ่ายเอ่ยทุกครั้งไม่ว่าจะผิดหรือถูก…เพื่อตัดบทและลดทอนความบาดหมางที่จะเกิดตามมาหากทั้งสองฝ่ายร้อนแรงใส่กัน

    “ขอโทษ…”

    คนได้รับคำขอโทษชะงักไปเล็กน้อยยินยอมเก็บปากเก็บคำแต่โดยดี  ไม่ใช่เพราะหายโกรธแต่เป็นเพราะ ‘อย่างอื่น’ ที่สำคัญกว่า… “ช่างเถอะ…หนาวก็ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเหมือนกัน   แค่แวะมาเอาสคริปต์ที่ลืมไว้ เทียนก็รู้ว่าวันนี้หนาวมีแคสฯ แต่เช้า  และหวังกับบทนี้มากแค่ไหน น่าจะมีน้ำใจขับรถเอาไปให้หน่อย  ไม่ใช่มัวแต่นั่งกินเหล้าเมาหัวราน้ำอยู่!”

    คนฟังสูดลมหายใจยาวลึก  ชินชากับวาจาตรงๆ และความมุ่งมั่นตั้งใจจริงจนเกือบ ‘รั้น’ ของคนตรงหน้าดีเกินกว่าจะโกรธ  มากกว่านี้…เจ็บกว่านี้ก็เคยมาแล้ว   “ไม่เห็นต้องซีเรียสขนาดนี้เลย  เราเห็นหนาวทุ่มเทกับมันจนไม่น่าจะมีตัวอักษรตัวไหนที่จะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
    “ไม่! ยังไม่พอ!  เทียนน่าจะรู้…สำหรับหนาวต้องไม่มีคำว่าพลาด!” …โดยเฉพาะเรื่องงาน!   ชายหนุ่มต่อในใจพลางมองเมินออกไปด้านนอกกระจกใส  ใช่แล้ว! สำหรับน้ำหนาว…ไม่มีอะไรในโลกนี้สำคัญไปกว่า…งานกับการก้าวไปตามความฝัน!

    …ผู้ชายธรรมดาอย่างเขาจะคู่ควรกับนักแสดงชื่อดังเช่นน้ำหนาวไปได้อีกนานสักเท่าไหร่หนอ

    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

    เมื่อได้ระบายความขุ่นข้องและอีกฝ่ายไม่ตอบโต้กลับมาให้ยืดยาว ร่างบางทำท่าจะผลักบานประตูที่เจ้าของห้องแย้มไว้เล็กน้อยเข้าไปด้วยความเคยชิน  ฉับพลันมือใหญ่กลับพลิกออกแรงต้านไว้เป็นเชิงห้าม  ฝ่ายถูกห้ามตวัดสายตาคมฉับ ในขณะที่คนห้ามอึกอักอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

    “เอ่อ…คือ…อย่าเข้าไปเลยนะหนาว  ห้องมันรกน่ะ เมื่อคืนพวกไอ้บอลมากินเหล้า  แล้วสคริปต์ก็อยู่ในรถ เราไม่ได้เอาขึ้นมาหรอก”

    มีความระแวงตามประสาผู้หญิงในดวงตาคู่สวยเพียงชั่วแวบก่อนมันจะจางหาย  หญิงสาวหมุนตัวกลับเปลี่ยนทิศทางก้าวนำไปกดลิฟต์รอโดยไม่ให้เสียเวลาสักนาที ให้อย่างไร…เรื่องงานก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับน้ำหนาวอยู่ดี…

    เทียนพ่นลมหายใจออกดังเฮือก  ปิดงับบานประตูลงทันทีราวกับกลัวว่าคนที่เดินไปแล้วจะเปลี่ยนใจหันหลังกลับมา  เขากวาดสายตามองสภาพห้องที่ไม่ต่างจากคำบอกเล่าต่อน้ำหนาว…เพียงแต่มันไม่ได้ระเกะระกะไปด้วยขวดเหล้า  หากแต่เป็น…อย่างอื่น…  

    ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทึบตื้อในอกนาน  ชายหนุ่มรีบปัดความคิดของตัวทิ้ง  แล้วผละไปหยิบกุญแจรถก่อนจะรีบตามลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว…แต่นั่นก็ยังไม่ทันใจคนที่ก้าวฉับๆ  ไปตามทาง กระทั่งสายรัดรองเท้ายังไม่อาจต้านทานความรีบร้อนของเจ้าของ

    “เร็วหน่อยได้ไหมเทียน  สายมากแล้วนะ  โอ๊ย…” พูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงเร่งเร้าก็แปรเปลี่ยนเป็นอุทานด้วยความเจ็บปวด  คนที่ก้มๆ เงยๆ อยู่กับรองเท้ายกมือสะบัดเร่า พาให้ร่างสูงต้องรีบรุดเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง

    “ไหน…ดูซิ”  มือใหญ่จับมือเล็กขึ้นดู…หากเจ้าของกลับกระตุกกลับด้วยความไม่พอใจยังกรุ่นจางในอารมณ์

    “ไม่เอาน่าหนาว  ให้เราดูหน่อยว่าบาดลึกหรือเปล่า” ยื้อยุดกันชั่วครู่กว่าจะยินยอมยื่นให้ดู  แต่ก็เป็นไปด้วยท่าทีกระแทกกระทั้นราวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนที่กำลังก้มหาพลาสเตอร์ยาที่มีติดรถไว้เสมอ

    “เหลืออันนึงพอดี”  หน้าขาวเกือบซีดยิ้มกระจ่างชูสิ่งที่ค้นหามาจนเจอ  ก่อนจะบรรจงติดลงบนแผลพร้อมลมหายใจอุ่นๆ เป่าเพี้ยง
    “หายเร็วๆ นะครับคนเก่ง”  ‘คนเก่ง’ เชิดหน้าหันไปอีกทาง ปล่อยให้เจ้าของมนต์พิเศษโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจระคนเอ็นดู แล้วทรุดตัวลงติดสายรัดข้อเท้าเจ้าปัญหาให้อย่างเบามือ

    “ขอบคุณ” ช่างเป็นคำขอบคุณที่ไร้จิตวิญญาณราวกับคนพูดพูดกับเด็กยกน้ำในกองถ่าย  ไม่ใช่พูดกับ…แฟน  เทียนคิดขณะลุกขึ้นยืน ทว่าที่เอ่ยออกไปก็ยังเป็นถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความห่วงใย “เมื่อไหร่หนาวจะเลิกใส่ส้นสูงขนาดนี้เสียทีนะ  เราบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันอันตราย…”

    เสียงระบายลมหายใจพรืดใหญ่ด้วยความรำคาญจากคนฟัง  เรียกแววหมองหม่นให้ปรากฏในดวงตาคนพูดชั่วครู่  กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความอาทรลดน้อยลง “อย่าลืมทานข้าวกลางวันให้ตรงเวลานะหนาว  อ้อ! ยาเคลือบกระเพาะอยู่ในกระเป๋าเล็ก เราซื้อมาให้แล้ว  กินด้วย  ห้ามโมเมล่ะ”

    คนฟังตอบแทนด้วยการดึงแฟ้มใส่สคริปต์จากมือใหญ่แรงจนเกือบเป็นกระชาก  ตวัดเสียงใส่อารมณ์  “โอ๊ย! พอเถอะเทียน  หยุดสั่งเหมือนหนาวเป็นเด็กสามขวบที่ดูแลตัวเองไม่ได้เสียที!” ก่อนเจ้าตัวจะจ้ำเร็วๆ ไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ด้านหน้า  คล้ายกับแน่ใจว่าอย่างไรเสียคนที่ถูกทิ้งให้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมก็ต้องเดินตามมา…เหมือนเช่นที่เป็นมาโดยตลอด  และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

    “ไม่ต้องมาห่วงหนาวหรอก  ห่วงตัวเองเถอะ  หนาวไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเทียนถึงไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าการนั่งกอดกีต้าร์สลับกับขวดเหล้าไปวันๆ  ค่ายเพลงใหญ่ที่คนอื่นต้องอ้อนวอนกราบกรานให้เขารับเข้าทำงานติดต่อมา…เทียนก็บอกปัด รู้มั้ย…เทียน  บางทีนะ…บางที…หนาวก็อดคิดไม่ได้ว่าเทียนโง่หรือบ้ากันแน่…”

    ชายหนุ่มนิ่งงันกับเรื่องเดิมๆ ที่น้ำหนาวมักหยิบยกขึ้นมาพูดอยู่บ่อยครั้ง  โดยเฉพาะในพักหลังที่หญิงสาวกลายเป็นนักแสดงชื่อดัง แต่เขายังคงเป็น…นายเทียน…นักแต่งเพลงเล็กๆ ที่ไม่มีตัวตนในโลกเหมือนเมื่อสามปีที่แล้วหลังจากเรียนจบ…คนเดิม  เขารู้ว่าลึกๆ แล้วน้ำหนาวไม่พอใจแต่ยังเคารพการตัดสินใจของเขาอยู่  แต่นี่หญิงสาวกำลังจะก้าวข้ามไปอีกขั้นนึง  ไม่แปลกหรอก…ที่จะอยากให้เขาก้าวไปพร้อมกับเธอด้วย  

    ทว่าน้ำหนาวจะรู้ไหม…วิถีทางในแบบของเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
    “…โชคดีนะหนาว”

    เงียบไปครู่ใหญ่  ก่อนน้ำหนาวสะบัดหน้าหนีคำอวยพรตัดบทนั้น  ทุกที!  เทียนเป็นแบบนี้ทุกที  ไม่เคยมีคำตอบเพื่อยืนยันความแน่นอนอะไรสักอย่าง  จนบางทีเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเธอเองที่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว…

    เสียงประตูกระแทกปิดดังปังพร้อมกับรถเคลื่อนตัวจากไป ชายหนุ่มทอดสายตามองตามเส้นทางที่ถูกปกคลุมด้วยควันสีขาวหม่นมัวแล้วสูดลมหายใจยาวลึก  คล้ายต้องการระงับความเจ็บปวดบางอย่างที่แทรกซ่านขึ้นกลางใจ
    . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
    (ต่อ)

    จากคุณ : R^oy_kam - [ 24 ก.ย. 49 22:07:31 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com