ความมืดมิดโรยตัวคลี่คลุมรอบกายพร้อมๆ กับความเย็นยะเยือกจู่โจมจากปลายเท้าไล่ขึ้นมาจนจุกร้าวอยู่กลางอก อากาศรอบกายคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นเก็บกว้านกักกัน ลมหายใจสะดุดไหว
ร่างหนึ่งเพียรยื้อยุดฉุดรั้งลมหายใจสุดท้ายให้อยู่กับตัว
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เทียน! เทียน! เสียงเรียกสลับกับเสียงทุบประตูโครมๆ แต่เช้าตรู่ แทบจะปลุกเรียกให้คนทั้งคอนโดฯ ตื่น หากห้องที่เป็นเป้าหมายกับเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ คนเรียกเกือบจะลงไปตามยามให้มาไขกุญแจอยู่รอมร่อ ถ้าเสียงโครมครามคล้ายอะไรตกจะไม่ดังขึ้นภายในก่อนจะตามมาด้วยเสียงฝีเท้ารีบรน ไม่ถึงนาทีบานประตูก็ถูกผลักเปิด
หนาว
. เสียงทักแหบโหย กับใบหน้าขาวจนเกือบซีดไม่ได้ทำให้แขกผู้มาเยือนสังเกตเห็น ที่สัมผัสได้คือกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งราวกับเจ้าตัวบริโภคด้วยการอาบ
ไม่ใช่ดื่ม! เสียงที่เปล่งวาจาจึงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดขัดใจ
นี่เมาอีกแล้วเหรอเทียน? ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้ตอบ
หญิงสาวก็ใส่ต่อทันควัน
แล้วทำไมเมื่อคืนถึงไม่รับโทรศัพท์ ถ้าหนาวมีธุระร้อนหรือมีเรื่องคอขาดบาดตาย ป่านนี้
หนาวก็คงตายไปตรงนั้นแล้วใช่มั้ย
คนฟังระบายลมหายใจยาวกับคำต่อว่าต่อขานนั้น ก่อนจะหลุดปากคำสั้นๆ ที่เขามักเป็นฝ่ายเอ่ยทุกครั้งไม่ว่าจะผิดหรือถูก
เพื่อตัดบทและลดทอนความบาดหมางที่จะเกิดตามมาหากทั้งสองฝ่ายร้อนแรงใส่กัน
ขอโทษ
คนได้รับคำขอโทษชะงักไปเล็กน้อยยินยอมเก็บปากเก็บคำแต่โดยดี ไม่ใช่เพราะหายโกรธแต่เป็นเพราะ อย่างอื่น ที่สำคัญกว่า
ช่างเถอะ
หนาวก็ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเหมือนกัน แค่แวะมาเอาสคริปต์ที่ลืมไว้ เทียนก็รู้ว่าวันนี้หนาวมีแคสฯ แต่เช้า และหวังกับบทนี้มากแค่ไหน น่าจะมีน้ำใจขับรถเอาไปให้หน่อย ไม่ใช่มัวแต่นั่งกินเหล้าเมาหัวราน้ำอยู่!
คนฟังสูดลมหายใจยาวลึก ชินชากับวาจาตรงๆ และความมุ่งมั่นตั้งใจจริงจนเกือบ รั้น ของคนตรงหน้าดีเกินกว่าจะโกรธ มากกว่านี้
เจ็บกว่านี้ก็เคยมาแล้ว ไม่เห็นต้องซีเรียสขนาดนี้เลย เราเห็นหนาวทุ่มเทกับมันจนไม่น่าจะมีตัวอักษรตัวไหนที่จะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่! ยังไม่พอ! เทียนน่าจะรู้
สำหรับหนาวต้องไม่มีคำว่าพลาด!
โดยเฉพาะเรื่องงาน! ชายหนุ่มต่อในใจพลางมองเมินออกไปด้านนอกกระจกใส ใช่แล้ว! สำหรับน้ำหนาว
ไม่มีอะไรในโลกนี้สำคัญไปกว่า
งานกับการก้าวไปตามความฝัน!
ผู้ชายธรรมดาอย่างเขาจะคู่ควรกับนักแสดงชื่อดังเช่นน้ำหนาวไปได้อีกนานสักเท่าไหร่หนอ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เมื่อได้ระบายความขุ่นข้องและอีกฝ่ายไม่ตอบโต้กลับมาให้ยืดยาว ร่างบางทำท่าจะผลักบานประตูที่เจ้าของห้องแย้มไว้เล็กน้อยเข้าไปด้วยความเคยชิน ฉับพลันมือใหญ่กลับพลิกออกแรงต้านไว้เป็นเชิงห้าม ฝ่ายถูกห้ามตวัดสายตาคมฉับ ในขณะที่คนห้ามอึกอักอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะหาเหตุผลมาอธิบายการกระทำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เอ่อ
คือ
อย่าเข้าไปเลยนะหนาว ห้องมันรกน่ะ เมื่อคืนพวกไอ้บอลมากินเหล้า แล้วสคริปต์ก็อยู่ในรถ เราไม่ได้เอาขึ้นมาหรอก
มีความระแวงตามประสาผู้หญิงในดวงตาคู่สวยเพียงชั่วแวบก่อนมันจะจางหาย หญิงสาวหมุนตัวกลับเปลี่ยนทิศทางก้าวนำไปกดลิฟต์รอโดยไม่ให้เสียเวลาสักนาที ให้อย่างไร
เรื่องงานก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับน้ำหนาวอยู่ดี
เทียนพ่นลมหายใจออกดังเฮือก ปิดงับบานประตูลงทันทีราวกับกลัวว่าคนที่เดินไปแล้วจะเปลี่ยนใจหันหลังกลับมา เขากวาดสายตามองสภาพห้องที่ไม่ต่างจากคำบอกเล่าต่อน้ำหนาว
เพียงแต่มันไม่ได้ระเกะระกะไปด้วยขวดเหล้า หากแต่เป็น
อย่างอื่น
ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทึบตื้อในอกนาน ชายหนุ่มรีบปัดความคิดของตัวทิ้ง แล้วผละไปหยิบกุญแจรถก่อนจะรีบตามลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
แต่นั่นก็ยังไม่ทันใจคนที่ก้าวฉับๆ ไปตามทาง กระทั่งสายรัดรองเท้ายังไม่อาจต้านทานความรีบร้อนของเจ้าของ
เร็วหน่อยได้ไหมเทียน สายมากแล้วนะ โอ๊ย
พูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงเร่งเร้าก็แปรเปลี่ยนเป็นอุทานด้วยความเจ็บปวด คนที่ก้มๆ เงยๆ อยู่กับรองเท้ายกมือสะบัดเร่า พาให้ร่างสูงต้องรีบรุดเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง
ไหน
ดูซิ มือใหญ่จับมือเล็กขึ้นดู
หากเจ้าของกลับกระตุกกลับด้วยความไม่พอใจยังกรุ่นจางในอารมณ์
ไม่เอาน่าหนาว ให้เราดูหน่อยว่าบาดลึกหรือเปล่า ยื้อยุดกันชั่วครู่กว่าจะยินยอมยื่นให้ดู แต่ก็เป็นไปด้วยท่าทีกระแทกกระทั้นราวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของคนที่กำลังก้มหาพลาสเตอร์ยาที่มีติดรถไว้เสมอ
เหลืออันนึงพอดี หน้าขาวเกือบซีดยิ้มกระจ่างชูสิ่งที่ค้นหามาจนเจอ ก่อนจะบรรจงติดลงบนแผลพร้อมลมหายใจอุ่นๆ เป่าเพี้ยง
หายเร็วๆ นะครับคนเก่ง คนเก่ง เชิดหน้าหันไปอีกทาง ปล่อยให้เจ้าของมนต์พิเศษโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจระคนเอ็นดู แล้วทรุดตัวลงติดสายรัดข้อเท้าเจ้าปัญหาให้อย่างเบามือ
ขอบคุณ ช่างเป็นคำขอบคุณที่ไร้จิตวิญญาณราวกับคนพูดพูดกับเด็กยกน้ำในกองถ่าย ไม่ใช่พูดกับ
แฟน เทียนคิดขณะลุกขึ้นยืน ทว่าที่เอ่ยออกไปก็ยังเป็นถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อไหร่หนาวจะเลิกใส่ส้นสูงขนาดนี้เสียทีนะ เราบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันอันตราย
เสียงระบายลมหายใจพรืดใหญ่ด้วยความรำคาญจากคนฟัง เรียกแววหมองหม่นให้ปรากฏในดวงตาคนพูดชั่วครู่ กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความอาทรลดน้อยลง อย่าลืมทานข้าวกลางวันให้ตรงเวลานะหนาว อ้อ! ยาเคลือบกระเพาะอยู่ในกระเป๋าเล็ก เราซื้อมาให้แล้ว กินด้วย ห้ามโมเมล่ะ
คนฟังตอบแทนด้วยการดึงแฟ้มใส่สคริปต์จากมือใหญ่แรงจนเกือบเป็นกระชาก ตวัดเสียงใส่อารมณ์ โอ๊ย! พอเถอะเทียน หยุดสั่งเหมือนหนาวเป็นเด็กสามขวบที่ดูแลตัวเองไม่ได้เสียที! ก่อนเจ้าตัวจะจ้ำเร็วๆ ไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ด้านหน้า คล้ายกับแน่ใจว่าอย่างไรเสียคนที่ถูกทิ้งให้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมก็ต้องเดินตามมา
เหมือนเช่นที่เป็นมาโดยตลอด และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ไม่ต้องมาห่วงหนาวหรอก ห่วงตัวเองเถอะ หนาวไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเทียนถึงไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าการนั่งกอดกีต้าร์สลับกับขวดเหล้าไปวันๆ ค่ายเพลงใหญ่ที่คนอื่นต้องอ้อนวอนกราบกรานให้เขารับเข้าทำงานติดต่อมา
เทียนก็บอกปัด รู้มั้ย
เทียน บางทีนะ
บางที
หนาวก็อดคิดไม่ได้ว่าเทียนโง่หรือบ้ากันแน่
ชายหนุ่มนิ่งงันกับเรื่องเดิมๆ ที่น้ำหนาวมักหยิบยกขึ้นมาพูดอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพักหลังที่หญิงสาวกลายเป็นนักแสดงชื่อดัง แต่เขายังคงเป็น
นายเทียน
นักแต่งเพลงเล็กๆ ที่ไม่มีตัวตนในโลกเหมือนเมื่อสามปีที่แล้วหลังจากเรียนจบ
คนเดิม เขารู้ว่าลึกๆ แล้วน้ำหนาวไม่พอใจแต่ยังเคารพการตัดสินใจของเขาอยู่ แต่นี่หญิงสาวกำลังจะก้าวข้ามไปอีกขั้นนึง ไม่แปลกหรอก
ที่จะอยากให้เขาก้าวไปพร้อมกับเธอด้วย
ทว่าน้ำหนาวจะรู้ไหม
วิถีทางในแบบของเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
โชคดีนะหนาว
เงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนน้ำหนาวสะบัดหน้าหนีคำอวยพรตัดบทนั้น ทุกที! เทียนเป็นแบบนี้ทุกที ไม่เคยมีคำตอบเพื่อยืนยันความแน่นอนอะไรสักอย่าง จนบางทีเธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเป็นเธอเองที่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว
เสียงประตูกระแทกปิดดังปังพร้อมกับรถเคลื่อนตัวจากไป ชายหนุ่มทอดสายตามองตามเส้นทางที่ถูกปกคลุมด้วยควันสีขาวหม่นมัวแล้วสูดลมหายใจยาวลึก คล้ายต้องการระงับความเจ็บปวดบางอย่างที่แทรกซ่านขึ้นกลางใจ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
(ต่อ)
จากคุณ :
R^oy_kam
- [
24 ก.ย. 49 22:07:31
]