CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สามสิบฝน... คนไร้รัก (ตอนแรก)

    และแล้ว...ฝนที่สามสิบก็ผ่านมาอย่างรวดเร็ว...
    เร็วเกินกว่าที่จะทันได้คิดว่า
    ชีวิตของฉันเดินมาถึงกลางทางแล้ว

    เรื่องราวต่างๆ ทั้งดี ร้าย สุข ทุกข์ ปะปนกันไป
    ด้วยวัยขนาดนี้ งานก็มีทำแล้ว เงินเก็บก็พอมีอยู่บ้าง
    ชีวิตก็มีความสุขไปวันๆ จะมีอะไรอีกเล่า ที่อยากได้....

    คำตอบหนึ่ง ที่แวบเข้ามาในชั่วขณะความคิด
    เป็นสาเหตุให้ฉันเขียนเรื่องราวนี้ขึ้นมา
    นั่นก็คือ เรื่องราวของความรักหลากหลายรูปแบบที่เคยได้พบเจอ

    ความรู้สึกที่มี ส่วนใหญ่ก็เป็นความรักแบบเด็กๆ
    แอบรักเค้าบ้าง .... เค้ามาชอบเราบ้าง ปะปนกันไป
    แต่ไอ้ที่ชอบกันทั้งสองฝ่ายจนถึงขั้นชอบกันจริงจัง  เห็นท่าจะยังไม่มี...

    จนสุดท้าย ต้องคิดสโลแกนแสนเฉียบ ขึ้นมา ...ว่า “สวย ไม่เอาใคร”
    นั่นก็เพื่อยืนยันว่าที่ฉันยังไม่มีใครนี่
    ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเอา แต่เป็นเพราะว่า  ... อย่างนั้นมากกว่า


    ตั้งแต่เล็ก สมัยที่ฉันเรียนอยู่ชั้นเด็กเล็ก
    ฉันถูกจับคู่กับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
    แม่ของเขา ทำงานที่เดียวกันกับแม่ของฉัน
    เราเป็นเพื่อนร่วมห้อง และร่วมอุดมการณ์กัน ...

    อุดมการณ์ของเด็กอายุสี่ขวบ ก็ไม่ใช่อะไรที่มันยิ่งใหญ่นักหรอก
    มันก็แค่เรื่องของเด็กสองคน ที่ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
    เมื่อต้องห่างจากพ่อแม่ มาอยู่ที่โรงเรียน

    มันคงจะไม่แปลกอะไร ถ้าเพื่อนๆ ร้องไห้กันหมด
    ที่มันประหลาด และเป็นที่น่าจดจำ
    ก็เพราะว่ามีแต่ฉัน กับเขาเท่านั้น
    ที่ร้องไห้ แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสัปดาห์...

    การล้อนั้น ก็ดำเนินมาเรื่อยๆ
    ก็รู้ๆ กันอยู่นะ ว่าคนเรา ชอบจับคู่ให้กัน...
    เพราะเหตุนั้น ฉันจึงคู่กับเขาในความคิดของคนอื่น

    ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเลยนะว่าทำไมฉันถึงอายเวลาคนล้อ ชอบเขาหรือก็เปล่า...
    มันคงเป็นเพราะแรงเชียร์ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า
    เขากับฉันเป็นแฟนกัน...

    โอ้แม่เจ้า คำว่าแฟนแบบเด็กๆ ที่เกิดจากการถูกเพื่อนล้อ ...
    ถือได้ว่า นั่นเป็นแฟนคนแรก ของฉันเลยทีเดียว

    ชีวิตวัยเด็กของฉันสนุกสนานเรื่อยๆ ไปตามวัย
    ด้วยความที่เป็นเด็กในชนบทห่างไกล
    ฉันจึงมีความสุขกับการเล่นกับเพื่อนๆ
    มากกว่าที่จะแสวงหาความพอใจจากเพื่อนต่างเพศ ....

    แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่ใจดวงน้อยๆ ของฉันจะแกว่งไกว
    เมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้ม ยิ้มหวาน
    เดินผ่านมาในคลองจักษุ

    ผู้ชายในอุดมคติของฉันในวัยประถมต้น
    จะต้องเป็นคนเก่ง ที่แน่ๆ คือ เก่งกว่าฉัน
    ต้องสามารถทำให้ฉันยอมรับได้ ว่าเขาเก่ง

    ฉันแอบชอบเพื่อนคนหนึ่งเมื่อตอนประถมสอง
    เขาเป็นหัวหน้าห้องในตอนนั้น
    ชื่อของเขาเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำประเภทหนึ่ง  

    ฉันเคยได้มีโอกาสเชิญธงกับเขาครั้งหนึ่ง...
    มันเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือนจริงๆ
    ฉันจำได้ว่าตื่นเต้นมาก

    น่าเสียดายที่ไม่มีความคืบหน้าสำหรับความสัมพันธ์ของเรา
    นอกจากการเป็นเพื่อนร่วมห้อง
    ซึ่งพอขึ้นประถมสาม ฉันกับเขาก็เรียนกันคนละห้อง
    ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เราอยู่กันคนละอาคารเรียน ...
    โลกของเขากับฉันก็เลยเหมือนกับแยกกันโดยปริยาย

    ในปีเดียวกันนั้นเอง ฉันก็ตกหลุมรัก แบบเด็กๆ อีกครั้ง
    คราวนี้เป็นรุ่นพี่ที่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นรุ่นเดียวกัน
    ซึ่งฉันได้แต่แอบมองแบบห่างๆ  ห่างจนเกือบลืมไปแล้ว
    ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยแอบชอบผู้ชายคนนี้
    ผู้ชายคนที่ชื่อของเขาไม่เคยแก่ไปตามกาลเวลา

    ช่วงประถมสาม ดวงใจน้อยๆ ของฉันก็เริ่มหวั่นไหวอีกครั้ง
    คราวนี้ เป็นเพื่อนร่วมห้องอีกเช่นกัน คนนี้ ตัวเล็ก หน้าตาจิ้มลิ้ม
    และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เขาเรียนเก่ง  
    ชื่อของเขาเป็นภาษาอังกฤษ ที่แปลเป็นไทยแล้วแปลว่าชื่อ

    ไม่น่าแปลกใจ ที่เขาจะเป็นที่ชื่นชอบ
    ของเพื่อนผู้หญิงหลายคนในห้อง
    รวมไปถึงต่างห้อง และต่างชั้นเรียน

    ฉันมีความสุขที่จะได้แอบมองเขา ...
    ได้เท่านี้ก็สุขสุดๆ แล้วละ
    ฉันเกือบมีเรื่องกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ชอบเขา

    เรื่องของเรื่องก็คือว่า ฉันนินทาเพื่อนคนนั้นให้เพื่อนฉันฟัง
    แต่ระยะคงเผาขนมากไปหน่อย
    เลยเกือบได้เรื่อง เกือบได้เกรียมกันทั้งตัว ...

    เรื่องราวแอบชอบหนุ่ม ในช่วประถมต้น ก็มีเพียงเท่านี้
    อาจจะเป็นเพราะฉันยังเด็กอยู่ด้วย
    ก็เลยไม่ค่อยจะได้มีอะไรให้จดจำมาก
     

    ฉันย้ายโรงเรียนช่วงประถมสี่  มาอยู่ใกล้บ้านขึ้น
    เพื่อนๆ ของฉันหน้าตาน่ารักกันทุกคน
    แรกๆ ฉันมีเพื่อนร่วมห้องเกือบสามสิบคน

    โรงเรียนของฉัน เป็นโรงเรียนนำร่อง
    ซึ่งเชิญคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันการศึกษาต้นสังกัดมาสอน
    ท่านเหล่านั้นให้ความรู้แก่ฉันมากมาย
    เป็นรากฐานที่สำคัญให้กับฉันในวันนี้

    โรงเรียนของฉันมีกิจกรรมมากมาย
    ที่เสริมให้เด็กที่ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าแสดงออกอย่างฉัน
    ได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถในโอกาสต่างๆ
    ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี กีฬา
    หรือแม้แต่ตอบคำถามทางวิชาการ

    จำนวนเพื่อนในห้องของฉันลดลงเรื่อยๆ
    ผกผันกับจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น
    ในช่วงประถมหก สมาชิกในห้องลดลงเหลือเพียงยี่สิบสองคนเท่านั้น ...
    แต่คุณภาพย่อมดีกว่าปริมาณเสมอ
    ฉันรู้สึกผูกพันกับเพื่อนๆ กลุ่มนี้มาก

    เพื่อนผู้ชายในห้องของฉัน ตั้งกลุ่มที่ชื่อแสนเท่
    มีความหมายว่า กษัตริย์สี่คน หรือสี่กษัตริย์ (พวกมันช่างกล้านัก)
    โดยใช้สัญลักษณ์ของไพ่เพื่อบ่งชี้ถึงสมาชิกแต่ละคน

    ฉันเองก็ยังแอบปิ๊งรายวันสมาชิกในกลุ่มนี้เลย
    แบบว่าแอบชอบกันไป เขาไม่สน ฉันไม่ว่า...
    เพราะว่าไม่ได้ อะไรทำนองนั้น

    ฉันไม่อยากบ่งชี้ชัด ผูกมัดตัวเองหรอกนะ
    ว่าตัวเองชอบใครบ้างในกลุ่มนี้
    เพราะถ้าเกิดเจ้าตัวเขาจับพลัดจับผลูได้มาอ่าน
    อาจทำให้ชีวิตของฉัน เสียศูนย์ได้

    ขอแค่รู้ไว้ ว่าตอนเด็กๆ ชอบคนหนึ่ง
    แล้วพอเลยวัยมา ก็เปลี่ยนมาชอบอีกคนหนึ่ง
    ... ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่...

    อยากบอกว่า เป็นความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
    ฉันชอบในความน่ารักของเขา
    ความเอาใจใส่ เอื้ออาทรที่มีให้กับครอบครัวของเขา
    และการเอาใจใส่และดูแลฉันซึ่งเป็นเพื่อนของเขา

    อาจเป็นเพราะได้เจออะไรมากขึ้น
    เลยได้รู้ว่าโลกเราไม่ได้มีแค่สิ่งที่เราเห็น
    มีหลายอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าสำคัญ
    แต่โตขึ้นมาสิ่งนั้นเข้ามาเป็นปัจจัยในการชอบไม่ชอบ
    คบไม่คบ ของเราได้  

    ... ตอนนี้เขาก็มีทางเดินของเขา
    ส่วนฉันก็มีทางเดินของฉัน
    เบื้องบนกำหนดทางเดินของเรา
    ให้ตัดตัดผ่านให้เพียงพบกัน
    ในฐานะของเพื่อนเท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว


    เรื่องราวความรักข้างเดียวของฉัน จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น... โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป

    จากคุณ : I_am_Nin - [ 6 ต.ค. 49 02:02:07 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com