ความคิดเห็นที่ 2
ปีแรกของการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ช่างเป็นปีที่ยาวนานที่สุด เพราะมีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เริ่มต้นด้วยการเข้าไปเป็นสมาชิกของหอพัก ห้องของฉันมีสมาชิกจริงทั้งหมดห้าคน เตียงมีสี่เตียง ก็นอนกันไป
ฉันเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ ด้วยการตระเวนตามซุ้มต่างๆ เพื่อหาอาหารตา เดินเข้าซุ้มนั้นออกซุ้มนี้ แซวหนุ่มไปเรื่อยแบบคะนองปาก... ก็แค่ต่อรองราคาสินค้า ไม่มีอะไรมาก
แต่บังเอิญแค่ว่ารุ่นพี่ที่ฉันเกี้ยวพา ก็ดันเป็นปีสามของคณะที่ตัวเองกำลังจะเข้าไปเป็นน้องใหม่... ก็นะ... แบบว่าเด็กมันคะนอง แล้วพี่ก็ขี้อาย แบบว่าใช่เลย ...โดนใจฉันเลย ฉันก็เลยเผลอตัวไปนิด แถมยังมีลูกเพื่อนขี้เล่นเดินมาด้วยกันอีก ... ความคะนองก็เลยคูณสอง
คณะของฉันขณะนั้น มีการดูแลกันด้วยระบบ SOTUS ที่ดูเหมือนจะคล้าย แต่ไม่ใช่ LOTUS ดอกบัว ดังนั้น ฉันเลยไม่ได้เห็นกงจักร เป็นดอกบัวสักที... (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ยะ)
แรกๆ ก็ไม่รู้หรอก ว่าอะไรมันมาก่อน มาหลัง จนเข้าเชียร์ แล้วก็โดนซ่อมกันจนอ่วมนั่นแหละ ถึงค่อยจำได้ว่า S ตัวแรกมันคือ การเคารพรุ่นพี่ หรือ Seniority, O ก็คือ การเชื่อฟังคำสั่ง หรือ Order, T ก็คือการสืบทอดประเพณีของคณะสืบทอดมา หรือ Tradition, U ก็คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหรือ Unity, และ S ตัวสุดท้ายก็มาจาก Spirit หรือความมีน้ำใจนั่นเอง
การเชียร์ในรุ่นของฉันมีทั้งหมดไม่แน่ใจว่า สามหรือสี่วันต่อสัปดาห์ ไม่นับเสาร์อาทิตย์ เริ่มนัดเชียร์ตั้งแต่ห้าโมงเย็น เลิกเฉียดๆ หกทุ่มทุกวัน
ไม่อยากบอกเลยว่าช่วงนั้นแข็งแรงสุดๆ เลยนะ เพราะออกกำลังทุกวัน แต่ละอาทิตย์เชียร์สี่วันไม่รวมวันที่ต้องจัดกิจกรรม เพื่อสนองตอบต่อประเพณีต่างๆ ของคณะที่สืบทอดกันมา ไม่ว่าจะเป็น การรายงานตัว, บูมเพื่อรับเกียร์, วิ่ง E เพื่อรับไทด์, และอื่นๆ อีกมากมาย... ซึ่งประทับอยู่ในใจฉันจนวันนี้
ในช่วงเชียร์นี้เอง เกิดฮีโร่ขึ้นมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นความประทับใจในตัวของพี่สตาฟเชียร์ หรือพี่ว้าก
พี่ว้าก จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือปีสาม และปีสอง โดยกลุ่มพี่ปีสอง จะให้ทำโดยใช้การขู่บังคับ ส่วนกลุ่มพี่ปีสาม จะใช้หลักจิตวิทยาชี้ให้เห็น โน้มน้าวให้ทำ หลังจากที่ถูกทำโทษจากกลุ่มปีสองแล้ว
แต่หลังจากที่เราได้มาเห็นเบื้องหลังของกระบวนการว้าก ด้วยตาตัวเอง ทำให้รู้ว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น
จากคุณ :
I_am_Nin
- [
วันเกิด PANTIP.COM 09:07:29
]
|
|
|