ยิ่งร้ายก็ยิ่งรัก : คนที่ผมรักเป็นเอดส์
เพื่อนสนิท - เมื่อวานนี้เอง ที่ผมต้องยอมรับคำนี้ จะเรียกว่าเปลี่ยนสถานะ หรือว่า ถูกลดชั้นดีคับ เพราะกิ๊กที่ผมคบ ให้ผมเป็นเพื่อนสนิท
ผมรรู้ว่าเขาไม่ใช่คนดีเท่าไหร่นัก เขามีแฟนแล้ว และผมก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร เป็นแค่คนธรรมดา มีชีวิตจืดชืดไปวันๆ เดินบนเส้นทางที่ต้องหลบๆซ่อนๆตัวตนที่แท้จริง.... เราพบกันในสถานที่ ที่ใครๆ บอกว่า "รักแท้ไม่เคยมีในนั้น มิตรภาพไม่มีวันปรากฎ
ผมยอมรับว่าตัดสินใจเข้าไปยุ่งกะเขา "กระโดดเข้ากองไฟ เพราะ อยากเอาชนะ....เอาชนะคำพูดแบบนั้น...เอาชนะคนอย่างเขา: หนุ่มไฟแรง มีหน้าที่การงานมั่นคง แต่งตัวเรียบเทห์ ดูดี ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรุ้ว่าเขาเลือกเส้นทางเดียวกับผม มีแฟนที่สมบูรณ์แบบทั้งการงาน ฐานะทางสังคม และหน้าตา --ใช่จะปรายตาแล้วจะไม่มีใครยอมพลีตัวให้ จะว่าไปเขามีเสน่ห์ในตัวเองใช่เล่น.......
ผมนะรึ...ไม่อยากแย่งเขาจากแฟน แค่อยากเล่นกับไฟสักครั้ง เพราะดูแล้วผมคงไม่มีวันตะกายบันไดไปถึงขั้นนั้นหรอก......ผมมันแค่คนธรรมดาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จะเรียกว่ามีแต่ตัวก็คงไม่ผิด เขาคบกับแฟนมา 3-4 ปีแล้ว......น่าแปลก....เขาไม่ใช่สเป็กผมสักนิด เจ้าชู้ ปากหวาน....แต่ก็......เฮ้อ....
เขาเปรยให้ฟังหลายครั้ง
"กว่าจะมีทุกวันนี้ได้ ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ
"ทั้งเรื่องที่บ้านของเขาเองกับของแฟน กว่าจะปรับความเข้าใจระหว่างกันได้..... ไม่ว่าจะนิสัย การกระทำ หรือแม้นแต่เรื่องที่อยากทำให้กันในวันนึงๆ"
ผมต้องทำเป็นมองไม่เห็นเสมอเวลาอยู่กับเขา......เขาโทรหาแฟน หรือแฟนโทรมา...ตอนเย็นขับรถกลับบ้าน..ถึงบ้านแล้ว..ก่อนนอนบอกกูดไนคิส..เช้าโทรไปปลุก..วันนี้เจอไรมาบ้าง..ลูกค้าป่วนมากแค่ไหน......ต้องตีสีหน้าใส่ลูกน้องจอมขี้เกียจ...รักทิมนะ....คิดถึงนัสไหมคับ.....
"รถติดชะมัด ยังอยุ่แถวที่ทำงานอยุ่เลย คิดผิดรึเปล่าวะมาทำงานแถวนี้"
"อาทิตย์นี้ไปไหนกันดี คุณต้องทำงานที่บ้านอีกแล้วสิ คนบ้างาน"
"เอารองเท้ามาให้ด้วยนะ พรุ่งนี้จะขับรถมาถึงนี้ กี่โมง"
ผมเป็นแค่ กิ๊ก : คนนอก ที่รับรุ้เรื่องราวจากปากเขา จากการต้องนั่งเป็นใบ้ เวลาแฟนเขาโทรมา จากการบ่นๆว่า "ทะเลาะกันเรื่องความคิดเห็นอีกแล้ว"
เวลาทำให้ผมรุ้จักเขามากขึ้น ทั้งๆที่เขาไม่ได้ใส่ใจผมมากนักหรอก อยากโทรก็โทรมา.... โทรไปหา.... เขาไม่รับสาย....บางทีก็ไม่โทรกลับ.....เศร้า....
ผมเป็นแค่ กิ๊ก : คนนอก ที่ต้องรุ้ว่าตัวเองเป็นใคร ทำอะไรได้บ้าง...รุ้สึกกับเขาได้แค่ไหน....ตอนไหนที่ควรเก็บความรุ้สึก....เวลาไหนที่ควรหาคำแก้ตัวให้เขาเอง
"ไม่รับสายแหะ สงสัยคงงานยุ่งมั้ง"
แล้วผมก็เข้าใจความรักของเขา 2 คน มันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่เอาความรุ้สึกเข้าแลกให้กันและกัน ถึงความเห็นบางอย่างจะไม่ลงตัวเท่าไหร่ ถึงเขาจะชอบกินในสิ่งแฟนเขาไม่ชอบกิน.....ทะเลาะกัน เพราะคำพูดบางคำ แล้วไงนะเหรอ เขาก้อฝ่าฟันกันมาได้
ผมเป็นแค่ กิ๊ก : คนนอก ที่เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า ความรักประกอบด้วยความชอบพอระหว่างกันเป็นทุน บวก กาลเวลาแห่งความผูกพันธ์ ดอกผล คือความเข้าใจระหว่างกัน สถานะภาพใกล้เคียงกัน ผมไม่เคยมี ....ไขว้คว้ามาตลอด วิ่งไล่ตามมันมา นานเท่าไหร่แล้วนะ....นึกไปก็ใช่ว่าจะเรียกคืนมาได้
แต่วันนี้ ผมแพ้....แพ้ที่รักเขาโดยไม่รุ้ตัว ให้ใจเขาเกือบหมด (ให้หมด... (;P)...ผมคงไม่มีชีวิตอยุ่ต่อไปได้หรอกนะ เขาว่า "เผื่อใจไว้ทำทุนบ้าง แล้วเราจะไม่ต้องตายเพราะบริษัทรักล้มละลาย")
แล้วไงหละ ถึงจะมีใจให้เขาขนาดนั้น ผมทำไรได้เหรอ .........
"คุณหักหลังเราได้ง่ายมากเลยนะ รู้ไหม...... แค่โทรไปหาทิม.........เล่าทุกอย่างให้เขาฟัง....ปะติดปะต่อเรื่องง่ายนิดเดียว เรากะทิมจบกัน" แต่เขารู้ว่าผมไม่ทำ และ ไม่มีวันทำ เพราะผมยืนยันแบบนั้น (หรือนั้นเป็นแค่ เพียงการถามลองใจ เพราะเขารุ้อยุ่แก่ใจแล้วว่า.....ไงผมก็ไม่ทำ เชื่อว่ายังไงเสีย...ผมคงไม่อยากเสียเขาไปในแบบนั้น---เรานี้มันเป็นรองเขาเนอะ (T:T)
รักแบบนี้มีความสุขดีเหรอ ? คำตอบคือ สุข 70% ทุกข์ 30% น่าจะพอใจ
แต่กลายเป็นเพื่อนสนิท......มันจะเหลือเท่าไหร่นะ.....คอยฟังเขามีกิ๊กคนใหม่.....เพื่อนหลายคนเตือนตั้งแต่เริ่มคบเขาแล้วว่า
"เลิกคบเขาเหอะ เขาเห็นแก่ตัว รักตัวเอง การมีคนมารักมาชื่นชม เอาใจ เหมือนเป็นโบนัสของชีวิต เขาไม่อยากกำจัดแกออกไปแน่นอน กำไรจะตายไป ถ้ายังทำตัวเป็นคนดีสำหรับเขาเสมอ"
คนภายนอกบอกว่าเขาไม่ดี.....มีกี่คนที่รุ้ว่า.....ใครดีมากน้อยเท่าไหร่กัน.............ถ้าฟังความข้างเดียว ตาชั่งย่อมเอียงแน่นอน......... ถ้าไมได้สัมผัสเขา เขาต้องการเพื่อนสักคนที่ไว้วางใจ.... ปรึกษาในสิ่งที่เขาบอกคนอื่นไม่ได้ (แม้แต่แฟนเขา) แต่เขาบอกเล่าได้ สบายใจที่มีผมรับฟังเรื่องต่างเหล่านั้น.........ผมมีความสุข....แต่ก็ทุกข์ไปด้วย เหมือนชอกโกแลตที่ยิ่งขมมันยิ่งหอมหวาน.... เพราะต้องคอยปลอบ ให้คำแนะนำ ฉุดรั้งความคิดไร้สาระบางเรื่อง....คนเราต่างเห็นแก่ตัว ไม่มากก็น้อย ผมเห็นแก่ความสุขยามอยุ่กับเขา เขาเห็นแก่ความเป็นเพื่อนที่ไม่มีตัวตนในชีวิตเขาเลย...
เป็นเพียง เงา... เงาที่ติดตามเขาไปทุกที่ รับรุ้และปลอบโยน แต่....
แน่นอน เรื่องที่เขียนไม่ใช่เรื่องของผมเองทั้งหมด เรื่องของพวกเขา.....นัสกับทิม...และป่าน
****************************************************************************************************
"วันจันทร์แล้วนิเนอะ ก้อวันธรรมดาวันนึงนิหว่า" ผมลุกจากที่นอน เวลาเดิม 8โมงครึ่ง สายเอาเรื่องเลยทีเดียวสำหรับคนทำงานทั่วไป แต่ผมพักใกล้ที่ทำงานนินะ เข้างาน 10 โมง เข้าสายหน่อยก้อได้ "บริษัทบ้าอารายวะ ทำงานสายขนาดนั้น " เพื่อนคนหนึ่งเคยเปรยประชด
ผมยังไม่หายหวัด.....รุมกินโต๊ะตั้งแต่อาทิตย์ก่อน เพราะไม่ได้นอน 2 คืนติดกัน --ไปเที่ยวเหรอ ---เปล่าเลย---นอนไม่หลับต่างหาก--คืนนึงมีคนป่วน...เปิดสเตริโอเสียงดังกลางดึก---กรูอยากเอามีดไป ทิ่มพุงมันจริงๆ พ่อแม่:-)ไม่สั่งสอนรึไง ดึกดื่นไม่นอนยังรบกวนชาวบ้านเขานอนกัน บาบนะเว้ย--ปล่อยมันไปเหอะ สิ้นเดือนจะย้ายไปแล้ว---เออ +/+ ก็ได้วะ
แล้วคืนถัดมา.....ดันมาโดนกิ๊กบอกให้เป็นเพื่อนสนิทอีก---กรูจาบ้าตาย---T:T---ร้องไห้เสียงลั่นห้องเลยเรา--- "เราเกลียดคุณ...มนัส"---จนห้องชั้นบนต้องหยุดซ้อมไวโอลิน นั้นก้ตี 2เข้าไปแล้ว---สมน้ำ หน้า กรูจะนอนซ้อมหาพระแสงอะไรกันวะกลางดึกทุกคืน---รบกวนคนจะนอน บาบนะเว้ย
เปิดมือถือดีกว่า.....ไม่รุ้มีใครโทรมารึเปล่า สังหรณ์ใจพิลึก....ท่านไม่ได้รับสายทั้งหมด 3 สาย ....พี่สาวโทรมาทำไมแต่เช้าวะ กลิ่นไม่ค่อยดีเท่าไหร่....แต่ไม่มีอะไร หลานกดเบอร์เล่น*-* รอด ตัวไป
..............อีกสองสายมีสคอลหละ....นัส...นิหว่า...โทรมาไมแต่เช้า...คงมีเรื่องป่านอีกแล้วเดะ
"เย็นนี้ว่างไหม มาเจอหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย"
--เรื่องไรวะ--จะบอกเลิกกรูรึไง--รึว่า-ทิมจับได้ว่านัสมีกิ๊กแถวบ้าน---ไม่ละมั้ง-เรื่องไรวะ---
6 โมง
"ตกลงมาเจอเราที่ร้านอาหารแถวที่ทำงานนะ งานยังไม่เสร็จ ยุ่งชะมัด ต้องคุยงานกะเอ็มดี...นะเดี๋ยวเลี้ยงข้าว" ---เออ ! ก้อได้วะ กรูต้องย้ายตูดไปเองอีกละ เอาข้าวมาล่อ---ในชีวิตนี้ไม่เคยต้องง้อใครขนาดนี้เลย--ไม่ได้อยากกินหรอก แต่อยากเจอมากกว่า--
ทุ่มเศษๆ
เขาบ่นเรื่องงานให้ฟังเป็น ออเดิฟ แต่ท่าทางจะไปได้สวย นัสอยากทำงานที่นี้ให้นานเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นองค์กรขนาดเล็ก จัดการบริหารเองได้ นายวางใจให้ทำ แต่อย่างว่า "คนรักเท่าผืนหนัง (นาย) คนช่างเท่าผืนเสื่อ (เพื่อนร่วมงาน+ลูกน้อง)--ดีแล้ว....ท่านชายมนัสจะได้แสดงศักยภาพให้เต็มที่---ดีใจด้วยนะ เพื่อนสนิท--เกลียดคำนี้จังวะ ถึงจะได้รับใช้ไม่นานก็ตาม--
แล้วเรื่องจริงที่เขาอยากบอก ก็หลุดออกมาจากปากเขาเสียที
"เมื่อคืนเราไปหาป่านที่บ้าน (จริงๆก้อแค่เดินข้ามถนนในซอยเท่านั้นเอง) แล้วทุกอย่างมันก้อเป็นไปตามธรร..............." คงไม่ต้องบอกหละนะว่ามันไปถึงไหน แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น
--แล้วประเด็นคืออะไรหละ--
"ป่านเป็น HIV"
"นี้มันอารายกัน"
"เขาบอกเราเมื่อคืนตอนที่ทุกอย่างกำลัง...แล้วเราก้อไมได้ใช้ถุงด้วย"
"คุณจะบ้าเหรอ...........เราเคยขอร้องคุณแล้วว่าอย่าทำอย่างนี้กับใครอีกนอกจากเรากะทิม คุณคิดอะไรของคุณอยู่"
???--แอลกอร์ฮอล--ความจริงใจ--อารมณ์ชั่ววูบ--ความใคร่--เสน่หา--ความรัก--เลิ่นเล่อ--ลืมตัว--ขาดสติ---มักง่าย--ลองรัก--พิสูจน์ความจริง--เดิมพันชีวิต---???
"ถ้าวันนี้เรายังเป็นกิ๊กคุณอยุ่ เราจะชกคุณให้คว่ำตรงนี้เลย เราต้องเสียใจแน่...เพราะอะไรคุณรุ้...แต่วันนี้เราเป็นเพื่อนสนิทคุณแล้ว.... เป็นมากกว่ากิ๊ก:คนนอก...เราเสียใจมากกว่านั้นอีก"
"นัสเสียใจ เมื่อคืนร้องไห้ไปหลายรอบแล้วจนมันเลยจุดนั้น.......เราชอบป่านนะ.....ไม่นึกโกรธเขา....เราเองก็ผิด ดื้อดึงที่จะจีบเขาต่อไปทั้งๆที่เขาปฏิเสธด้วยวิธีต่างๆแล้ว ป่านเสียใจมาก เขาแทบเปลี่ยนไปเป็นคนละ คนเลย นับจากวินาทีนั้น"
"เสียใจแล้วไงหละ เรื่องแบบนี้ ไม่บอกกันได้ด้วยเหรอ...ไม่บอกกันได้ด้วยเหรอ..............................................ไม่บอกกันได้ด้วยเหรอ........"
*********************************************************************************************
จากคุณ :
Howl-the-Wizard
- [
10 ต.ค. 49 13:55:12
]