"เขาไม่ยอมพูดกับฉัน ทำไมนะหรือยังโกรธฉันอยู่ ทำไมเขาไม่ยอมพูดกับฉัน
ทำไม ทำไม" เธอพูดวนเวียนอยู่อย่างนี้เป็นสิบๆ ครั้ง
........................................................................................................................
ฮัลโหล พี่กล้าทำอะไรอยู่ค่ะ ฉันโทรไปหาเขา ตอนนี้เวลาประมาณเที่ยงกว่าแล้ว เพราะฉัน
ต้องกินข้าวอยู่คนเดียว ฉันไม่ค่อยชินสักเท่าไรหรอก เมื่อก่อนเราเคยกินข้าวเที่ยงด้วยกันเสมอ
พี่ทานข้าวอยู่ครับ น้องตุ๊กตามีอะไรหรือเปล่าครับ
ไม่มีอะไรแล้วโทรมาไม่ได้หรือไงค่ะ ฉันตอบกลับด้วยอารมณ์น้อยใจนิดๆ แล้วคิดว่าทำไม
เดี๋ยวนี้ต้องมีธุระอะไรด้วยเหรอถึงจะโทรมาได้
เปล่าๆ ไม่มีอะไรก็ไทรมาได้ แต่ตอนนี้พี่ทานข้าวอยู่ ต้องรีบกินหน่อย เพราะเดี๋ยวรีบต้องไป
พบลูกค้า เอาอย่างนี้ละกัน ตอนเย็นพี่จะโทรไปหาน้องตุ๊กตานะ
ค่ะ ฉันตอบสั้นๆ แล้วรีบวางโทรศัพท์เพื่อให้เขารู้ว่าฉันไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรู้หรือเปล่านะ
หลังๆ เขามักทำงานยุ่งอยู่เสมอ ต้องไปหาลูกค้าบ้างล่ะ ทำนั่นทำนี้บ้างล่ะ หรือฉันคิดมากไปเองนะ
ฉันกับพี่กล้าเรารู้จักกันตอนฉันอยู่ปีหนึ่ง เขาเป็นรุ่นพี่อยู่ปีสาม เราเรียนคณะและภาควิชาเดียวกัน
ฉันไม่เคยคบกับใครมาก่อนเลยหลังจากเรียนจบมัธยมจากตรังมาก็เข้ามาเรียนในกรุงเทพ มาพักอยู่กับ
พี่สาวที่แก่กว่าฉันสองปี พี่กล้าถือได้ว่าเป็นแฟนคนแรกของฉัน ตอนอยู่ที่ตรังฉันเรียนโรงเรียนหญิง
ล้วนมาตลอด แม่ คอยไปรับไปส่งฉันเสมอ เลยไม่ค่อยมีใครเข้ามาจีบฉันเลย
น้องตุ๊กตาครับ พี่ชอบน้องตุ๊กตาครับ วันหนึ่งเขามาบอกกับฉันอย่างนี้ ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรเลย
เดินหนีเขามาเฉยๆ อย่างนั้น พี่กล้าก็คงจะอึ้งไปเลยเหมือนกันที่เห็นฉันไม่พูดอะไรเดินหนีออกมา
เห็นหน้าเขาซีดจ๋อยสนิท หลังจากนั้นเขาก็หายไปเลย จนวันหนึ่งเราก็มาเจอกันอีก พี่กล้าเป็นประธาน
จัดงานเลี้ยงอำลารุ่นพี่ปีสี่ ในงานต้องมีการแสดงของรุ่นน้องปี่ที่หนึ่ง ซึ่งฉันอยู่ในนั้นด้วย
งานนี้ทำให้ฉันได้รู้จักพี่กล้ามากขึ้น
พี่กล้าเป็นผู้ชาย ไม่สูงมาก สูงพอประมาณ ตัวผอมๆ เป็นคนตรง พูดจาตรงไปตรงมา การที่ได้มาทำงานร่วมกัน
เจอหน้ากันบ่อยขึ้นให้ฉันไม่เขินพี่กล้าอีกแล้ว และเขาก็บอกว่าชอบฉันอีกครั้งหนึ่ง
พี่ ตุ๊กตาไม่รู้จะบอกกับพี่อย่างไร ตุ๊กตาไม่เคยคบใคร และตุ๊กตาไม่รู้ว่าจะชอบพี่กล้าหรือเปล่า
ไม่เป็นไร น้องตุ๊กตาจะชอบพี่หรือเปล่าก็ไม่เป็นไร ลองรู้จักกันไปก่อนก็ได้ ถ้าวันหนึ่งน้องไม่
ชอบพี่น้องก็บอกกับพี่ได้ เขาบอกกับฉันอย่างนั้น
พี่กล้าไปส่งฉันที่หอพักแทบทุกวัน ซึ่งปกติฉันก็กลับบ้านกับเพื่อนอยู่แล้วไปกันหลายคนหน่อย
ฉันก็เลยไม่รู้สึกเขินสักเท่าไร เขาทำอยู่อย่างนี้เป็นเวลาหลายเดือน เราจึงเริ่มสนิทกันมากขึ้น
ต่อมาจึงเริ่มไปกินข้าวด้วนกัน จนวันหนึ่งฉันจึงบอกว่าเราลองคบกันดูก็ได้ พี่กล้าดีใจมากที่ฉันบอกอย่างนั้น
"น้องตุ๊กตาครับ พี่รักน้องตุ๊กตานะครับ" วันวาเลนไทน์ตอนฉันอยู่ปีสองเขาบอกกับฉันอย่างนี้
เป็นครั้งแรกที่พี่กล้าบอกรักกับฉัน เขาเคยบอกว่าชอบแต่ไม่เคยบอกรักกับฉันเลยสักครั้ง
"อืม ตุ๊กตาก็........ เหมือนกันค่ะ" ฉันอายเหมือนกันนะ
"อะไรนะ อะไรเหมือนกัน" เขาถามเหมือนตั้งใจจะแกล้ง พอเห็นฉันอายก็ยิ่งสนุกใหญ่
"ก็เหมือนกันแหละน่า"
"ฮ่า ฮะ ฮะ เอ้าเหมือนกันก็เหมือนกัน" แล้วพี่กล้าก็พูดอีก "น้องตุ๊กตาถ้าวันนึงน้องตุ๊กตาเจอคนที่ดีกว่าพี่
หรือวันนึงตุ๊กตาไม่รักพี่แล้ว น้องตุ๊กตาก็บอกกับพี่ตรงๆ นะ พี่จะได้ทำใจได้"
"ตุ๊กตาไม่มีวันทิ้งพี่ก่อนหรอก" ฉันบอกอย่างมั่นใจ ฉันจะไม่ทิ้งเขา ถ้าเขายังรักฉันอยู่ ฉันก็ยังจะอยู่กับเขา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ความรักของเราก็ดีราบรื่นตลอดมาจนพี่กล้าเรียนจบ ฉันขึ้นชั้นปีที่สาม พี่กล้าเริ่มหางานทำ
วันไหนที่พี่กล้าไม่ไปสัมภาษณ์งานเขาก็จะมาอยู่กับฉัน ฉันคิดว่าคงขาดเขาไม่ได้
ทำไมนะฉันนึกไม่ออกว่าวันที่ไม่มีเขาเป็นอย่างไร จนวันนึงเขาก็ได้งานทำ
พี่ได้งานแล้วนะ อยู่แถวพุธมณฑล ไกลหน่อย พี่คงไปหาพอพักอยู่แถวนั้น เขาบอกกับฉัน
เหรอค่ะ ดีใจด้วยนะค่ะ ฉันบอกไปอย่างนั้น แต่ลึกๆในใจแล้วใจหายเหมือนกัน แล้วพี่จะเริ่มงานเมื่อไรล่ะ
เริ่มได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเลย ผู้จัดการเขาบอก
พี่กล้าทำงานวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เราตกลงกันว่าเราจะเจอกันทุกวันอาทิตย์ ทุกๆวันอาทิตย์สิบโมงเช้า
พี่กล้าจะมารอฉันที่ข้างล่างหอ ฉันรู้ว่าพี่กล้าเหนื่อยมาก แต่เขาไม่เคยบ่นเลยแม้แต่ซักครั้งเดียว
แต่ก็ว่าอีกนั่นแหละ ความห่างไกลทำให้คนเขาห่างกัน แม้ว่าเราจะเจอกันทุกอาทิตย์ แต่สำหรับฉัน
ก็ยังรู้สึกเหงาอยู่ดี
................................................................................................
วันนี้ก็เหมือนกันฉันโทรไปหาเขา อยากคุยกับเขาเพราะฉันเหงา แต่เขากลับพูดเหมือนให้ฉันรีบวาง
ทำไมนะความเหงาสำหรับฉันช่างทรมานเหลือเกิน
.................................................................................................
เป็นฉันเองหรือเปล่าที่เผลอใจ
ตั๋งเพื่อนร่วมห้องของฉัน ตั๋งเป็นคนใจดี ขี้เกรงใจ ใครขอให้ช่วยทำอะไรตั๋งก็จะทำให้ไม่เคยบ่น
ถือว่าเป็นที่พึ่งของเพื่อนได้เลย แรกๆฉันก็ไม่สนิทกับตั๋งสักเท่าไรหรอก วันนึงฉันรู้สึกเหงามากฉันนั่งอยู่คนเดียว
"อ้าว ตุ๊กตา มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวล่ะ" เขาเดินมาพร้อมส่งยิ้มให้
"ไม่มีอะไรหรอก" ฉันตอบแบบผ่านๆไป
"เหรอ อืมแต่ตาแดงนี่นะ ฝุ่นเข้าตาหรือเปล่า เอ้านี่เราให้ยืมผ้าเช็ดหน้า" ตั๋งทำซื่อบอกพร้อมยื่นมือส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้
ตั๋งคงเห็นฉันนั่งน้ำตาซึมละมั้ง
"ขอบใจนะ"
"ไม่เป็นไรหรอก เราเพื่อนกันนี่" เขาส่งยิ้มให้ฉัน
จากคุณ :
ขนนกยูง
- [
11 ต.ค. 49 23:13:31
]