CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ด้วยรักเเละผูกพัน (วันที่ฉันป่วย...ที่มีเธอ)

    ปวดหัวจัง!

    มาธวี ร้องโอดครวญอยู่ในใจ ตอนนี้แม้แต่เสียงยังไม่มีแรงที่จะเปล่งมันออกมาจากลำคอแม้แต่น้อย จะขยับร่างกายแต่ละทีต้องรวบรวมแรงกายแรงใจอย่างหนักกว่าจะทำสำเร็จ คงเป็นเพราะฝนที่ตกลงมาเมื่อเย็นวานทำให้เธอต้องเป็นอย่างนี้

    ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่า แค่ยืนรอรถประจำทางในขณะที่ฝนตกหนักเป็นเวลาสิบนาทีเท่านั้นจะทำให้เธอต้องมานอนคุดคู้อยู่บนเตียงแข็งๆในห้องพยาบาลกับความรู้สึกร้อนรุ่มผสมกับความหนาวเหน็บเป็นเวลาครึ่งค่อนวันอย่างนี้

    ใครจะคิดว่าการที่อยากทำตัวให้ดูแลตัวเองไม่ให้เป็นห่วงผูกคอของใครบางคนตามคำพูดของคนที่ไม่ชอบหน้าเธอจะทำให้ต้องมานอนซมอยู่อย่างนี้

    สิ่งที่เธอเกลียดมาที่สุดคืออาการเจ็บปวดของร่างกาย เป็นแต่ละครั้งแทบจะทำให้เธอรู้สึกทรมานจนแทบทนไม่ได้ ถึงจะไม่บ่อยนัก สองสามปีจะเป็นหน ด้วยความที่เป็นคนแข็งแรง การเล่นกีฬาเป็นประจำทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้นกันได้อย่างดี

    แต่คนเรามันต้องล้มกันบ้าง นานๆจะป่วยที เจ้าเชื้อโรคเลยเล่นงานเธอเสียหนัก ราวกับรอคอยเวลานี้มานานแสนนาน แล้วยกนี้มันก็ชนะ จนเธอหมดเรี่ยวหมดแรงแบบนี้

    ...ไม่รู้ป่วยแค่กาย หรือว่าป่วยใจ ถึงทำให้อาการทรุดหนักขนาดนี้...

    “น้ำผึ้ง น้ำผึ้งเป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงใยดังขึ้นใกล้หู พร้อมกับความรู้สึกอุ่นๆที่ไล้อยู่บนผิวสัมผัสบริเวณหน้าผาก

    คนป่วยพยายามลืมตาอย่างช้าๆ เพื่อมองว่าใครกันเรียกชื่อของเธอได้นุ่มนวลขนาดนี้ แถมยังฟังดูคุ้นเคยในความรู้สึกของเธอเหลือเกิน

    แพขนตายาวงอนขยับอย่างเชื่องช้า ค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น ภาพที่ปรากฏยังพร่าเลือนจนเธอต้องกระพริบตาอีกสองสามครั้งจนเห็นใบหน้าคร้ามคมอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีเข้มฉายแววกังวล คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเหมือนใครไปทำอะไรขัดใจ

    “วิน” มาธวีครางชื่อของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง พยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่ทำไม่ได้อย่างใจคิด หัวรู้สึกหนักอึ้งราวกับถูกหินหลายร้อยกิโลกรัมถ่วงเอาไว้ โลกทั้งโลกหมุนติ้ว จนต้องทิ้งศีรษะลงบนนอนเหมือนเดิม

    “ระวังน้ำผึ้ง ไม่ต้องลุก” วายุร้องออกมาอย่างตกใจ กดไหล่บางให้นอนลงบนเตียงเอาไว้ มองหน้าที่แดงก่ำด้วยพิษไข้อย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

    “รู้หรือเปล่าว่าไข้ขึ้นสูงมากแค่ไหน เมื่อวานไปตากฝนมาใช่ไหมถึงได้เป็นอย่างนี้” แล้วคนที่เคยพูดน้อยก็ร่ายยาวจนคนป่วยถึงกับมึนงง มือใหญ่ยังคงวางบนหน้าผากเนียน เจ้าของมือนิ่วหน้าอย่างไม่ชอบใจนัก

    “ไปหาหมอดีกว่า เดี๋ยวเราพาไป โรงพยาบาลอยู่ใกล้แค่นี้เอง” วายุบอกหลังจากนิ่งคิดสักครู่ แต่ทำให้คนฟังตาโตด้วยความตกใจ

    “ไม่เอา น้ำผึ้งไม่ไปนะ แค่นอนพักก็พอแล้ว” มาธวีร้องขัดขึ้น ไม่อยากไปรอให้แพทย์ตรวจ ตอนนี้อยากหลับตานอนอย่างเดียว

    คนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กเพราะรั้วบ้านอยู่ติดกัน จ้องตาหญิงสาวที่มองอย่างอ้อนวอน จนคนที่พยายามจะทำใจแข็งถึงกับใจอ่อนยวบ

    “แต่น้ำผึ้งนอนมาทั้งวันแล้ว ยังไม่ดีขึ้นไม่ใช่เหรอ”

    “นะวิน น้ำผึ้งขอร้อง น้ำผึ้งไม่อยากไป” พูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มซึมจากหัวตา คนที่เคยสดใส น่ารักน่าเอ็นดู แทบดื้อเป็นที่หนึ่ง แต่เวลาป่วยนั้นอ่อนแอไปทั้งกายและใจ อะไรขัดใจนิดๆหน่อยๆก็งอแงจนร้องไห้ แล้วอย่างนี้เขาจะฝืนใจเธอได้อย่างไร

    “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราพากลับบ้าน นอนอยู่ที่นี่ไม่มีประโยชน์หรอก” วายุพูดพลางพยุงให้ร่างบอบบางลุกขึ้นนั่ง

    พอจะลงจากเตียง แรงที่มีอยู่น้อยนิดไม่สามารถประคองให้เธอยืนได้ แข้งขาอ่อนแรงจนเกือบจะทรุดลงไปกองกับพื้น ดีที่ได้แขนแข็งแรงที่คอยระวังไว้อยู่แล้วจึงรวบร่างที่อ่อนปวกเปียกไว้ในอ้อมกอด วายุตัดสินใจช้อนร่างคนไม่สบายขึ้นแนบอก ดีที่เขาสังหรณ์ใจนำรถมาจอดด้านหน้าเรียบร้อย

    มาธวีไม่ขัดขืนยกมือโอบกอดรอบคอของเขาเอาไว้ ซบศีรษะลงบนอกกว้าง ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอดังอยู่ในอกของเขา รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

    ใครๆก็รู้ว่าเวลาที่เธอป่วยมักจะงอแงราวกับเด็กๆ คนที่สามารถเข้ามาอยู่ข้างกายเธอในยามนี้มีแค่บิดามารดาผู้ให้กำเนิดเท่านั้นที่เข้าหน้ามาธวีติด ไม่อย่างนั้นเธอจะโวยวาย ร้องไห้ ราวกับเด็กๆ ใครๆต่างลงความเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวมากที่สุด

    คงมีแต่วายุ เพื่อนสมัยเด็กๆที่สามารถทำหน้าที่ทดแทนท่านทั้งสองได้ จนใครๆต่างยกนิ้วในความเก่งกล้าสามารถให้ โดยไม่มีใครรู้เลยว่า มีเหตุผลบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของมาธวี มานานแสนนานที่ทำให้วายุเป็นบุคคลพิเศษมากกว่าคนอื่น



    กว่าจัดการให้ยัยตัวแสบเข้านอนได้วายุต้องเสียพลังงานไปมากพอสมควร มาถึงที่บ้านของเธอ กลับไม่มีใครอยู่เลยสักคน เลยต้องลำบากเขาต้องลงมือจัดการกับเด็กงอแงที่ชื่อมาธวีเอง โดยการโทรศัพท์ตามวาโยน้องสาวฝาแฝดของเขาที่วันนี้ไม่มีเรียนให้มาเป็นลูกมือ

    คนที่ทำท่าจะป่วยหนักแต่ไม่ยอมไปหาหมอถูกพาขึ้นไปนอนที่ห้องนอนที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วมาธวีก็ไม่ยอมเปลี่ยนชุดนักศึกษา พยายามทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตั้งท่าจะหลับท่าเดียว เดือดร้อนวาโยต้องจัดการเปลี่ยนให้พร้อมทั้งเช็ดตัวให้อาการไข้ลดลง

    ส่วนตัวเขาลงไปเตรียมข้าวต้มให้หญิงสาวเพื่อที่จะได้กินก่อนกินยา ได้ยินจากเพื่อนๆของเธอว่า ตั้งแต่เช้ามาธวีไม่ได้กินข้าว พอเข้าเรียนได้สักพักก็ปวดหัวอย่างหนักจนต้องไปที่ห้องพยาบาล นอนไม่ได้สติอยู่นานจนต้องโทรศัพท์มาบอกเขาให้ช่วยพาหญิงสาวกลับบ้าน

    มาธวีจะรู้บางไหมว่าเขาห่วงมากแค่ไหน วางโทรศัพท์ปุ๊บก็ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอยู่เพื่อมาดูอาการของเธอ คงเป็นเพราะเมื่อวานเขาต้องอยู่ทำรายงานกับเพื่อนจึงบอกให้หญิงสาวรอเขาสักชั่วโมงสองชั่วโมง แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงบอกว่าจะกลับบ้านเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากกลับไปพัก และไม่อยากเป็นภาระของเขา

    ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมกับเหตุผลบ้าๆที่ได้ยิน แต่ท่าทางเอาจริงของหญิงสาวทำให้เขาต้องยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ พอถึงบ้านเขาแอบถามวาโยที่กลับมาก่อนและให้เป็นหูเป็นตาแทนตอนที่ไม่อยู่ ว่ามาธวีกลับมานานหรือยัง คำตอบที่ได้รับคือการบรรยายสภาพที่เหมือนลูกหมาตกน้ำของเธอยามกลับมาถึงบ้าน

    ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมขึ้นรถแท็กซี่ตามคำบอกของเขา แต่กลับขึ้นรถเมล์แทน กว่าจะกลับถึงบ้านต้องตากลมตากฝน ไม่ให้ล้มป่วยได้อย่างไร

    เรื่องความเป็นห่วงจนโอเว่อของวายุทำให้มักจักจะโดนวาโยค่อนขอดว่าทำตัวไม่เหมือนเพื่อน ตอนนี้เขาเหมือนจะเป็นพ่อของมาธวีมากกว่า เอะอะอะไรก็ดุก็เอ็ด บางทีก็บ่น จนวาโยอดสงสารแทนหญิงสาวไม่ได้ ที่ต้องมาคบกับพี่ชายของเธอ

    ...ก็จะให้ทำอย่างไร คนมันห่วง...

    ข้ออ้างนี้เขามักจะเถียงน้องสาว แต่เธอก็ตอบกลับว่า ทำไมทีน้องสาวตัวเอง เกิดพร้อมกันแท้ๆเขายังไม่ห่วงขนาดนี้เลย อย่างมากก็แค่บ่นนิดๆหน่อยแล้วก็ลืม แต่กับคนข้างบ้านกลับไม่เหมือนกัน

    นั่นสิ อย่าว่าแต่น้องเขาไม่เข้าใจเลย ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หรือว่าต้องใช้ชีวิตด้วยกันมานานแสนนาน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมจนมาถึงระดับมหาวิทยาลัย มีเธอต้องมีเขา จนบางทีวาโยอยากจะโละตำแหน่งน้องสาวมาให้มาธวีเสีย

    แต่เขากลับเป็นคนที่ร้องโวยวาย ไม่ยอมให้เธอรับตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า

    ‘เรื่องอะไรจะให้ยัยน้ำผึ้งมาเป็นน้องสาว แค่นี้ก็วุ่นวายพอแล้ว เราไม่อยากจะวุ่นวายไปตลอดชีวิต’

    ทั้งที่ใจเขาออกจะชินที่มีเธอคอยกวนใจอยู่อย่างนี้แท้ๆ


    (มีต่อ)

    จากคุณ : ปุณณัตถ์ - [ 13 ต.ค. 49 02:14:21 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com