...เธอคิดเหมือนฉันไหม
ว่าความรักขอสองเราได้กำหนดไว้ก่อน
และชีวิตของเราก็ถูกวางไว้ให้พบกัน..
...............
เพราะในโลกนี้ยังมีสิ่งอีกมากมายที่ไม่มีคำอธิบาย เพราะโลกนี้ยังคงหมุนไปไม่มีวันหยุด เพราะทุกสรรพชีวิตยังคงก้าวไปข้างหน้า อะไรจึงเกิดขึ้นได้เสมอ ภายใต้เส้นขอบฟ้าคุ้งโค้งนี้
แล้วใครจะไปคิดว่า ณ วันหนึ่ง ....จะได้มาพบกัน
วินาทีแรกที่พบ ราวโลกทั้งโลกหยุดหมุน ทุกอย่างนิ่งงันอยู่กับที่ดั่งภาพการเคลื่อนไหวถูกหยุดเอาไว้ด้วยรีโมทคอนโทร ซึ่งถูกกดมาจากหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียว
ผู้ชายร่างใหญ่ สวมเสื้อยืดสีขาวออกเทา กางเกงยีนส์สีมอ สะพายกระเป๋าใบเขื่องสีฟ้า ยืนอยู่ตรงหน้า
คุณเจี๊ยบใช่ไหมครับ
ฉันได้แต่ยืนนิ่ง ราวกับต้องมนต์สะกด สักครู่ค่อยเผยยิ้มแล้วเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้น ใช่..ฉันตื่นเต้นจริงๆ
คุณคือ...
สุธีไงครับ
เราจ้องหน้า สบตากัน ปล่อยให้ความเงียบงันทำหน้าที่แทนความรู้สึกทุกอย่าง ก่อนที่ฉันจะตั้งสติได้แล้วเอ่ยขึ้น
คุณสุธีมาเหนื่อยแวะหาอะไรเย็นๆดื่มก่อนดีไหมคะ
ฉันไม่รู้ว่าขาทั้งสองข้างมาพาตัวเองเดินนำหน้าเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าอาการเขินจนขาขวิดมันเป็นอย่างนี้เองเล่า ทำไมฉันจะไม่เขิน ผู้ชายตรงหน้านี้ เราติดต่อกันมานานปี ร่ำๆจะได้พบกันก็หลายหน แต่จนแล้วจนรอด ด้วยระยะทางและความต่าง ทำให้เราคลาดกันเสมอ
ฝนตกตลอดทางเลย เขาถูมือไปมาหลังจากหย่อนก้นลงเก้าอี้ในร้านคอฟฟี่ชอฟ
เหรอคะ..ตะกี้ ที่นี่ก็เพิ่งหยุด
ฉันหยิบเมนูขึ้นมาดูแก้เขิน ก่อนหันไปสั่งเครื่องดื่ม และอาหารกับพนักงานสาวที่ยืนรอรับออเดอร์อยู่
ทานอะไรหน่อยนะคะ นี่ก็เย็นมากแล้ว
เราไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกัน อีกเรื่องที่เราคุยกันได้โดยที่ไม่ออกอาการขัดเขินก็คือ เรื่องงานอดิเรก และความชอบส่วนตัวของเรา
ใช่..เพราะงานอดิเรกมิใช่หรือที่ทำให้เราได้เจอะเจอกันในโลกไซเบอร์ แล้วสานสัมพันธ์ทักทอจนแน่นหนา ...
คุณเจี๊ยบมาคนเดียวหรือครับ
ค่ะ คุณธีละคะ
เหมือนกันเลย
คุณเจี๊ยบดูดีกว่าในรูปตั้งเยอะ
เหรอคะ..คุณธีก็เหมือนกัน
เอ่อ......
คะ.......
......
แล้วเธอจะเชื่อไหม...
ว่าหัวใจของฉันนั้นเฝ้ารอเธออยู่ในทุกๆวัน
แล้วจะรอจนถึงวันนั้น ที่ฝันจะเป็นจริง...
..........
เมฆฝนทะมึนโอบน่านฟ้ามหานคร ขณะที่ควันสีเทาที่ปกคลุมเหนือยอดตึกระฟ้ามากมาย ทำให้เมืองทั้งเมืองดูหมองเศร้า ไร้ชีวิตชีวา เป็นภาพที่ผมไม่ได้เห็นมานานนับสิบปี ปกติชีวิตของผมหลังลืมตาตื่นก็จะเจอแต่ความเขียวขจีของต้นไม้เสียมากกว่า
ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าผมเกลียดความจอแจแออัด และสภาพอากาศของที่นี่มาก แต่นั่นมันไม่ใช่ปัจจัยหรือปัญหาสำคัญอะไรเลยในตอนนี้....
ฝนทำท่าจะตกอีกแล้วนะ แหม..ที่นี่ดูๆไปก็คล้ายลอนดอนนะคะ..ฝนตกแบบไม่เคยที่จะบอกล่วงหน้า
....ร่างสันทัดทะมัดทะแมงที่ยืนกอดอกหลวมๆอยู่ริมหน้าต่างนั่นต่างหาก คือ คำตอบที่พาผมมาอยู่ที่นี่.......
น่าตลกนะคะ เจี๊ยบนึกถึงมาตรการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์แล้วกลุ้มแทน คุณสุธีดูตึกนั่นสิคะ..จอห์นนี่วอร์คเกอร์ติดหราเลย...แล้วเขาจะลบมันออกยังไง..
เธอยังคงพูดเจื้อยแจ้ว
แล้วภาพมัวๆที่พยายามบังแผ่นป้ายโฆษณาเหล้าเบียร์ในทีวีนั่นอีก.. น่าขันนะคะคนไทยเราชอบแก้ปัญหาอะไรที่ปลายเหตุ แทนที่จะนึกถึงที่มาหรือต้นตอของปัญหามากกว่า เจี๊ยบว่ายากค่ะ เพราะตอนนี้คนไทยนั้นเสพติดความสนุกสนาน ความสะดวกสบายกันหมดแล้ว แล้วไอ้ความสนุกสนานส่วนใหญ่นี่มันก็จำเป็นต้องพึ่งเจ้าพวกเครื่องดื่มเหล่านี้เสียด้วย ดูในตู้เย็นนั่นปะไร มีทั้งเหล้าทั้งเบียร์ คุณสุธีอย่าเผลอไปเปิดกินเชียวนะคะ..ราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว
เธอหันมาขอความเห็น...แต่...ช้าไปแล้ว เพราะผมปิดโอกาสตอบคำถามเธอ ด้วยการเข้าประชิดตัว ก่อนจะปิดปากช่างเจรจานั้นด้วยปากของผมเอง
ในอ้อมอก ผมรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรง ลมหายใจที่ร้อนผ่าว เนิ่นนานกว่าที่ผมจะคลายร่างนั้น ดูเธอตกใจจนหน้าซีด ปากคอสั่น
พี่ธี....
ประโยคแรกที่เธอเอ่ยขึ้น ทำลายกำแพงแห่งความห่างเหินให้พังคลืน ผมรวบร่างนั้นแนบตัว กอดรัดเธอราวกับกลัวว่าร่างนั้นจะหลุดลอยไปต่อหน้า
พี่รักเจี๊ยบนะ
ผม...ไม่อาจจะหักห้ามใจได้อีกแล้ว ไม่ใช่เฉพาะผม..เราสองคนและหัวใจสองดวงที่โหยหากันมาตลอดเวลาที่ยาวนานนั่นต่างหากเล่า
* * * * *
ดูสิคะ..เมืองฟ้าอมรยามเช้า..
เจี๊ยบลุกจากเตียง เดินไปเปิดม่านหน้าต่าง โดยมีร่างสูงของสุธีเดินตามมาแล้วสวมกอดร่างเธอจากข้างหลัง
ไม่อยากให้เวลามันเดินไปข้างหน้าเลย... เธอพูดเสียงเครือ เวลาไม่เคยเห็นใจใคร เจี๊ยบเกลียดเวลา
หล่อนเริ่มสะอื้นเบาๆ
สุธีกอดร่างนั้นแน่นขึ้น กดจมูกลงบนเรือนผมนุ่มราวไยไหม
ไม่ใช่เพราะเวลาหรอกหรือเจี๊ยบ ที่ทำให้เราได้มาพบกัน แม้วันนี้เวลาจะไม่ย้อนกลับ แต่พี่ก็ยังหวังเสมอว่า วันหนึ่งข้างหน้า เวลาจะทำให้เราได้พบกันอีก เจี๊ยบเชื่อในโชคชะตาไหม พี่เชื่อนะว่าเราสองคนถูกกำหนดไว้ให้พบกันแต่ต้นแล้ว
สัญญานะคะ..ว่าจะไม่ลืมกัน
ครับ พี่สัญญา.....
........................
ความมืดโรยตัวลงมาอย่างเชื่องช้า ความเหนื่อยอ่อนและความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในรถทัวร์ ทำให้สุธีเผลอหลับไป แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือซึ่งคาดว่าคงดังนานแล้ว
อยู่ไหนทำไมรับสายช้า.. เสียงจากปลายสายบ่งถึงความไม่พอใจ
อยู่บนรถ...หลับอยู่เขางัวเงียตอบ
กางเกงยีนส์ขาสั้นของฉัน แล้วก็รถวิทยุบังคับของลูกน่ะได้ไหม
ได้สิจ๊ะ..ไม่ลืมหรอกจ้าทูนหัว
เวลาเดียวกัน
.
ขณะที่ความมืดโรยตัวลงมาอย่างอ้อยอิ่ง ความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางและความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในรถทัวร์ ทำให้เธอม่อยหลับไป แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ
อยู่ไหน..
อยู่บนรถ... เธอตอบกลับปลายสายไปด้วยเสียงอู้อี้
รีบๆกลับมานะเจี๊ยบ ผมคิดถึง
ค่ะ..
เจี๊ยบพิงศีรษะกับกระจกรถทัวร์ มองแสงไฟวับแวมข้างทางดวงแล้วดวงเล่าอย่างเลื่อนลอย รอยยิ้มจางๆค่อยคลี่ออกที่ริมฝีปากสวย เมื่อนึกถึงสัมผัสอุ่นละไมที่ยังกรุ่นอยู่ในหัวใจ
สัญญานะว่าจะไม่ลืม...
ครับ..สัญญา...
Forget Me Not
.
ครับ..Forget Me Not , too.
...เธอคิดเหมือนฉันไหม
ว่าความรักขอสองเราได้กำหนดไว้ก่อน
และชีวิตของเราก็ถูกวางไว้ให้พบกัน.
แล้วเธอจะเชื่อไหม...
ว่าหัวใจของฉันนั้นเฝ้ารอเธออยู่ในทุกๆวัน
แล้วจะรอจนถึงวันนั้น.... ที่ฝันจะเป็นจริง...
Forget Me Not
. Forget Me Not
.Forget Me Not
.
จากคุณ :
อันดาริญา
- [
26 ต.ค. 49 15:51:13
A:203.150.86.185 X:
]