๑
โอ้สายลมตุลาคมพรมทุ่งข้าว
หอบความหนาวมาค้างกลางทุ่งฝัน
เวิ้งฟ้ากว้างวาววะวับระยับตะวัน
ขับเมฆอันเคยมืดมนพ้นฟ้าไกล
๒
แลรอบคุ้งทุ่งข้าวดอกข้าวขาว
ขาวดอกพราวพะนอลมพรมดอกไหว
งามทั่วทุ่งทุกรุ่งอโณทัย
ดุจทวยเทพเนรมิตไว้ในโลกา
งามด้วยงานแห่งชาวนาท้าทนทุกข์
ผู้หมายปลุกสำนึกมั่นอันแรงกล้า
หวังสืบสานตำนานแห่งชาวนา
ให้คงอยู่คู่หล้าอนันตกาล
จึงเป็นงานแห่งความงามแสนล้ำเลิศ
ที่ก่อเกิดจากชาวนาผู้กล้าหาญ
เพราะเจ้าทุ่มทั้งกายใจใฝ่ปฏิญาณ
จักมุ่งงาน ณ ทุ่งนี้ชั่วชีวิน
ต้นข้าวเจ้าเปรียบพู่กันปรารถนา
แต้มเติมค่าวรวิจิตรลิขิตถวิล
ลิขิตลงบนผืนผ้าชื่อว่าดิน
ราวสร้างสรรค์งานแห่งศิลป์จินตนา
ศิลปินในภพนี้กี่หมื่นล้าน
ฤาจักสร้างผลงานสะท้านหล้า
ดั่งชาวนาผู้คร่ำงานผ่านกาลเวลา
ทั้งฝนพรำแดดกล้ายังท้าทน
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินถวิลหวัง
เหงื่อไคลหลั่งกายล้านัยน์ตาหม่น
ด้วยทำงานหนักหนาประสาจน
แต่เปี่ยมล้นพลังใจใฝ่ศรัทธา
แต่ละต้นแต่ละกอต่อเติมฝัน
มิเคยหวั่นแม้จะเหนื่อยและเมื่อยล้า
ไฟนักสู้ยังฉานฉายในแววตา
ด้วยแรงหวังขลังกล้าทายท้ากาล
จวบต้นข้าวผลิดอกขาวพราวทั่วทุ่ง
เมื่อลมรุ่งตุลาคมพรมพัดผ่าน
ไล่ฝนหายหอบไอหนาวแนบเนานาน
ณ ท้องทุ่งแสนสำราญเบิกบานฤทัย
เกรียงไกร หัวบุญศาล
๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๙
จากคุณ :
huaboonsan
- [
27 ต.ค. 49 18:08:09
]