หากภาพที่อยู่เบื้องหน้าของผมมันไม่เคยเขียวขจีมาก่อน ผมคงต้องประหลาดใจอย่างมากกับผืนน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่เหมือนกับจะไม่มีขอบเขตว่ามันจะไปสิ้นสุดตรงไหน... ก่อนหน้านี้สักหนึ่งเดือนผม และ เพื่อน ๆ ยังวิ่งไปได้ทั่วท้องทุ่ง ไปได้ทุกแห่งหน ที่อยากจะไป เหนื่อยก็ลงว่ายน้ำในลำคลอง หรือท้องร่อง หายร้อนก็ออกควบกันต่อ แต่มาตอนนี้สิ อย่าว่าแต่ที่จะให้วิ่งเลย ลำพังที่เดินก็แทบจะไม่เหลือให้เดินกันแล้ว น้ำมากมายมาจากไหนผมไม่รู้ รู้แต่ว่า มันมาเรื่อย ๆ และเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ๆ จากที่วิ่งเล่นของผม มาบัดนี้เหลือเพียงแค่ที่ซุกหัวนอนรอบ ๆ บ้านเท่านั้น ผมเคยได้ยินนายบอกอยู่เสมอ ๆ ว่า เอาไว้ว่าง ๆ จะพาไปเที่ยวทะเล ทะเล.........ที่มองทางไหนก็มีแต่น้ำ หรือว่านายพาผมมาทะเลแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ไปไหนนี่นา บ้านก็ยังอยู่ ทุกอย่างรอบ ๆ ตัวยังเหมือนเดิม ยกเว้นแต่พื้นดินที่ถูกน้ำกลบไปจนแทบจะไม่เหลือแล้ว นายยังไม่ได้พาผมไปไหนเลย แล้วน้ำมาจากไหน ? นั่นน่ะสิ แล้วผมจะถามใครดี ก็ในเมื่อตั้งแต่น้ำเริ่มขึ้น นาย และพลพรรคของนายก็หายหน้าไปกันหมด เหลือทิ้งไว้แต่อาหารเม็ดที่เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน นาย กับ พี่แก้ว เอามาฝากให้พี่ศักดิ์ และครอบครัวช่วยเทให้ผมกับเพื่อน ๆ กินกันตายไปวัน ๆ นาย จะรู้มั๊ยว่า พี่ศักดิ์ ไม่ได้ให้ผมกินทุกวันหรอกนึกได้แกก็ให้ที บางทีก็ลืมไป 2-3 วัน ยิ่งช่วงนี้น้ำท่วมเดินมาลำบากพี่ศักดิ์ก็ไม่ค่อยมา.... อีแบะ กับ นังหนุงหนิง ช่วงนี้มันก็บ่นว่าหาหนูนายากเหลือเกิน แถมยังโดนคนมาแย่งหาหนูนาเอาไปขายอีก.... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่ามนุษย์กินได้ทุกอย่างจริง ๆ เนื้อหนูนาช่วงหน้าน้ำอย่างนี้ พี่ศักดิ์บอกว่า เอาฉมวกแทงไปขายได้โลละ 100 -120 บาททีเดียว ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ 100 - 120 บาทน่ะมันมากขนาดไหน แต่มันคงมากโขอยู่เพราะไม่งั้น อีแบะ กับนังหนุงหนิง คงไม่บ่นว่าหาหนูยากหรอก.....( ต่อตอนหน้านะ
จากคุณ :
นายกาเหว่า
- [
27 ต.ค. 49 18:12:13
]