CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    สำนักงานสืบสวนเอลเลอรี่ ควีน: แผนกอัตวินิบาตกรรม: เรื่อง “Question of Honor”

    ไม่ใช่ทุกวันที่เอลเลอรี่พบว่าตนเองได้พบปะนายตำรวจที่มีความสนใจในเชคสเปียร์ และได้สัมผัสมือกับแขกจากอังกฤษของสารวัตรควีนด้วยความสนใจ มือนั้นเป็นมือที่แข็งแรงซึ่งต่อเชื่อมอยู่กับร่างกายที่ผึ่งผายตามพิมพ์นิยมของวิชาชีพ หากส่วนเหนือคอของสารวัตรเบิร์กแห่งนิวสก็อตแลนด์ยาร์ดขึ้นไป กลับเป็นหน้าผากกว้าง ผิวขาวซีด และตาโศกที่สะท้อนความเฉลียวฉลาด แบบนักวิชาการไปได้อย่างคาดไม่ถึง

    “มาที่นี่ด้วยเรื่องคดีหรือ สารวัตรเบิร์ก”

    “ใช่ แล้วก็ไม่” เจ้าหน้าที่สก็อตแลนด์ยาร์ดเอ่ยตอบเสียงหนัก “‘All hoods make not the monks... ชนที่มีผ้าคลุมศีรษะ จะใช่พระทั้งหมดก็หาไม่...’ อย่างที่แคทเธอรีนว่าไว้ในบทละครเรื่องเฮนรี่ที่แปดนั่นละ... ผมมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อตามล่าวายร้ายคนหนึ่ง ซึ่งนั่นก็ถูกต้องพอควร แต่เรื่องของเรื่องคือ เขาก็รอผมอยู่ แล้วจะอย่างไรอีกเล่า พอผมจับหมอนั่นได้แล้ว ผมก็จำต้องปล่อยเขาไป”

    “เพราะอะไรครับ” เอลเลอรี่ถามด้วยความประหลาดใจ

    “ออกจะยาวไปหน่อยกระมัง เบิร์ก” สารวัตรควีนยิ้ม “สำหรับการออกตัวธรรมดา ๆ”

    “สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คือ ข้อขัดข้องอย่างยิ่งนะ คุณสุภาพบุรุษ” ดวงตาซึมเศร้าของชายชาวอังกฤษเป็นประกาย “เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเท่าไรนัก ที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรสาวของบุคคลระดับสูงจะออกมาประกาศการหมั้นของหล่อนกับชายที่อยู่ในสายตาของนานาชาติในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งทาง ‘ผู้ใหญ่’ ทั้งหลายก็ต่างระบุกันทั้งนั้นล่ะว่า การหมั้นหมายครั้งนี้จะเกิดไม่ได้แน่ ถ้าไม่ได้รับความยินยอมจากทางไวท์ฮอลล์ ซึ่งผมสามารถจะพูดเรื่องนี้ออกมาได้แล้วตอนนี้”

    “แต่ประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา หญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ แต่ออกจะหุนหันพลันแล่น และติดจะเพ้อฝันเกินไปสักหน่อยผู้นี้...” ตำรวจชาวอังกฤษกล่าวต่อ “ได้เขียนจดหมายที่ไม่สมควรอย่างยิ่งเจ็ดฉบับไปถึงผู้ชายที่หล่อนหลงใหล”

    “ขณะนี้ สถานะของคู่หมั้นของหล่อน ก็อย่างว่านั่นละ ไม่ว่าจดหมายพวกนี้จะตกไปถึงมือเขา หรือแพร่ออกมาสู่สาธารณะ เขาก็จะถูกบีบให้ถอนหมั้น และผลของเรื่องอื้อฉาวนี้ก็จะก่อให้เกิดสถานการณ์ทางการทูตที่เลวร้ายในสภาวการณ์ทางการเมืองที่อ่อนไหวอย่างมากแน่นอน... ‘น้ำท่วมใหญ่มีต้นสายจากที่มาเล็กน้อยหลายแหล่ง’ คุณก็รู้”

    “พอ... ครอบครัว... ของหญิงสาวผู้นั้นได้รู้เรื่องจดหมายเข้า พวกเขาก็รีบตามไปเอาจดหมายกลับมาทันที แต่ก็มีข้อขัดข้องอยู่ตรงที่ ชายคนที่ได้รับจดหมายไม่มีจดหมายเหล่านั้นอยู่กับตัวแล้ว เพราะมันถูกขโมยไปจากเขา”

    “อืม” พ่อของเอลเลอรี่เอ่ย

    “ไม่เลย ควีน ไม่ใช่... คนคนนั้นเขาอยู่เหนือฐานะผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกันเราก็รู้รูปพรรณสันฐานของขโมย หรืออะไรทำนองนั้นแล้ว” สารวัตรเบิร์กกล่าวเศร้า ๆ “เรายืนยันได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในชายสามคนนี้แน่”

    “พวกเขาเป็นคนที่เราคุ้นเคยงั้นหรือครับ” เอลเลอรี่ถาม

    “ไม่ต้องสงสัยเลย คุณควีน ถ้าคุณเคยเข้าไปดูภาพอาชญากรของช่วงเร็ว ๆ นี้แล้วละก็... คนเหล่านี้เป็นชาวอเมริกันทั้งหมด คนหนึ่งเป็นโจรขโมยอัญมณี และหนุ่มสังคมจอมปลอม ชื่อ วิลเลียม แอคลี่ย์ มีชื่อปลอมว่าลอร์ดโรเจอร์ส หรือ ท่านเคานต์แห่งเกรซี อีกคนหนึ่งเป็นนักต้มตุ๋น ชื่อ ฟิลิป เบ็นสัน มีชื่อปลอมว่า จอห์น แฮมเมอร์ชมิดท์ กับฉายา ฟิล มือปากกา ส่วนคนที่สาม คือ วอลเตอร์ เชส เป็นนักโกงไพ่ที่หากินข้ามคาบสมุทรแอตแลนติก”

    พ่อลูกสกุลควีนสบตากัน... ทั้งแอคลี่ย์ เบ็นสัน และเชส เป็นสามคนที่ก่อความปวดเศียรเวียรเกล้าชนิดไม่รู้จักหายให้ส่วนกลางทั้งนั้น

    “พอเรื่องถูกส่งต่อมาถึงสก็อตแลนด์ยาร์ดแบบเป็นความลับอย่างยิ่ง ผมก็ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับผิดชอบ แล้วผมก็ทำพลาด” ใบหน้าของสารวัตรเบิร์กแดงก่ำด้วยความรู้สึก “พอความรั่วออกมาภายนอกว่ามีเรื่องใหญ่บางเรื่องเกิดขึ้นอวลอยู่ในสายลม พวกวายร้ายสารพัดประเภทที่รู้ตัวว่ามีความผิดก็วิ่งพล่านเพื่อปกปิดความผิดก่อนที่เราจะกำหนดขอบเขตการสอบสวนจับกุมเสียอีก แล้วพวกหนึ่งในกลุ่มนั้นคือ เบ็นสัน เชส และแอคลี่ย์... ทั้งสามคนก็เผ่นหนีไปยังสหรัฐแล้ว โดยหนึ่งในพวกนั้น ซึ่งเรายังไม่ได้สรุปว่าเป็นใคร ได้ติดต่อมา เสนอข้อเรียกร้อง และสิ่งที่จะต้องทำ แล้วผมก็มาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะจ่ายเงินให้เขา”

    สารวัตรควีนร้อง “เมื่อไหร่ ที่ไหนกัน เบิร์ก”

    “คืนนี้ ในห้องของผมที่โรงแรม ผมต้องเอาเงินสองหมื่นปอนด์ที่แลกเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐแล้วให้เขา แน่ล่ะ เพื่อแลกกับจดหมายพวกนั้น ดังนั้น คืนนี้ผมก็จะได้รู้เสียทีว่าหนึ่งในสามคนนั้นเป็นใคร และผลจะออกมาดีสำหรับผมขนาดไหน” ชายชาวอังกฤษลุกขึ้นยืน พร้อมเม้มริมฝีปาก “นั่นก็คือเรื่องห้าแต้มของผมอย่างไรเล่า ควีน...  ผมคงต้องขอร้องคุณไม่ให้เข้าไปใกล้เจ้าสามคนนั่น ไม่ว่าคนไหนก็ตาม ซึ่งนี่คือเหตุผลหลักที่ผมแวะมาที่นี่ ผมไม่อยากเสี่ยงที่จะพลาดอีกหน จดหมายพวกนั้นควรต้องถูกเก็บ ส่งกลับไปอังกฤษ แล้วก็ทำลายทิ้งเสีย”

    “เราพอจะช่วยอะไรคุณได้บ้างไหม”

    “ไม่ต้องหรอก ไม่ต้อง เว้นเสียแต่ผมทำพลาดอีกหน” สารวัตรเบิร์กกล่าวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “คุณจะเอางานกวาดสำนักงานคุณให้ผมทำก็ย่อมได้ ผมคงรู้สึกไม่เป็นสุขอย่างมากหากต้องกลับไป... เอาเป็นว่าขอให้คุณสุภาพบุรุษทั้งหลาย ช่วยอวยพรให้ผมโชคดีก็แล้วกัน”

    “โชคดี” ควีนสองพ่อลูกเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

    -----------------------------------

    พวกเขาหวนนึกถึงร่องรอยความขมขื่นในรอยยิ้มของเบิร์กขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้เห็นเขาในห้องพักในโรงแรมในเช้าวันถัดมา พนักงานดูแลห้องพบนายตำรวจนั่งหย่อนกายอยู่ในเก้าอี้แบบมีที่เท้าแขนข้าง ๆ เตียงที่ทำเอาไว้อย่างเรียบร้อย มีรูกระสุนอยู่บนขมับขวาซึ่งมีรอยไหม้จากดินปืน เขาเสียชีวิตมาตั้งแต่คืนก่อนแล้ว ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน ด้วยโรงแรมแห่งนั้นเป็นโรงแรมที่ทันสมัยเป็นพิเศษด้วยผนังเก็บเสียง ปืนซึ่งตกอยู่บนพื้นพรมด้านใต้มือขวาของเขาถูกนำไปตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการของตำรวจเพื่อเปรียบเทียบกับกระสุนที่เก็บออกมาจากศีรษะของเขาโดยแพทย์ผู้ทำการชันสูตร

    ห้องดังกล่าวอยู่ในสภาพเรียบร้อย กระเป๋าแบบแกลดสโตน หรือกระเป๋าหิ้วสองฝา ที่เปิดอ้าอยู่บนชั้นวางกระเป๋ายังไม่ถูกเคลื่อนย้าย บนโต๊ะข้างเตียงมีไปป์กับถุงใส่ยาสูบ และหนังสือบทละครเชคสเปียร์ซึ่งมีลายเซ็นของเบิร์กอยู่บนหน้าว่างของปกใน กล่องใส่เอกสารที่มีอักษรย่อ แอล บีซึ่งเปิดอยู่ และว่างเปล่าวางอยู่บนเตียง

    “เบิร์กที่น่าสงสาร” สารวัตรควีนพึมพำ ส่งแผ่นกระดาษจากชุดเครื่องเขียนที่โรงแรมจัดให้สำหรับแขกให้เอลเลอรี่ “เจออยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือแน่ะ มีลายนิ้วมือของเขาอยู่สองรอย แล้วก็มีลายมือของเขา ซึ่งเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว”

    ตัวหนังสือมีความสม่ำเสมอและดูไม่เร่งรีบในการเขียน ราวกับสมองที่สั่งการให้มือเขียนนั้นได้ตัดสินใจไว้แล้ว

    “Mine honor is my life; both grow in one;
    Take honor from me, and my life is done.”
                                                    Lester Burke

    “เกียรติข้า คือ ชีพข้า เป็นเอกามาแต่ใด
    ผิว์พรากจากเกียรติไซร้ ย่อมวางวายซึ่งชีวา”
                                                    เลสเตอร์ เบิร์ก

    “คำจารึก ณ หลุมศพ แต่งโดยเชคสเปียร์” เอลเลอรี่เอ่ยแผ่วเบา “นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ พ่อ”

    “ดูท่าว่า คนที่เขานัดหมายได้มาหาเมื่อคืนนี้พร้อมกับจดหมายตามที่ตกลงกันไว้ แต่ขณะที่เบิร์กกำลังสอบถามเจ้านั่นอยู่ และเป็นไปได้ว่าตอนที่เขาเบนหน้าออกไปเล็กน้อย ไอ้สารเลวนั่นก็ตีเขาเข้าให้ หมอบอกว่ามีรอยช้ำอยู่ที่ด้านหลังศีรษะของเบิร์ก จากนั้นแล้วไอ้ขี้โกงนั่นก็เอาทั้งเงินทั้งจดหมายหนีไป คาดว่า มันคงคิดแล้วว่าจดหมายของคนระดับสูงขนาดนั้นดีพอสำหรับการเรียกเอาเงินข้ามฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอีกสักรอบเมื่อสถานการณ์ร้อนคลี่คลายลง ซ้ำยังได้เงินเกือบห้าหมื่นเหรียญมาใช้ไปพลาง ๆ อีกด้วย และเมื่อเบิร์กเพื่อนยากได้รับรู้ถึงสิ่งที่เขาปล่อยให้เกิดขึ้น ด้วยเหตุเหล่านั้น เขาจึงไม่สามารถเผชิญหน้ากับความอัปยศได้ และตัดสินใจฆ่าตัวตาย”

    “เป็นการฆ่าตัวตายโดยไม่มีข้อสงสัยแน่หรือครับ”

    “ลูกเรียกแบบนั้นเองนะ... กระสุนถูกลั่นออกไปในระยะประชิดกับขมับของเบิร์ก องศาทางเข้าของกระสุนตรวจสอบแล้วว่าเป็นของคนถนัดขวา กระสุนที่มาจากปืนของเบิร์กเองก็ถูกพบในตัวเขา ลายนิ้วมือบนด้ามปืนอีกล่ะ จดหมายก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เงินก็ไปแล้ว นี่เป็นการฆ่าตัวตาย แน่ละ คำถามเดียวที่มีอยู่ คือ ใครในวายร้ายสามคนนี่ที่หักหลังเบิร์ก ผลักไสให้เขาต้องทำแบบนั้นลงไป... แอคลี่ย์ เชส หรือเบ็นสัน”

    (มีต่อนะคะ)

    แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 49 22:01:10

    จากคุณ : ปิยะรักษ์ - [ 30 ต.ค. 49 21:41:03 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com