CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    คนแพ้กลางคืน [ความเรียงแบบบ่นไปเรื่อย]

    ..



    มีคนเคยบอกว่าผมตาสวย  จำเพาะในยามที่มีหยาดน้ำเอ่อคลอ  เขาชอบมองผมเวลาร้องไห้  เฝ้าดูหยดน้ำเล็ก ๆ เกาะพราวตามขนตา

    แต่ผมไม่ชอบร้องไห้  โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่น  มันแสดงถึงความอ่อนแอ  มันบอกว่าผมแพ้  แม้ผมจะไม่รู้แน่ว่าใครแพ้  คนร้องไห้หรือคนที่เจ็บปวดไปด้วย

    ผมเป็นโรคชนิดหนึ่ง  บางคนก็บอกว่าเกิดจากจิตใจ  บ้างก็ว่ามีสาเหตุจากสารเคมีในต่อมใต้สมอง  มีบางกระแสบอกว่าสำออยไปเอง  ผมอาจจะเกรงข้อท้ายที่สุดจึงไม่หาวิธีบำบัดสักที

    คุณรู้มั้ย  ลานนาออกอัลบั้มใหม่  มิวสิควิดีโอแรกของเธอคือเพลงจ้องตากับความเหงา  เธอบอกว่า  ความเหงาอาจทำให้เราเจ็บปวด  แต่ถ้าเราอยู่กับมันได้  เราจะชินไปเอง  ผมกำลังรออยู่  รอวันที่ผมชิน

    ผมว่าตัวผมเองมีชีวิตที่เพียบพร้อม  ครอบครัวอบอุ่น  ฐานะปานกลาง  อยากได้อะไรที่สมฐานะ  ก็มักจะได้ดังใจ  ผมมีคนที่รักผมมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยแม้แต่จะพบหน้ากันมาก่อน

    ผมควรจะมีความสุข  ผมมีข้าวกิน  ผมมีที่หลับนอน  ผมไม่ต้องทำงาน  ผมไม่ต้องเรียนหนังสือ  เหมือนกับวัชพืชที่คลี่ใบออกรับแสงทุกเช้า  ก่อนหลุบเร้นเรียวใบในตอนเย็น

    มีเพลงอีกเพลงที่ผมชอบ  คือเพลงแพ้กลางคืน  เรื่องราวในเนื้อเพลงบอกเล่าถึงชายหนุ่มคนหนึ่ง  ถ้าตามที่ผมตีความ  เขากลัวช่วงเวลาก่อนที่จะข่มตาหลับลงได้  ช่วงเวลานั้นล่ะที่ทรมาน  เขาคงพลิกตัวด้วยความกระสับกระส่ายบนที่นอน  ความคิดของเขาวิ่งพล่าน  แต่สะท้อนไปมาในกรงของความเหงาและเดียวดาย

    ในมิวสิควิดีโอ  เขาวิ่งตามแสงไฟประดิษฐ์  แสงสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนส์  อาจจะมีความหมายเชิงสัญลักษณ์  อาจจะหมายถึงที่ยึดเหนี่ยว  อะไรก็ได้ที่มาให้เขาได้ยึดถือไว้ชั่วคราว  จนกว่ามันจะหลุดลอยไปและปล่อยให้เขาเคว้งอยู่ในวัฏฏะเดิม ๆ อีกครั้ง

    ผมกลัวช่วงเวลาเดียวกับเขา  ผมจะทำให้ตัวเองเหนื่อยที่สุด  อยู่ดึกที่สุด  ทำอะไรก็ได้  ขอให้ได้ทำ  ขอให้ไม่อยู่ว่างพอที่จะคิดเรื่องราวร้อยแปด  เพื่อยามที่หัวถึงหมอนจะได้สลบไสลไปในทันที  วิธีของผมอาจจะแตกต่าง  แต่คงมีความหมายเดียวกัน  ..ผมกำลังหนีกลางคืน

    ผมยังเล่าไม่จบ  โรคที่ผมเป็นส่งผลต่อชีวิตผมมากเหลือเกิน  มันทำให้ผมหวั่นไหวง่าย  เรื่องราวเพียงนิดที่กระทบ  ก็จะทำให้อารมณ์ผมดิ่งลงในทันที  มันทำให้ผมสำออย  ทำตัวโง่เง่า  ตอบสนองในทิศตรงกันข้าม  หรือที่เรียกว่าประชดชีวิต  สร้างเปลือกด้านชาขึ้นมาห่อหุ้มความอ่อนไหว

    ยังไม่พอ  มันบั่นทอนกำลังใจของผม  เรื่องทั่ว ๆ ไป  กิจวัตรประจำวันที่ชาวบ้านเขาทำกันได้  ผมต้องใช้ความพยายามและแรงจูงใจเป็นสี่ห้าเท่า  แต่ละครั้งที่ผมจะต้องทำอะไรที่เรียกว่าความรับผิดชอบ  ผมต้องสร้างความรู้สึกเป็นสุขที่สุดให้กับตนเอง  สร้างความรู้สึกกำชัยเพื่อปลุกปลอบใจ  เหมือนเป็นรางวัลที่จ่ายให้ล่วงหน้า  ไม่อย่างนั้นผมก็คงนั่งกัดเล็บ  มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง  หรือร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังโดยไม่มีเหตุอันควร

    หลายคนว่าผมจิตใจอ่อนแอ  ผมไม่อาจต้านทานความเย้ายวนที่จะนำผมไปสู่ความสุขชั่วคราว  เหมือนขาดแคลนมันอย่างรุนแรง  เสพย์ความสุขที่อาจจะกระชากผมลงไปสู่ความมืดดำของหล่มทุกข์มากขึ้นเรื่อย ๆ

    มันเจ็บปวด  เหมือนนักทำนายที่มองเห็นอนาคต  รู้ว่าจะเกิดความวิบัติขึ้นในกาลข้างหน้า  แต่ทำอะไรไม่ได้  นอกจากซุกตัวรอตรงมุมห้องให้ความฉิบหายเข้ากลืนกินสิ้นวิญญาณ

    ผมเคยอยู่คนเดียวในโลกแห่งจินตนาการ  อยู่ในความฝันประหลาดมหัศจรรย์อันตัดขาดจากโลกภายนอก  ผมมีความสุข..อย่างน้อยก็คิดว่ามีความสุข  แต่แล้วก็มีใครดึงผมออกมา  เขาสะกิดผม  เขาบอกว่าผมอยู่กับมันไม่ได้ตลอดไปหรอก  ผมต้องเติบโต  เรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอื่นในโลกแห่งความเป็นจริง

    ครั้งแรกมันเป็นแค่รูบนกำแพง  ผมเห็นแต่ดวงตาเขาที่มองลอดจากรูนั้นเข้ามา  เขาพยายามทุกวิถีทาง  แต่รูนั้นไม่ได้ขยายกว้างขึ้นเลยแม้แต่น้อย  ผมกลัว..กลัวจนตัวสั่น  กลัวว่าเขาจะเข้ามาพบผมจริง ๆ  พอ ๆ กับที่กลัวว่าเขาจะล้มเลิกความพยายาม

    แต่แล้วผมก็ยื่นมือออกไป  กำแพงเหมือนก่อจากมายา  มันผุกร่อนเป็นผงดินให้ผมได้สัมผัสอากาศของโลกภายนอกเป็นครั้งแรก

    ผมนึกเสียใจทุกครั้ง  เมื่อหวนนึกถึงวินาทีนั้น  ถ้าผมแข็งใจอีกนิด  ผมคงมีความสุขชั่วนิรันดร์กาล..ดุจเทพนิยาย

    ใครคนนั้นที่ทำร้ายผม  บอกว่าชอบเวลาผมร้องไห้  เป็นคนเดียวกับที่ทำลายกำแพง  เป็นคนที่ผมหลงใหล  และอยากจะเกลียดแต่กลับชังไม่ลง

    ผมออกเดินทาง  ตามหาบางสิ่ง  หรือใครบางคนที่มีเงาของเขา  มันเป็นการผจญภัยที่ปวดร้าว  มีเรื่องราวมากมายระหว่างทาง  บาดลึกจนเหวอะหวะ  มันสะกิดแผลเก่าที่ไม่อาจเยียวยา  หรือสร้างรอยใหม่อันระทมทุกข์ยิ่งกว่าเดิม  ผมก็ไม่แน่ใจ

    คนที่มีเงาของเขาผ่านมาถึงสองคน  ผมรีบคว้าเอาไว้เหมือนที่ใครบางคนชอบวิ่งตามแสงไฟ  ผมบอกเขาทั้งคู่ว่ามันคือความรัก  ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นตัวแทนของสิ่งที่ผมไม่มีวันได้รับ  คนแรกเป็นคนน่ารัก  เขาดีต่อผมมาก  เคยบอกว่ารักผม  แต่สุดท้ายก็จากไป

    ผมตีโพยตีพายจนเกินจริง  ผมอาจจะรู้สึกเจ็บใจมากกว่าเสียใจ  คงเพราะเงาไม่อาจทำร้ายได้เจ็บเท่าตัวจริง  เริ่มต้นด้วยความเหงาก็ต้องจบด้วยความเหงา

    ถ้าจะให้เล่าเป็นนิทาน  ก็มีคนอยู่สองคน  ทั้งคู่รู้สึกว่าตนไม่มีใคร  อยู่มาวันหนึ่งก็มาเจอกัน  พวกเขาสัญญาว่าจะมีความสุขจนกว่าฟ้าดินสิ้นสลาย  แต่แล้วคนหนึ่งก็สะดุ้งตื่นจากความฝัน  กลับไปยังสถานที่ของเขาในความเป็นจริง  อีกคนร้องไห้เพราะยังงมงายในฝันอยู่  เขาคนนั้นเดินทางต่อไป  เดินทางเพื่อเสาะหาสิ่งที่เป็นเพียงมายา

    นิทานควรจะจบแต่เพียงแค่นี้ถ้าเขาไม่เจอคนที่สอง  คนที่สองนี้มีเงาของคนที่อยู่ในใจเขาเสมอมาเช่นกัน  เขาโกหกอีกครั้ง  เขาบอกคนที่สองว่าเขาตกหลุมรัก  และเรียกร้องความรักตอบแทนให้เท่าเทียม  เขาเหงา  อยากมีใครสักคน  อยากผูกมัดใครไว้ข้างตัวด้วยคำว่ารักทั้ง ๆ ที่เขายังไม่เข้าใจคำคำนั้นอย่างถ่องแท้

    ตัวเอกในเรื่องน่าชัง  แต่ก็น่าสงสาร  เขาไม่เคยรู้ว่าเขาต้องการอะไร  หรืออาจจะเป็นที่ตัวผู้เล่านิทานเองก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ตัวเอกในเรื่องต้องการอะไร  เขาอาจจะต้องออกเดินทางใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  หรือพบจุดจบ ณ สถานที่ใดที่หนึ่งในโลกแห่งจินตนาการ

    ถ้าเป็นนิทาน  ผมสามารถเขียนให้เขาพบที่พัก  อาจจะเป็นโคนต้นไม้  ในลำธาร  ริมป่าละเมาะ  หรือกระทั่งก้นเหวสูงชัน  ใครจะบอกได้เล่าว่าคนเขียนจะไม่มีปรารถนาหนึ่งเดียวกับตัวเอก  เขาต้องการพักผ่อน

    แต่เขาก็กลัว..นี่คือความจริง  เขากลัวที่จะดำเนินชีวิตต่อไปพอ ๆ กับที่กลัวการสิ้นสุด  ยังเหลือสิ่งที่เขาอยากทำ  คนที่อยากพบ  คำพูดที่อยากบอก

    แต่ปรารถนาของมนุษย์ไม่มีวันสิ้นสุด  เขารู้ตัวดีว่าไม่มีวันที่ความต้องการของตนจะหมดสิ้น อย่างไรก็ดี..หากว่าโอกาสผ่านมา  เขาสาบานไว้ว่าจะไม่ปล่อยมันไป  เพื่อจะได้ไม่ต้องหนีกลางคืนอีกต่อไป  และได้พักผ่อน..ชั่วนิรันดร


    แด่...คนที่สองในเรื่อง
    หวังว่าจะได้รับการอภัย
    จาก...คนแพ้กลางคืน



    ..

    จากคุณ : ปฤษณะ - [ 31 ต.ค. 49 15:53:13 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com