Chapter 1
ภายในบ้านของครอบครัว นุติรัตน์ สมาชิกในบ้านซึ่งมีกันพ่อ แม่ ลูก ผู้เป็นพ่อและแม่ นั่งมอง
ชามันดากันนิ่งเมื่อชามันดาเอ่ยขออนุญาตจะไปทำงานที่ปักษ์ใต้ ในขณะที่ชามันดาเองก็มองบิดา มารดา ด้วยสายตาออดอ้อนเต็มที่ แถมใจก็ลุ้นสุดตัว อนุญาตเถอะ...อนุญาตเถอะ
ไม่ได้พ่อไม่อนุญาต เสียงเฉียบขาดของพ่อดังขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน ดวงตาโตของชามันดาเลยโตเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
ไม่ต้องมาออดอ้อน ยังไงพ่อก็ไม่อนุญาต พ่อบอกขึ้นเมื่อเห็นชามันดาขยับเข้ามาใกล้ตนสายตาออดอ้อนเต็มที่
ทำไมคะพ่อ งานก็ดี เงินก็งาม ให้ชาร์มไปนะคะ นะคะพ่อ ชามันดาชี้แจงเหตุผลอีกครั้งหวังจะได้รับอนุญาต แต่ดูหน้าตาพ่อแล้วหวังอยากเหลือเกิน
งานดี เงินเยอะใช่พ่อไม่เถียง แต่ที่นั่นไม่มีความปลอดภัยฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน พ่อไม่ปล่อยเราให้ไปอยู่ที่นั่นเด็ดขาด
โธ่พ่อคะ ก็แค่บางส่วนไม่ได้เกิดทุกพื้นที่สักหน่อย ไม่อย่างนั้นยัยนิดเพื่อนหนูจะอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้หรือคะ ชามันดาเถียงพ่อขึ้นทันที ก็แหม...เงินเดือนๆละหมื่นห้า ถ้าทิ้งไปเสียดายแย่ ยังไงก็จะขอร้องให้พ่อใจอ่อนให้ได้
ชาร์มเลิกคิดเถอะลูก งานที่กรุงเทพฯมีตั้งเยอะแยะให้ทำ อย่าไปเสี่ยงเลยนะแม่เองก็ห่วงลูกนะ
แม่ขา ...แม่ของชาร์ม............. ชาร์มน่ะไปอยู่แค่สงขลาเองไม่มีใครมาทำอะไรลูกหรอกคะ
ไม่มีเหตุร้ายงั้นหรือ เพิ่งวางระเบิดกันไปไม่นานมานี่เองลูกยังคิดว่าไม่มีอะไรได้อีกหรือพ่อเสียงดุเชียวเมื่อถามขึ้น
พ่อก็อ่านข่าวแล้วนี่คะ คนที่ทำไม่ใช่คนในพื้นที่สักหน่อย คนแถวนั้นจริงๆเค้าไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนหรอกคะ ข้าวของก็ขายไม่ได้ การท่องเที่ยวก็ซบเซาแทบไม่มีกินกันอยู่แล้ว ที่สำคัญ ชาร์มตอบตกลงไปแล้วว่าจะไป ถ้าไม่ไปชาร์มก็เป็นคนเชื่อถือไม่ได้สิคะ พ่อสอนชาร์มมาตลอดไม่ใช่หรือคะว่าให้เป็นคนรักษาคำพูด ชามันดาใช้คำสอนของพ่อเป็นข้อต่อรองขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเครือนิดๆ
พ่อได้ฟังน้ำเสียงของลูกสาวแล้วถอนหายใจทันทีก่อนจะถามคิดเห็นจากแม่ ก็ลูกคนนี้ไม่เคยจากไปไหนไกลบ้าน บุบปับจะไปแบบนี้ว่าใจหายแล้ว ยังเลือกที่จะไปที่ปักษ์ใต้ มีหรือจะทนได้
แม่ห่วงลูกนะ ไม่ไปไม่ได้หรือ
ชาร์มทราบค่ะ ว่าคุณพ่อ คุณแม่รักชาร์ม ห่วงชาร์มมากแค่ไหน แต่ชาร์มโตแล้วนะคะ ชาร์มอยากหาประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเองบ้าง นะคะคุณพ่อ คุณแม่ นะคะ ให้ชาร์มไปนะคะ ชาร์มสัญญาค่ะว่าจะเป็นเด็กดีไม่หนีเที่ยว ไม่ทำให้พ่อกับแม่เป็นห่วง นะค่ะ น๊า...นะ
นั่นแน่คุณพ่อเริ่มมีสายตาอ่อนโยนขึ้นแล้ว หนทางเริ่มสดใส ชามันดาแอบคิดอย่างดีใจเมื่อเห็นท่าทีที่อ่อนลงของพ่อ ถ้าพ่ออนุญาตแม่ก็ทำตามอยู่แล้วแต่ก็ยังคงปิดบังความดีใจที่เริ่มมีความหวังไว้ หากเผยออกไปก็หมดกันพอดี
ถ้าทำตามข้อตกลงได้ พ่อจะให้ไป
จริงๆนะคะพ่อร้องขึ้นด้วยความดีใจทันที
เดี๋ยวอย่าเพิ่งดีใจฟังพ่อ ก่อนถ้าทำไม่ได้ก็อด
ค่ะพ่อ ชาร์มพร้อมรับฟังแล้ว
ข้อหนึ่งลูกต้องโทรมารายตัวทุกเช้าและเย็น
ได้ค่ะข้อนี้ผ่านสบายๆอยู่แล้วเจ้าตัวลอบยิ้มอย่างดีใจ
ข้อสอง ต้องกลับบ้านทุกๆสิ้นเดือนข้อต่อรองของพ่อหรือนี่ชามันดานิ่งคิดสักพักแล้วต่อรองขึ้น
ทุกเดือนหรือคะ ไกลออก ขอเป็นเดือนเว้นเดือนนะคะ
เอางั้นก็ได้ แต่ ลูกต้องนั่งเครื่องเท่านั่น พ่อนะพ่อต่อรองอีกจนได้ นั่งเครื่องไปกลับ หาดใหญ่-กรุงเทพฯ แล้วเงินเดือนหมื่นห้าของเราล่ะจะเหลือใช้พอหรือ แต่เราอยากออกไปใช้ชีวิตเผชิญโลกกว้างข้างนอกบ้างนี่น๊า เอาล่ะเป็นไงเป็นกัน สู้สู้...สู้ตาย (ขอยืมสำนวนละครเกาหลีมาใช้หน่อยละกันจะได้ดูอินเทรนด์)
ค่ะพ่อ หนูจะทำตามที่พ่อ คุณแม่ขอทุกอย่างชามันดาบอกขึ้น เอาเถอะเรื่องอื่นค่อยหาทางแก้ไขเอา ตอนนี้ขอแค่พ่อกับแม่ยินยอมก่อนก็แล้วกัน
หลังจากที่พ่อกับแม่ออกปากอนุญาตชามันดาก็วุ่นวายกับการเตรียมข้าวของเพื่อเดินทาง และแล้ววันที่เดินทางก็มาถึง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าชามันดาสืบมาอย่างดีว่าวันเดินทางพ่อกับแม่ติดธุระสำคัญปลีกตัวไปส่งที่สนามบินไม่ได้ เจ้าหล่อนก็เลยไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินอย่างที่พ่อกับแม่เข้าใจ แต่กลับกลายเป็นตั๋วรถทัวร์ปรับอากาศชั้นหนึ่งแทน
เสียดายจังที่พ่อกับแม่ไปส่งลูกไม่ได้ ชามันดาออดอ้อนออเซาะพ่อกับแม่ไม่ห่างขณะออกมายืนรอรถแท็กซี่อยู่หน้าบ้านย่านรามคำแหง
ตั๋วเครื่องบินไม่ลืมนะลูก แม่เอ่ยถามขึ้น
อ๋อ!!! ค่ะอยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยแล้วค่ะอย่าได้ขอดูเลยนะไม่งั้นซวยแน่
ไปถึงแล้วโทรหาพ่อกับแม่ทันทีนะลูกความห่วงใยทำให้แม่สั่งขึ้นเป็นรอบที่สิบแล้วกระมัง
เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลโทรหาพ่อทันทีนะ
แหม พ่อคะ พ่อจะไปช่วยลูกทันหรือคะชามันดากระเซ้าขึ้น คิดๆแล้วก็อดใจหายไม่ได้ก็ดูพ่อกับแม่สิ
เถอะ ยังไงคนที่คิดไม่ดีกับลูกก็คงไม่กล้าทำอะไร หากรู้ว่าลูกติดต่อคนทางบ้านตลอด
พ่อของชาร์มฉลาดที่สุดเลย ให้ชาร์มกอดทีนะคะ
โอ๊ย....อะไรกันนี่ทำไมน้ำตามันพาลจะไหลเสียให้ได้ ชามันดาไม่เข้าใจตัวเองเลยแต่โชคยังดีที่แท็กซี่ผ่านมาพอดีไม่งั้น น้ำตาเจ้ากรรมคงออกมาให้ขายหน้าพ่อกับแม่แน่เลย พ่อกับแม่ช่วยยกกระเป๋าเดินทางใส่ท้ายรถให้ก่อนที่จะสวมกอดร่ำลากันอีกครั้ง
ระวังตัวนะลูก
ค่ะพ่อ
อย่าลืมโทรนะลูก
ค่ะแม่ แต่ขอเป็นพรุ่งนี้เช้านะคะ หนูไปก่อนนะคะเดี๋ยวไม่ทันเครื่อง
ชามันดาโบกมือให้พ่อกับแม่เมื่อรถเคลื่อนออกจากหน้าบ้าน เมื่อลับสายตาท่านทั้งสองแล้วก็หันมาบอกกับคนขับแท็กซี่
พี่คะ เปลี่ยนเส้นทางเป็นสายใต้นะคะ
อ้าว...ไม่ไปสุวรรณภูมิแล้วหรือครับ
จ๊ะ ฉันจะไปสายใต้
นั่งเครื่องไปไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงหาดใหญ่ ไม่เห็นจะน่าสนุก นั่งรถทัวร์ปรับอากาศดีกว่า ได้เห็นทิวทัศน์สองฝั่งถนน ชามันดาคิดอย่างครื้นเครงใจ ก็แหม!!! นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เดินทางไปไหนไกลๆคนเดียวนี่นา ความจริงพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่คนที่หวงลูกสาวจนไม่ให้ออกไปไหนมาไหน แต่ท่านห่วงมากกว่า เวลาไปไหนไกลๆหากไม่มีเพื่อนๆไปกันหลายๆคนชามันดาก็เลยอดทุกครั้งไป เช่นเดียวกับเรื่องที่ชามันดาแอบสมัครงานครั้งนี้ ถ้าบอกก่อนท่านก็คงไม่อนุญาตแน่นอน
ก็แหม.........เงินเดือนสูงก็จริง แต่ที่กรุงเทพฯก็มีโรงเรียนอนุบาลนานาชาติเป็นสิบๆแห่งมีหรือที่ท่านจะยอม
ในเมื่อชามันดาอยากจะลองดำเนินชีวิตด้วยตัวเองบ้าง หลังจากที่พ่อกับแม่ดูแลฟูมฟักมาตั้งแต่เด็กจนวันนี้เรียนสำเร็จปริญญาตรีแล้ว เลยขอให้นิรพรเพื่อนสนิทที่เรียนเอกภาษาอังกฤษด้วยกันเป็นคนช่วยเหลือในการสมัครงานครั้งนี้ พูดกันตรงๆก็คือเด็กเส้นนั่นเอง..........................
*****************************************************************************************************
จากคุณ :
มัยดีนาห์
- [
31 ต.ค. 49 22:05:06
]