Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    !_~-~ : - : บางทีเราคงต้องหยุด :-: ~-~_!

    หายไปนาน เลยแถมเรื่องสั้นให้อีกสักเรื่องเป็นการ
    ชดเชยแล้วกันนะคะ

    นัทครับ

    บางทีเราคงต้องหยุด

    ตะวันรอนแสงยามเย็น กำลังใกล้ที่จะทรุดซบอ่อนแสง หมดหน้าที่แห่งตน แสงสาดส่องสุดท้าย กลายเป็นสีส้ม ทาบทาทั่วทุกพื้นแผ่นดินที่ คลาคล่ำไปด้วย ต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องในพื้นนากว้างใหญ่ให้กลายเป็นสีส้ม

    ที่คันนาเป็นทางเดินกว้างไม่มาก ระว่างทางมีต้นก้ามปูต้นใหญ่อยู่ริมทาง ทอดกิ่งก้าน แผ่ขยายให้ร่มเงา และเป็นที่พักพิงแก่บรรดานกหลากชนิด ยืนต้นแด่นเป็นสง่าอยู่อย่างนี้ ไม่ว่าวันเวลาจะเดินหมุนเวียนผ่านไปสักเท่าไรก็ตามแต่  

    ใต้ต้นก้ามปู มีแคร่ไม้ไผ่วางอยู่ ซึ่งสีก็คงซีดเก่าไปตามกาลเวลา หญิงสาวร่างโปร่งบาง ทรุดตัวลงนั่งบนแคร่ พร้อมกับปล่อยสายตาให้เหม่อมองไปไกล พอ ๆ กับความทรงจำที่เอ่อล้นยามที่เธอหวนกลับคืนมาสู่ที่เดิมอีกครั้ง

    “กล้า ขี่จักรยานดี ๆ สิ น้ำผึ้งจะร่วงไปอยู่แล้วนะ เลื้อยเป็นงูอยู่ได้” เด็กหญิงในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย ร้องบอกคนที่กำลังพยายามประคับประคองจักรยานคันเก่า ให้วิ่งไปตามทางบนคันนาแคบ ๆ อย่างระมัดระวัง หากแต่ก็คงจะไม่พอ เพราะทันทีที่ จบประโยคนั้น คนทั้งคู่ ก็ลงไปนอนกองอยู่ในท้องนาจนได้

    ร่างบาง นอนพาดทับร่างสูงหนา ที่นอนแผ่ไปบนต้นข้าวในนาจนแบบราบเป็นแถบ  ๆ ทันทีที่ลุกได้ หญิงสาวคล้ำสะโพกป้อย ๆ ก่อนร้องโอดครวญ

    “เจ็บชะมัดเลย กล้าน่ะ บอกแล้วให้ระวัง”

    ชายหนุ่มที่โดนทับ ลุกขึ้นมา เสื้อผ้าเปรอะเปียก ไปด้วยน้ำในท้องนา  เจ้าของนัยน์ตาเข้ม หัวเราะสุดเสียงก่อนจะค่อย ๆ เอามือเช็ดคราบดินที่เปื้อนแก้มนวลออกให้อย่างเบามือ

    “จะบ้าเหรอ หัวเราะอยู่ได้ ผึ้งบอกแล้วให้ระวัง” หญิงสาวยังไม่วายบ่นกระปอดกระแปด หน้าเง้างอ

    “ก็ใครใช้ให้กลับมาคราวนี้ตัวหนักกว่าเดิมเล่า” ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ กล้า หรือ เศราร์ เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นถาม ด้วยสีหน้ายียวน

    “บ้าใครหนัก ตัวเองขี่จักรยานไม่ดีแล้วมาว่าเค้า” รอยกระบึงกระบอนฉายชัดทางสีหน้า “ดูสิ ผึ้งเปียกหมดเลย เสื้อนักศึกษาตัวนี้สงสัยจะซักเท่าไรก็ไม่ขาวแล้ว”

    “บ่นไปได้ เดี๋ยวซื้อให้ใหม่สองตัวเลย” ชายหนุ่มคว้าข้อมือหญิงสาวให้ลุกขึ้น แล้วส่งเธอกลับขึ้นไปบนคันนา ก่อนจะคว้าจักรยานคันเก่งที่เปียกไม่เป็นท่าตามขึ้นไป

    “ซื้อใหม่ก็ไม่เหมือนเสื้อตัวเดิมของเค้าหรอก” หญิงสาวเชิดหน้าบอกงอน ๆ

    “เรื่องมากจริง” ชายหนุ่มขยี้ศีรษะทุยของหญิงสาวอย่างเอ็นดู ก่อนจะก้มมองเสื้อตัวเองอย่างปลง ๆ แล้วพูดเบา ๆกับตัวเองว่า “แล้วแม่จะด่าไหมเนี่ย”  

    “ไม่ด่าหรอก ป้านางใจดีออก เดี๋ยว ผึ้งจัดการกล่อมให้เอง” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง พร้อมรอยยิ้มหวานที่แตะแต้มริมฝีปาก ทำให้คนที่ยืนมองอยู่อดใจไม่ไหว ต้องขโมยหอมแก้มมอม ๆ เสียหนึ่งที ผลที่ได้ก็คือ มือบางแต่หนักฟาดเพียะมาที่แขนทันที

    “อย่าทำอย่างนี้อีกนะ ผึ้งไม่ชอบ”

    “แต่กล้าชอบนี่ กล้ารักผึ้งนะ”

    คำสารภาพรักครั้งแรกของ ชายหนุ่มทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ อึ้งไปหลายวินาที ก่อนจะดึงสติ กลับคืนมาได้ พร้อมกับแก้มแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด หากแต่คนพูด กลับไม่ได้สนใจ เขาหันไปจัดการเจ้าจักรยานคันโปรดให้พร้อมสำหรับการถีบกลับบ้าน

    ร้อยวันพันปี เศราร์ ไม่เคยเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับเธอ  หรือการเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เล็ก ทำให้ความผูกพันธ์มันก่อตัวแนบแน่น จนถือสิทธิ์พิเศษ ไม่ต้องพูดออกมาก็เข้าใจในสายตาที่จ้องมองมาอย่างสม่ำเสมอ  แต่ความที่เป็นผู้หญิง เธอก็ยังอยากฟังคำนี้จากปากของ เศราร์ อยู่ดี

    จนเมื่อเธอสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เศราร์ยินดีกับเธอ แต่แววตาของเขาเศร้าจนเธอเองก็พลอยรู้สึกไปด้วย ไม่เคยเลยสักครั้งทั้งสองคน จะต้องแยกห่างกันนานเช่นนี้

    “คิดอะไรทำไม อยู่ ๆ มาบอกกันอย่างนี้” มธุกุลย์เอ่ยปากถามแผ่วเบา ชายหนุ่มจูงจักรยานไปบนคันนาโดยมี หญิงสาวเดินตามมาห่าง ๆ จนมาถึงต้นก้ามปูต้นใหญ่ เขาพิงจักรยานไว้กับต้นก้ามปูก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเงียบ ๆ โดยมี หญิงสาวนั่งอยู่ไม่ห่าง มือหนาอุ่น กอบกุมมือบางไว้มั่นราวกับจะสลักความมั่นคงในหัวใจให้เธอรับรู้

    “ก็ไม่มีอะไร แค่คิดว่า ผึ้งคงอยากฟัง” เศราร์ บอกเสียงทุ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตา หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ “บอกให้รู้ว่า จะรออยู่ที่นี่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร กล้าก็จะรอผึ้งเสมอ”

    “กล้าคิดอะไรอยู่น่ะ” มธุกุลย์ เอ่ยปากถาม ด้วยสีหน้าแปลกใจ ไม่มีทางเสียล่ะที่ ชายหนุ่มตรงหน้าจะไม่ได้คิดอะไร ฟังจากคำพูดแปลก ๆ ของเขาในวันนี้ มันทำให้เธอสะกิดใจอะไรบางอย่าง บางอย่างที่เธอยังจับไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่เธอรู้ เขาต้องมีอะไรในหัวใจแน่ ๆ

    “เปล่า แค่บอกให้ฟังเฉย ๆ”

    “แล้ว กล้าไม่คิดจะถามผึ้งเหรอว่า ผึ้งรู้สึกอย่างเดียวกับกล้าไหม” เธอย้อนถามเขาสีหน้าจริงจัง สิ่งที่ เศราร์ทำก็แค่เพียงยิ้มบาง ๆ พร้อมกับส่ายหน้าแทนคำตอบ

    “ทำไม”

    “ทุกสิ่งอยู่ที่นี่” เขายกมือที่มีมือของหญิงสาวอยู่ด้วย ขึ้นทาบทับตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง “ที่นี่ เป็นของ ผึ้งเสมอ”

    ....ที่นี่เป็นของผึ้งเสมอ...

    เหมือนว่าคนพูด เพิ่งจะพูดประโยคนี้ให้เธอฟัง ในที่ ๆ เดิมที่เธอเคยนั่งอยู่กับเขาเมื่อวันวาน สายลมพัดแรงทำให้ใบต้นก้ามปูร่วงหล่น พร้อม ๆ กับน้ำตาที่ หล่นร่วงของเธอ  แสงดาวกำลังค่อย ๆ ทอประกายที่ขอบฟ้า อากาศก็เริ่มเย็นลง หญิงสาวก็ยังคงนั่งอยู่เช่นนั้น ตราบจนแสงไฟ ดวงเล็ก ๆ กะพริบวิบวับมาตามทางที่เป็นคันนา

    แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 49 22:10:01

    จากคุณ : เปียร์รุส - [ 6 พ.ย. 49 22:07:44 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom