ผมรักเธอ
ผมรักดวงตาของเธอ
เพราะในดวงตาของเธอ
มี หลุมดำ
หลุมดำในจักรวาลสามารถดึงดูดทุกสิ่งที่อยู่เข้าใกล้ ไม่มีสิ่งใดหนีรอดออกมาได้ เพราะหลุมดำมีพลังดึงดูดมหาศาล
ต่อให้ดวงดาวดวงที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลมาพบเจอกับหลุมดำ สิ่งนั้นก็จะกลายเป็น ความว่างเปล่า ในทันใด
หลุมดำไม่เคยปรานีกับสิ่งใดที่เข้าใกล้ แต่ผมก็เผลอตัวเข้าไปในรัศมีของมันแล้ว มันเป็นหลุมดำในดวงตาของหญิงสาวคนหนึ่ง
หลุมดำของเธอนั้นดูว่างเปล่า แต่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ
เร้าร้อน ชวนค้นหา เวลาเธอสบตาผม
หลุมดำในดวงตาของเธอจะดึงดูดผมให้อยากอยู่ใกล้ชิด สนิทสนม และอยากร่วมสังวาสกับดวงตาคู่นั้นของเธอ
ดวงตาของเธอนั้นมีเสน่ห์ ดูผิวเผินแล้วมันดูเย็นชาจนน่ากลัวก็จริง แต่สำหรับผม ผมชอบผู้หญิงที่มีดวงตาแบบนี้ที่สุด
ผมพยายามเข้าใกล้รัศมีหลุมดำของเธอ พยายามจ้องเข้าไปในดวงตา
แต่เธอก็รักษาระยะห่างไว้โดยมีหนังสือหนา 165 หน้าเป็นตัวกั้นกลางสายตา
เธอคงอ่านหนังสือเพื่อแก้เขินที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อๆ อย่างผมมาจดๆ จ้องๆ ในสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบเป็นที่สุด
ในร้านหนังสือกลางห้างแบบนี้ ผมไม่ได้เข้ามาเพื่ออ่านหนังสือหรอก แต่มาเพื่อมองผู้หญิง
โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีหลุมดำในดวงตา นั่นล่ะสเป็กผมเลย
โดยเฉพาะเวลาที่เธอจ้องมองผมแล้วขมวดคิ้วนิดๆ เธอไม่รู้ตัวหรอก ว่าหัวใจของผมถูกหลุมดำในดวงตาเธอกลืนหายไปแล้ว
ผมพยายามเข้าใกล้รัศมีหลุมดำของเธอ
ผู้หญิงที่ผมแอบจ้องมองมาสามวัน ในวันนี้เธอมามาดสาวใสใส่เสื้อนิสิต
คงเพราะเพิ่งเรียนเสร็จ แล้วผมก็ไม่เคยเห็นเธอมาที่ร้านหนังสือแห่งนี้กับเพื่อนๆ เลย คงเป็นเพราะที่นี่เป็นห้างใหญ่
ผู้หญิงส่วนใหญ่หลงใหลการช็อปปิ้งมากกว่ายืนอ่านหนังสือ เพราะเหตุนี้เธอจึงมาร้านหนังสือคนเดียว
และเพราะเหตุนี้ ผมถึงมาที่นี่คนเดียวเช่นกัน
ลืมบอกไป ผมมีภรรยาแล้วครับ แต่จะให้รีบกลับบ้านหลังทำงานเสร็จคงไม่ใช่นิสัยของผม มันต้องมีแวบๆ กันบ้าง
แวบแรก ผมจ้องดูหลุมดำในดวงตาของเธอ หนังสือหนา 165 หน้าเธอคงไม่ถืออ่านทั้งชั่วโมงแน่ ต้องมีสักช่วงที่เธอเมื่อย
นั่นไง! เธอวางหนังสือลงแล้ว หนังสือแนวปรัชญาหน้าปกสีดำซะด้วย แล้วหลังจากนั้นเธอก็มองผม แล้วก็
ขมวดคิ้วอีกแล้ว
แวบสอง ผมฉวยโอกาสเข้าไปยืนในรัศมีหลุมดำของเธอ โดยที่มีหนังสือเล่มนั้นเป็นข้ออ้าง
ผมบอกเธอว่าผมชอบหนังสือเล่มที่เธออ่านมาก (แม้ผมไม่เคยอ่านหนังสือประเภทนี้มาก่อน)
นั่น! ดวงตาของเธอเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอจ้องมองดูดวงตาของผมอย่างจริงจัง พลางขมวดคิ้วอีกครั้ง
แวบสาม เรากำลังเดินออกจากร้านหนังสือ ผมกับเธอซื้อหนังสือเล่มเดียวกันโดยที่ผมเป็นคนออกตังค์ให้
แต่ผมไม่ได้ซื้อหนังสือเพราะสนใจมันหรอก ผมสนใจในหลุมดำในดวงตาของเธอมากกว่า
แวบสี่ เธอก้าวเข้ามานั่งในรถ (และหัวใจ) ของผมแล้ว ผมอาสาจะส่งเธอถึงที่บ้าน
เธอขมวดคิ้ว และอีกครั้ง
หัวใจของผมกำลังจะละลาย
แวบห้า หลุมดำของเธอเริ่มทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง ผมห้ามใจไม่ไหวแล้ว!
ผมกำลังถอดเปลือกที่ห่อหุ้มกายเธอ
เปลือกในคาบนักศึกษา ในขณะที่ผมปอกเปลือก ผมก็จ้องดูหลุมดำของเธอไปด้วย
ยิ่งจ้อง ผมยิ่งปอก เธอไม่ดิ้น เธอไม่ขัดขืน แต่เธอ
ขมวดคิ้ว หัวใจของผมถูกหลุมดำของเธอกลืนไปแล้ว
หนังสือปรัชญาปกดำเป็นพยานรักของเรา
สุดท้าย ทั้งผมและเธอต่างก็อยู่ในรัศมีของหลุมดำกันและกัน นิ้วมือของผมลูบไล้ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนของเธอ
กลิ่นน้ำหอมโชยจางๆ ผิวของเธอสากมือผมเล็กน้อย เพราะเธอกำลังขนลุก
มือข้างขวาของเธอกำลังลูบไล้เส้นผมบนหัวอย่างช้าๆ มันยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้ผมมากขึ้นไปอีก
ผมชอบให้ผู้หญิงลูบหัวในเวลาที่ผมทำอะไรแบบนี้
แวบหก เธอกับผมกำลังจะหลอมเลือดเนื้อกลายเป็นหนึ่ง ด้วยอิทธิพลของหลุมดำ และแน่นอน
ไม่มีใครสนใจหรอกว่ารถของเราในตอนนี้กำลังโยกไปมาในจังหวะที่เร้าใจยิ่งกว่าแร็กเก้ เรารู้สึกสนุก ในจังหวะดนตรีกามของเรา
แวบเจ็ด
ทำไมภาพในหัวของผมมันแวบไปแวบมานะ มันไม่ต่อเนื่องเหมือนกำลังดูหนังที่ภาพขาดๆ หายๆ
ผมพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตา ผมรู้สึกมึนงง รู้สึกเหมือนถูกวางยา ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นนั้นคืออะไรผมจำไม่ได้
แต่สิ่งที่ผมมองอยู่ในตอนนี้มันไม่ใช่ในรถที่ผมร่วมกิจกรรมกับเธอ มันเป็นสถานที่
ที่ผมไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน
หรือเป็นเพราะหลุมดำดึงดูดผมให้มาที่นี่
ในบ้านของเธอ
บ้านที่ไม่เหมือนบ้านหลังไหนในโลก
เหมือนผมอยู่ใจกลางโรงงานผลิตโลหะ รอบกายของผมเต็มไปด้วยวัตถุที่ไม่คุ้นตา ทุกสิ่งที่ผมเห็นเป็นสีเงินแวววาว
ยกเว้นสิ่งที่ผมคุ้นเคยมากที่สุด นั่นคือเธอ
มือของผมลูบไล้กายเธออย่างบ้าคลั่ง กลิ่นน้ำหอมนั้นช่างรัญจวนชวนปลุกอารมณ์เซ็กซ์เป็นยิ่งนัก
ผมลูบไล้ผิวหนังสีน้ำผึ้งอ่อน จากท่อนขา
จนถึงท่อนขา
ผมสูงไม่ถึงกลางลำตัวของเธอ ผมพยายามกระโดด
พยายามยืนให้ถึงหลุมดำในดวงตาของเธอ แต่มันช่างสูงเกินจะไขว่คว้า
นี่ผมกำลังฝันไปหรือเปล่า
สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงสนทนาที่ดังออกมาจากปากของเธอเป็นครั้งแรก มันเป็นภาษาที่ฟังดูไม่คุ้นหู
และไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน เธอกำลังสนทนา
กับใครสักคน เพราะผมเห็นท่อนขาสีซีดกว่าท่อนขาของเธอ
ผมพยายามแหงนคอมอง
บนบ่าของเธอ มีผู้ชายหน้าตาตี๋ๆ คนหนึ่งเลียแก้มของเธอ โดยที่มีมือของเธออุ้มประคองกายของเขา
ผู้ชายร่างเปลือยเปล่าคนนั้นอยู่ในรัศมีหลุมดำเช่นเดียวกันกับผม
เขาเลียแก้มของเธออย่างเอาจริงเอาจังราวกับว่าแก้มนั้นช่างหวานลิ้นเสียเหลือเกิน
ใครที่อยู่ใกล้หลุมดำของเธอ ล้วนบ้าคลั่งและไร้สติทั้งนั้น แล้วกว่าผมจะรู้สึกตัว
ผมก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอคนหนึ่งไปแล้ว
คุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวมั้ย แล้วคุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เลี้ยงมนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า แน่นอน ถ้าใครเชื่อก็บ้าเต็มที
แต่ตอนนี้ผมกำลังบ้า!
เธอยื่นมือโตๆ ของเธอลูบไล้หัวของผมอย่างอ่อนโยน ผมชอบให้ผู้หญิงลูบหัว
แม้เธอจะไม่ใช่คนเช่นผม
หนึ่งประโยคในหนังสือปรัชญาในหน้าสุดท้ายผุดขึ้นมาในหัวสมอง แม้ผมผ่านมันเพียงผ่านๆ ผมก็จำได้
ผมเพิ่งเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ก็ตอนนี้เอง น่าจะอ่านมันก่อนที่ผมจะเจอเธอ
ทุกสิ่งล้วนมายา
มือของเธอลูบไล้หัวของผมอย่างแผ่วเบา จิตใจของผมสงบลง และกำลังเข้าสู่ห้วงนิทรา เพื่อฝันถึงวันแรกที่เราได้เจอ
และร่วมอารมณ์ใคร่ในหลุมดำ
ในหลุมดำที่มองดูว่าว่างเปล่านั้น มันมีสิ่งประหลาดแอบแฝงอยู่มากมาย ชนิดที่คุณไม่สามารถจะจินตนาการได้
ถ้าหากคุณพบหลุมดำในดวงตาของใคร จงจำไว้
อย่าเข้าใกล้!
มิฉะนั้นคุณอาจจะได้เป็นเพื่อนกับผม
สัตว์เลี้ยงนอกโลกก็เป็นได้
วันนี้เธอยืนอ่านหนังสือเพียงลำพังในร้านหนังสือร้านกลางห้างใหญ่
หนังสือปรัชญาปกดำหนา 165 หน้ากั้นกลางระหว่างสายตาของเธอ กับใครอีกคน
เธอมาที่นี่ทุกวัน เพื่อที่หยิบหนังสือเล่มเดิม อ่านหน้าเดิม และประโยคเดิม
จิตใจมนุษย์ ยากแท้หยั่งถึง
เธอเพ่งมองที่ประโยคนั้นประโยคเดียวอยู่นาน
จากคุณ :
HamMostFear
- [
15 พ.ย. 49 14:53:47
]