ปีนี้ในกรุงเทพฯ ฉันไม่รู้ตัวว่ากำลังเข้าสู่ฤดูแห่งความหนาวจนกระทั่งเธอปรากฏตัว เธอชื่อคนฤดูหนาว ชื่อเธอเตือนฉันให้หันมองรอบตัว ท่ามกลางอากาศอบอ้าวในตอนกลางวันแต่วันก็อ้างว้างเพราะเรายังอยู่คนเดียว ทำอะไร ไปไหนคนเดียวทุกๆวัน เธอใช้คำว่าหนาวบ่อยๆทำให้เพิ่งรู้ว่าอากาศเริ่มเย็นจริงๆในตอนกลางคืน โดยเฉพาะตอนเช้าตรู่ ทำให้นอนห่มผ้า มีความสุขกับการดึงผ้าห่มมากอดซุกอยู่ในกองหมอนนิ่มๆอยู่บนฟูกโดยที่ไม่ได้หลับไป
เธอทำให้ฉันส่งเสียงครางอื้มอ้ำอย่างมีความสุข ได้เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างไรทั้งสุขใจและกระอักกระอ่วนไปพร้อมๆกัน เพราะชีวิตคงเป็นอย่างนี้เอง ความระทมใจกล้ำกลืนจะมาให้เราทดสอบจิตใจพร้อมกับให้รางวัลนิดๆหน่อยๆถ้าเราอดทนจะยอมรับที่จะอยู่กับมันได้ ชีวิตทุกคนเป็นวัฎจักรเหมือนกันแบบนี้
เราอาจไม่ต้องเข้าใจชีวิตทั้งหมด ไม่ต้องถามหาเหตุผลมาอธิบายให้ละเอียดลึกซึ้ง เพียงแต่เราเข้าใจว่ามันเป็นเช่นนั้น ในแบบของมัน สองมือของเราปั้นแต่งเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้เป็นไปอย่างใจไม่ได้หรอก การยอมรับและค้นพบหนทางจะอยู่ต่อไปอย่างสุขใจต่างหากที่จะทำให้เราชนะผ่านไปได้ทุกอย่าง
กฎทุกกฎมีการเปลี่ยนปรับไปตามฤดู ฉันอยากจะพูดแบบนั้น กฎที่เราเคยตั้งฤดูกาลที่แล้ว มันก็อาจปรับแปรตามฤดูหนาวที่มาเยือนได้
เธอเป็นฤดูหนาวแรกที่กรุงเทพฯของฉัน เธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ ลมหนาวที่เราคิดว่าจะพัดพาความเย็นใจสดชื่นปะทะผิวกาย แต่สายลมนั้นแท้จริงทำให้เราแห้งเหี่ยวลงไปทุกขณะจนเราหัดที่จะยอมรับการมาของมัน ปีหน้าลมหนาวเช่นนี้ก็จะพัดมาอีกตามธรรมชาติ ธรรมดาตามกาลเวลาที่คงที่สม่ำเสมอ
ส่วนฉันคงกร้านแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ลมหนาวจะกรรโชกกระแทกใส่จนหน้าชา เสื้อที่ใส่ป้องกันความหนาวเย็นก็คงไม่ต้องสวมใส่ให้หนาเท่าเดิมอีกต่อไป
ความทรงจำกับฤดูหนาว ไม่ว่าที่ไหน ปีไหน มันก็จะยังคงหนาวเหน็บอย่างชื่อฤดูนั้น ปีนี้ขอบคุณพระเจ้าที่ส่งคนฤดูหนาวมาเตือนใจให้ฉันยังมีความรู้สึกรู้สากับฤดูที่เปลี่ยนไป และยังรู้ว่าหัวใจตัวเองยังคงเต้นอย่างซื่อสัตย์ในร่างกายนี้
วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
ดอนเมือง, กรุงเทพฯ
จากคุณ :
podduang-pk
- [
16 พ.ย. 49 11:28:41
]