แรงดลใจของผู้เขียน ต้นเดือนมิถุนายนปี41 หมอตรวจพบว่าข้าพเจ้าป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว(ลูคีเมียร์)การรักษาโรคนี้มีวิธีเดียวคือการปลูกถ่ายไขกระดูก ขั้นตอนและวิธีการรักษายุ่งยากและซับซ้อนมากพอสมควร กล่าวคือ ขั้นต้นจะต้องมีคู่เลือดที่มีเลือดเหมือนกันเปรียบดังฝาแฝด ที่เลือดนี้จะหาได้จากพี่น้องพ่อแม่เดียวกันเท่านั้น และในจำนวนพี่น้องประมาณ6-8คนจะมีคู่เลือดเหมือนกันได้เพียงหนึ่งคู่ หากได้คู่เลือดแล้วก็จะทำการปลูกถ่ายไขกระดูกได้ หมอบอกกับข้าพเจ้าว่าผู้ป่วยนี้มีทั้งโชคดีและโชคร้ายเท่าๆกัน โชคดีคือหากได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกและไม่ติดเชื้อในขณะปลูกถ่ายไขกระดูก โรคนี้หายขาดร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หากโชคร้ายไม่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกโรคนี้จะมีอายุสั้นมากเพียงไม่เกินสองปีซี่งมีอายุสั้นที่สุดในขบวนมะเร็งด้วยกันทุกชนิด หลังจากข้าพเจ้าทำความเข้าใจกับคุณหมอเกี่ยวกับขั้นตอนของโรคอย่างละเอียดแล้ว กลับมาบ้านก็รู้สึกหดหู่ใจเพราะไม่แน่ใจจะมีคู่เลือดให้ปลูกถ่าย เหตุผลก็เพราะข้าพเจ้ามีพี่น้องเหลือแค่สี่คนแต่ละคนมีอายุมากและมีโรคประจำตัวแทบทั้งสิ้น ยกเว้นพี่สาวคนเล็กเพียงคนเดียว จากเหตูผลดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าไม่ตั้งความหวังจะได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก ดั้งนั้นข้าพเจ้าจึงคิดว่าข้าพเจ้ามีเวลาเหลือมากที่สุดเพียงสองปี จึงได้คิดทบทวนชิวิตที่ผ่านมา ก็เห็นว่าข้าพเจ้าได้ทำทุกอย่างให้กับครอบครัวเรียบร้อยสมบูรณ์ดีแล้ว จะมีขาดไปบ้างก็เพียงการอบรมสั่งสอนซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ เนื่องจากลูกๆก็อยู่ในวัยขั้นอุดมศึกษา ซึ่งไม่ค่อยจะมีเวลาเหลือได้พูดคุยกันมากนัก ส่วนข้าพเจ้าก็คิดว่ามีเวลาเหลือน้อยเต็มทีได้เกิดความคิดที่จะเขียนบันทึกฝากไว้ให้ลูกได้อ่านเมื่อยามได้จากกัน....
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 18:27:58
แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 49 14:44:29
จากคุณ :
เจ้าสำอางค์
- [
18 พ.ย. 49 14:40:56
]