รักคือ กลืน อยู่ไปไม่มีเธอ ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้....
เขานั้งกอดเข่าอยู่ในห้องคนเดียว ตรงขอบเตียงนอนที่เขาพิงอยู่ รูปบนขอบเตียงคือรูปผู้หญิงที่เขารักมาก
เขาหันไปมองแล้วรู้สึกไม่ดีคิ้วขมวดเข้าหากัน ชายหนุ่มเขยื่อนกายขึ้นนั้งบนขอบเตียง
ยังไงก็รู้สึกไม่ดี เขาจับรูปนั้นขึ้นมาพินิจดู หญิงสาวในภาพเผยยิ้มเขินๆออกมาน่ารักน่าเอ็นดู
แต่ในตอนนี่เขาไม่สบอารมณ์
ในสนามกีฬาแห่งหนึ่ง ร้างผู้คน มืดสนิท ตอนเช้ามืด เขากับเธอแอบเข้ามา โรแมนติกมั้ยละชายหนุ่มพูดขึ้นก่อน
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ขณะทำสีหน้าแหยงๆออกมา เธอเอ่ยขึ้น แต่ฉันว่ามันน่ากลัวมากกว่า
ชายหญิงอยู่กันตามลำพัง ทั้งสองนั้งลงบนเนินหญ้า อีกไม่นานพระอาทิตย์จะขึ้นมาประดับยามเช้า
แต่ขณะนี้ทุกสรรพสิ่งโดยรอบยังคงมืดดำ ดาวฤกษ์สุกสว่างอยู่ทั่วผืนฟ้า
หญิงสาววางมือลงบนพื้นหญ้าขณะมองดูดาวส่องสว่างอย่างเพลินตา
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงแกล้งกระเถิบมือเข้ากุมมือหญิงสาวฝั่งที่อยู่ไกล้ตัว
หญิงสาวยิ้มเขินอายอย่างมีความสุข ช่วงเวลานี่เป็นช่วงเวลาที่ชายหนุ่มคนนี้มีความสุขที่สุด
ยิ่งมองดูรูปหญิงสาว ชายหนุ่มก็ยิ่งเหนื่อยใจ เขาวางรูปหญิงสาวให้คว้ำหน้าลงแล้วออกไปตรงบริเวณระเบียง
สายลมพัดผ่านเสื้อผ้าที่ตากใว้ปลิวไสว ชายหนุ่มยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างระเบียง
ประตูกระจกบานใหญ่สะท้อนให้เห็นเงาร่างของเขาใด้อย่างชัดเจน
ในช่วงเวลาที่มีความสุขนั้น เขาคิดว่ารักคือความเข้าใจ และที่สนามกีฬานั้นเองเขาก็ได้รู้ว่ารักคือความห่วงใยต่อกัน
แต่จากวันนั้นเขาก็คิดได้แต่ว่ารักคือความเสียใจ....
ทั้งสองมาที่สนามกีฬากันอีกครั้ง ครั้งนี่ฝ่ายหญิงสาวเป็นฝ่ายนัดมา
เธอมาช้ากว่าที่นัดใว้ชายหนุ่มจึงเป็นกังวล แต่เธอก็มา ชายหนุ่มลุกขึ้น ทำไมมาช้าจังละ
โรแมนติกดีนะ
...
ทั้งคู่ยังจำเนินหญ้าที่เคยมานั้งใด้เป็นอย่างดี เธอเดินนำเขาไปนั้งลงก่อน
เธอมองดูดาวบนฟ้าโดยแทบจะไม่ได้สนใจใยดีชายหนุ่มเลย
เลิกกันนะ
...
เลิกติดต่อ เลิกเป็นเพื่อน เลิกทุกอย่าง ตัดขาดกันให้หมด
...ชายหนุ่มตกตะลึงจนไม่อาจคำพูดใดออกมาได้
ชายหนุ่มได้ยินทุกถ้อยคำ
เขามองดูดาวส่องแสง ไม่อาจสบตาหญิงสาวใด้
ขอร้องหญิงสาวเอ่ย
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงพยายามกลันใจ ถามหาเหตุผล
อย่าถามอะไรเลยนะ
ทันทีที่พูดจบหญิงสาวเดินจากไป ทิ้งชายหนุ่มให้อยู้ในวังวลแห่งความเศร้าท้ามกลางแสงดาว หญิงสาวเดินจากไปแสนไกลมากแล้ว
ฉันรักเธอชายหนุ่มตะโกนไปทางที่หญิงสาวเดินห่างไป เธอเดินไปไกลลับจนเขาแทบมองไม่เห็นแล้ว
...ชายหนุ่มสะอื้นสะอึกคำละคนน้ำตาปลิ่บไหลออกมา
ฉันรักเธอ เธอกลืนคำพูดนี่ลงไปได้ยังไงเขาตะโกนอีกครั้งด้วยเสียงสั่งครือแทบกระอัก
ชายหนุ่มใด้พบกับความทุกข์แสนระทมในที่ที่เดียวกับที่ที่เขาใด้พบกับความสุขแสนอบอุ่น
ชายหนุ่มคุกเข่าลงหน้าประตูระเบียง มือทั้งสองทาบลงสัมผัสกับกระจกทาบรับเอาความอบอุ่นจากภายนอก
นี่เพิ่งจะเป็นวันแรก ที่ชีวิตของเขาขาดเธอ เมื่อมองดูทุกมุมทุกส่วนภายในห้อง
ทุกความทรงจำก็ย่อนมาปรากฎ ย่อนกลับมาลุมเล้าทำร้ายชายหนุ่ม
เขาก่ายหน้าผากพิงตัวกับกระจกระเบียง ความอบอุ่มจากภายนอกเตือนให้เขานึกถึงความอบอุ่นจากหญิงสาวที่เขาเคยใด้รับ
เธอยิ้มเพราะมีความสุข เธอหัวเรอะก็ต้องเพราะเธอมีความสุข ตอนที่เธออยู่กับเราเธอมีความสุขเพราะเธอทั้งยื้มและหัวเรอะ ชายหนุ่มคิดรำพึงกับตนเอง
แล้วตอนนี่ละ รู้แต่ว่าเราไม่มีความสุข เพราะไม่มีเธอ
เราซักผ้าเองได้ ทำกับข้าวเองเป็น
เราทำงานมีรายได้ดี เราพึ่งตัวเองได้ แต่มีชีวิตอยู่มันคือแค่นั้นซะที่ไหนละ
ตึกๆๆหลังจากที่ไม่ได้ออกจากห้องเลยมาเป็นเวลา5วัน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ชายหนุ่มตื่นจากผวังในห้วงคิดคำนึง
ชายหนุ่มตกใจพลางเกิดความหวังขึ้น บางทีหญิงสาวอาจย้อนกลับมา
เขาลุกขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากตอนที่เขาล้มฟลุบอยู่โดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อชายหนุ่มเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสพลันสะลายกลับสะลดลงทันใด
ชายที่ยืนอยู่หน้าประตูเป็นเพียงเพื่อนที่ทำงานของเขาเท่านั้น
ไม่มา แล้วทำไมไม่โทรไปบอกที่ทำงานวะ
...
เพื่อนที่ทำงานพินิจดูชายหนุ่มแล้วพูดขึ้นอืม...1เดือนแล้วไปทำงานต่อนะ
และแล้วเวลา1เดือนก็พัดพาความเศร้าของชายหนุ่มให้ผ่านพ้นไป
เขาทำงานตามปกติ ด้วยใบหน้าดูเป็นปกติไม่ยินดียินร้ายใดๆ จะถามว่าเขาตัดใจจากหญิงคนนั้นได้รึยัง
เขาทำไม่ได้ เขานั้งมองดูท้องฟ้าขณะทานข้าวเย็นก่อนกลับบ้านกับพวกเพื่อนๆที่ทำงาน เป็นร้านอาหารตามสั้งริมถนน
จากตรงนั้นสามารถมองเห็นห้องพักของชายหนุ่มบนขั้น4ของคอนโดเขาใด้อย่างชัดเจน
ฟ้ามืดดำเบื่องบนชวนให้นึกถึงวันนั้นที่สนามกีฬาร้างผู้คน แต่ก็ไม่เป็นไร เขาคิดแค่นี่เองลูกชายอย่างเรา
เรื่องแค่นี่ไม่เป็นไร
ในคืนเงียบเหงาเขานั้งดูโทรทัศน์อยู่จนดึกดื่น เขาเปลี่ยนช่องไปมาอยู่นาน
แต่ก็ไม่ใด้สนใจอะไรในโทรทัศน์มากนัก เขานั้งมองรีโมตที่อยู่ในมือ
แล้วหาวออกมาฟอดใหญ่ เขาทำแบบนี้ทุกคืนจนผลอยหลับไป
ความจริงคือเขานอนไม่หลับ เขาเป็นโรคนอนไม่หลับ ทุกคร้งที่เขานอนหลับตาเหมือนคนทั้วไปหลับ
เขามักจะคิดถึงเธอ จนไม่สามารถที่จะหลับลงได้แม้สักวินาที แต่ละวินาทีที่ผ่านไปในแต่ละคืน
เขานึกถึงเธอ เขาทั้งมีความสุขและบ่อยครั้งที่เขาทุกข์ใจ ตอนจบที่ไม่สามารถเลือกใด้
เมื่อคิดถึงตอนจบ ความทุกข์ก็พลันเข้าถาโถมใส่
ตึกๆๆๆๆๆเสียงเคาะประตูดังเร่งเล้าจนชายหนุ่มสะดุ้งโหยง ทันใดเสียงเงียบลง
ชายหนุ่มเดินไปที่ประตู เขาไม่นึกคิดหรือหวังให้เธอกลับมาแต่อย่างใด
เขาสับสนเมื่อเสียงเคาะประตูนั้นเงียบลง แต่เขากลับไม่กล้าเปิดออกดู
ไม่เป็นไรชายหนุ่มบอกกับตนเอง
เขาเปิดประตูออก เขาเผยยิ้มซะจนแทบจะร้องไห้ออกมา
หญิงสาวคนรักยืนอยู่หน้าเขาแล้ว นี่ไม่ใช้ความฝัน
แต่ก็เป็นสิ่งที่นึกฝันอยากจะให้เป็นจริงมาโดยตลอด
...เธอเงียบขึงแล้วค่อยๆเข้าอย่างช้าๆ ชายหนุ่มหลบทางให้เธอ เธอเดินมานั้งลงตรงโซฟากลางห้อง
เป็นเหตุการ์ณที่เหมือนกับความฝัน ความรักที่เขามีต่อเธอหันกลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง ...
ความเงียบงันคือคำตอบและคำถามของคนทั้งสอง
หลังจากวันนั้น เธอมาที่ห้องเขาอีกแทบทุกคืน
และในทุกๆคืนเขาจะนั้งรอเธอ ถึงการที่เธอจะแค่มานั้งในห้องโดยไม่พูดจาสิ่ง
จะทำให้เขาเจ็บปวด แต่ถ้าเธอต้องการทำแบบนั้น เขาก็ไม่เป็นไร ไม่เคยถาม
เขามีอาหารมื้อดึกเตรียมใว้ให้เธอด้วยซ้ำ เขารู้สึกดี เธอทานอาหารที่เขาทำ
แม้จะไม่ยิ้มให้แม้แต่น้อย หญิงสาวหน้าเฉยเมยมาโดยตลอด
ทั้งความเงียบ กดดัน ความรัก
เธอกลับมาแล้วเหรอชายหนุ่มถามตัวเอง
ทุกคืนผ่านไป เขานอนหลับสนิททุกคืนที่เธอมาแม้จะเงียบงัน แม้ไม่แยแซ
แม้จะเย็นชาเพียงได เขารู้ว่าเขาเจ็บ เขาเจ็บมากที่ถูกเธอทำแบบนั้น เป็นความเจ็บปวดแต่เขาเก็บมันเอาใว้
เขาเอาคำว่า ความเจ็บปวด ซ้อนใว้ใต้คำว่า ไม่เป็นไร
และแล้วคืนหนึ่ง เธอไม่มา คืนต่อๆมาก็เช่นกัน นั้นคงแปลว่าเธอมีความสุขดี แต่เขาละ เขากำลังจะตาย
ชีวิตแต่ละวัน มันก็ดี แต่เขาสับสน นอนไม่หลับ เขาอยู่ได้ด้วยงาน
แล้วตอนนี่ก็เริ่มเข้าออกโรงพยาบาลเป็นพักๆ
โง่รึบ้าวะแกน่ะเพื่อนคนที่ไปตามเขาที่ห้องพูดขึ้นขณะทานอาหารเย็นก่อนกลับ บ้านริมถนน ฟ้ามืดดำเช่นเคย
...ไม่รู้ว่ะ
พักเหอะว่ะ แกโทรมมากเกินไปแล้วนะโวย
พักไม่ได้ขณะทานไม่ทันหมด ชายหนุ่มล้วงกระเป๋านำเงินออกมา แล้ววางเงินลงบนโต๊ะ
อาว เพิ่งกินไปไม่กี่คำเองนะ
ไม่หิวว่ะ โชคดีว่าแล้วชายหนุ่มก็ตัดสินใจเดินจากมา เขากลับมาที่ห้องอีกครั้ง
เขาแสนเหนื่อยล้าแต่ก็หลับไม่ลง เขาหิวจนไส้แทบขาดแต่ก็ไม่มีอารมณ์อยากจะรับประทาน
เขานั้งลงบนโซฟาตัวเดิมกับที่หญิงสาวเคยมานั้งอยู่บ่อยๆ
เขามองออกไปนอกระเบียงหน้าต่าง
อยู่เพื่อเจ็บปวด และชีวิตนี่ก็ไม่อาจจะหนีพ้นจากความเจ็บปวดทุกอย่างได้
คำว่าไม่เป็นไรนั้นเริ่มเลือนหาย ทันทีที่คำว่า ไม่เป็นไร นั้นหายไป ความเจ็บปวดก็เริ่มปรากฎขึ้น
เจ็บจนไม่ไหว หัวใจที่ถูกทำร้าย จากการที่หนีความจริงมาโดยตลอด ก็ทำร้ายเขา
ยิ่งเธอกลับมาโดยไม่พูด แล้วก็จากไปอีกโดยไม่ว่าบอกใดๆ
เขากำลังจะฆ่าตัวตาย บนคอนโด จากชั้น3
ถ้าพุ้งหัวลงคงไปสบาย เขามายืนอยู่ที่หน้าระเบียงมองดูการจราจรเบื่องล่างที่เคลื่อนตัวไปมาสับสน
เขาเกาะอยู่ที่ราวระเบียงตั้งท่าเตรียมโดดพุ่งหัวลงพื้น
เจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว...ราวกันเป็นคำสารภาพบาป น้ำตาไหลเอ่อล้นเจื่องนองหน้า
เขาหลับตาลง ตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลือเพื่อคิดถึงอดีตทั้งหมดให้มากที่สุด
เพราะช่วงในอดีตถือเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับเขา เขามองออกไปเห็นผู้คนเดินกันให้ขวักไขว่เบืองล่าง
อย่างน้อยเขาก็จะไม่ให้ใครมาเดือดร้อนจากการฆ่าตัวตายของเขา
เขากลับมาภายในห้อง เปิดไฟสว่าง เขาหยิบเอามีดในครัวออกมา
นัยตาจับจ้องอยู่ที่ข้อมือที่ผ่ายผอมจากการทานอาหารไม่ลง
เขานึกถึงอดีตมามากพอแล้ว
เขาเดินมานั้งลงบนโซฟาตัวคุ้นเคย อดนึกถึงเธอไม่ใด้ แต่แล้วเขาเลิกลังเลใจ หลับตาลงอีกครั้ง
มีดจ่อติดเข้ากลับข้อมือ ชายหนุ่มกลั้งใจ แล้วจึงทำการปาดมีดลงที่ข้อมือ
ตึกๆๆๆๆๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้น เร่งเล้าชนิดไม่สนใจใคร ชายหนุ่มยังรู้สึกตัว
แต่ก็สายไปแล้ว
ชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เขามานอนอยู่ในของห้องเดียวของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
เขามองไปรอบตัวด้วยสีหน้าวางเฉย
แต่แล้วสิ่งหนึ่งก็ทำให้สายตาเขาก็ต้องหยุดลงแล้วเพ่งมอง
หญิงสาวคนหนึ่งนอนก่ายหน้าผากอยู่บนที่นั้งข้างเตียงคนไข้
เธอ...นั้นเธอใช้มั้ยชายหนุ่มพยายามร้องเรียกหญิงคนรักอย่างสุดกำลัง
ทันทีที่รู้สึกตัว หญิงสาวลุกขึ้นมายิ้มให้เขาแบบเขินๆอย่างมีความสุขเช่นเคย ชายหนุ่มยิ้มตอบ
มัน..เป็นไงมาไงเนี่ย
ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างฟ้ามืดลงอีกครั้ง นี่เขาหลับมา1วันเต็มๆเลยเหรอ
ไง โรแมนติกเนอะเธอขณะยิ้มแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
ดวงดาวยังคงส่องสว่างเช่นเคย
อือ ฉันว่าน่ากลัวมากกว่าชายหนุ่มตอบเสียงเศร้าๆแต่กลับอมยิ้ม
เป็นอะไรเหรอ ฉันน่ะคิดว่าเธอจะต้องอยู่ที่ห้องนั้นเสมอ จะอยู่ที่นั้น ฉันจึงไปหาเธอ
เธอช่วยฉันใว้เหรอ
เปล่าหรอก เพื่อนที่ทำงานของเธอต่างหากละ เขาทุบประตูอยู่ก่อนที่ฉันจะไปถึงซะอีก
หมอนั้นน่ะเหรอ
เขาบอกว่าเห็นเธอกำลังจะฆ่าตัวตาย คืนนั้นเลยวุ่นวายกันไปหมด
ดีนะ ที่เขาโทรแจ้งรถพยาบาลมาก่อนแล้ว
....ชายหนุ่มเงียบ เขารู้สึกผิดต่อทุกสิ่ง ต่อเพื่อนของเขา ต่อตัวเอง ต่อความ
วุ่นวายที่เกิดขึ้น
ฉันรักเธอหญิงสาวพูดขึ้น
แล้วเรื่องวันนั้นละชายหนุ่มถามถึงเรื่องที่สนามกีฬา คงไม่ใช้ว่าหญิงสาวคนนั้น
จะเป็นพี่น้องฝาแฝดกับเธอหรอกนะ ชายหนุ่มคิดเรื่องแปลกๆขึ้น
วันนั้นน่ะ พ่อบอกฉันว่าฉันมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ตอนแรกฉันก็ค้านสุดตัวเลยนะ
แต่คู่หมั้นคนนั้นเป็นคนรวย เขาจะช่วยครอบครัวถ้าครอบครัวฉันรับมั้น
ครอบครัวเธอก็มีฐานะใช้ใด้อยู่แล้วนี่นา
ไม่หรอก ไกล้จะล้มละลายลงเต็มทีแล้วละ ฉันเลยต้องรับมั้นลูกเศรษฐีคนนั้นไป
แล้วจากนั้นประมาณ1เดือนได้ พวกพ่อให้เราอยู่ด้วยกันดู เขาไปทำงานตั้งแต่เช้า
พอกลับมาก็มักจะอารมณ์เสียใส่ฉันเสมอ ฉันทนต่อไปไม่ใด้ พอตกดึกหลังจากที่
เขาหลับไปแล้ว ฉันจึงมาหาเธอ
ดึกจริงนั้นแหละ เล่นเอาฉันโทรมเลย
ฉันไม่กล้าพูดอะไร แล้วก็ไม่ถามอะไรฉันสักคำ ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดีนึกว่าเธอยังโกรธฉันอยู่ แต่พอเธอลงมือเตรียมอาหารให้ฉันเอง ฉันก็รู้ก็เธอไม่ใด้โกรธ
อะไรฉันแล้ว ขอบใจนะ
อาหารฝีมือฉันอร่อยมั้ยละ
อร่อยสิ อาหารของเธอทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลยละ
อืม แล้วหลังจากนั้น ทำไมเธอถึงไม่มาอีกอยู่ดีก็ไม่มาซะเฉยๆ
ไอ้ลูกคุณหนูนั้นมันจับได้ว่าฉันมาหาเธอ ฉันเลยถูกขังใว้
เธอถูกขังด้วยเหรอ ไอ้ลูกคุณหนูนั้นมันน่าโดนนักชายหนุ่มโกรธขึ้นมาทันตาเห็น
แต่ก็ไม่นานหรอก พ่อฉันเขามีเพื่อนอยู่กรมการคลัง
เพื่อนคนนั้นตรวจสอบแล้วพบว่า พ่อของไอ้ลูกคุณหนูนั้นมันใช้วิธีสกปรก
เล่นไม่ซื่อทำให้กิจการของพ่อฉันขาดทุน
งั้นตอนนี่ไอ้ลูกเศรษฐีนั้นเป็นไงละ
ก็ไม่รวยสักเท่าไหร่
ฮา ฮา
เรื่องมันก็อยู่เท่านี่แหละ พอฉันออกมาได้ปุบฉันก็รีบมาหาเธอเลย
เพราะตอนที่ฉันสิ้นหวังตอนที่ เธอยังคงที่ตรงนั้นเลย
ชายหนุ่มยิ้มหวานแล้วร้องเพลงขึ้นมา
จะอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่น โอ โอ
หญิงสาวยิ้มตอบ
เห็นเธอเสียความรู้สึก ฉันที่รักเธอกว่าทุกคน ก็เสียใจ
หญิงสาวร้องขึ้นประสานเสียงกัยชายหนุ่ม หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป
บอกมาใด้ไหม ให้ฉันช่วยซับน้ำตา ส่งใจช้ำๆของเธอมา
ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง ด้วยหัวใจที่เหมือนเดิม
หากเธอมีน้ำตา...
ถ้าเธอต้องช้ำใจ...
ฉันอยู่ตรงนี่....
ลองแก้ไขคำผิดใหม่แล้ว ของคำแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจนจบครับ
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 49 23:37:18
จากคุณ :
smallAuToJ
- [
18 พ.ย. 49 23:37:41
]