Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ร้อน...ยุทธภพ(1/2)

    อากาศร้อนมากครับพักนี้
    จนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเพี้ยนชอบกล ฮ่ะๆ
    พอดีเจองานเก่าๆๆเลยเอามาปรับปรุงคล้ายร้อน
    ดังนั้นท่านที่อยู่ถนนมานานอาจคุ้นๆกับชื่อตัวละคร

    ท่านที่ต้องการอ่านแนวเครียดๆกรุณาอย่าอ่านนะครับ


    ++++++++++++

    อรุณรุ่ง

    หมู่ตึก

    .โต๊ะหิน ...

    หญิงวัยกลางคน  และ บุรุษหนุ่มอายุ 17 ขวบ  
    บุรุษหนุ่มหน้าตาสัตย์ซื่อสมถะไร้เดียงสาอย่างยิ่ง กระทั่งบางครั้งถึงกับคล้ายดูโง่งมอย่างยิ่ง ราวกับคนที่เพิ่งคลานออกมาจากครรภ์มารดา ความไร้เดียงสาบางครั้งคลับคล้ายคลับคลาโง่งม แต่ความจริงไม่คล้ายกันทั้งหมดทั้งมวล

    หญิงวัยกลางคนใช้สายตาคล้ายมีม่านหมอกบดบัง จับจ้องบุรุษหนุ่มครึ่งค่อนคืนเหมือนสายตาที่มองคนใกล้ตาย  
    ความจริงลูกชายของนางมิใช่คนใกล้ตาย แต่ก็คล้ายเป็นคนปางตายไปแปดส่วนแล้ว

    เนื่องเพราะลูกชายของนางกำลังจะออกจากบ้านเป็นครั้งแรกในชีวิต

    ตั้งแต่เกิดมา นางมิเคยปล่อยให้ลูกชายห่างรัศมีเท้าเลย คนที่ไม่เคยออกจากบ้าน ถึงคราจะออกก็นับว่าใกล้เคียงกับคนตายอย่างยิ่ง

    "ตุ่งตุ๊ง...(ชื่อลูกชายของนาง) ครั้งนี้เจ้ามิอาจไม่ไปแล้ว"

    บุรุษหนุ่มก้มหน้า การออกจากบ้านครั้งแรกในชีวิตกลับเป็นเรื่องที่มิง่ายดายแล้ว ชีวิตที่ผ่านมามันคล้ายกบอยู่ในกะลา ไม่เคยออกผจญโลกเนื่องเพราะมารดาห่วงใยราวไข่ในหิน แต่มิว่าประการใด จะช้าจะเร็ว คนต้องรู้จักก้าวเท้าออกจากบ้าน กระทั่งแมวยังรู้จักออกเที่ยวนอกบ้าน ไหนเลยคนไม่บังอาจออกนอกบ้านได้

    "ใช่แล้ว บุตรมิอาจไม่ไป"  
    มันก้มหน้ากล่าวสีหน้าท่าทางหมกมุ่นจนเคร่งเครียด

    หญิงวัยกลางคนถอนใจดังป้าด จ้องมองออกไปไกลแสนไกล ทิวฟ้าแมกไม้สายลมที่มีวิหคโผบินจากรวงรังตัดฟากฟ้าเวิ้งว้าง ยามอรุณรุ่งไฉนกลับสร้างบรรยากาศ ที่ชวนให้หดหู่สะทกสะท้อนใจปานนั้น

    "หากมิใช่บิดาเจ้าเจ็บป่วยหนัก หากมิใช่เราต้องอยู่ดูแลบิดาเจ้า หากมิใช่เจ้าเป็นบุตรชายคนเดียว หากมิใช่บ้านเราไม่มีใครอีกแล้ว ประกันว่าครั้งนี้เจ้าไม่ต้องไปแล้ว"

    ตุ่งตุ๊งขบกรามกรอด เรื่องราวของมันที่กำลังจะกระทำยิ่งใหญ่หนักหน่วงกดถาโถมจนไหล่แทบโค้งงอ แต่มิว่าอย่างไรมันก็ถูกสอนให้เป็นลูกผู้ชาย ไหนเลยจะหลั่งน้ำตาท้อแท้ได้

    "มารดาท่าน ป่านนี้ท่านควรบอกได้แล้วว่าบิดาเป็นโรคอะไร ถึงกับให้ข้าออกเดินทางไปหาตัวยาไกลแสนไกลเยี่ยงนี้"

    ม่านตาหญิงกลางคนหม่นสลัวลงเมื่อได้ยินคำถาม มิทราบจะตอบประการใด โรคร้ายบางชนิดเพียงเอ่ยชื่อก็แทบไข้ขึ้นแล้ว โรคร้ายบางประการเพียงนึกถึงหัวใจก็หล่นวูบลงชั่วกัลป์

    บุรุษหนุ่มเอ่ยถามอีกอย่างร้อนรน
    "ข้าไปครั้งนี้มิทราบว่าจะมีโอกาสกลับมาหรือไม่ กระทั่งเกิดตกตายระหว่างทางก็มิทราบสาเหตุต้นตอ  ดังนั้นข้าควรรู้เหตุผลต้นตอ เอ....หรือบิดาเป็นโรคเอดส์"

    นางสะดุ้งเฮือก ตวาดอย่างขุ่นเคือง
    "ผายลม..โรคชนิดนั้นมีที่ใดกัน มารดาเกิดมายังไม่เคยได้ยินโรคแบบนั้น...บิดาเจ้าเป็นโรคที่แทบไม่มีทางรักษาแล้ว...เขาเป็นโรค..."

    เสียงนางกลืนหายไปในลำคอ กล้ำกลืนร้องร่ำไห้

    "ท่านรีบบอกเถิด.ข้าเตรียมใจไว้รับฟังแล้ว"
    "เขาเป็นโรค..."

    "หรือบิดาท่านเป็นโรคผู้หญิง" บุรูษหนุ่มเดา

    "ผายลมครั้งที่สอง...บิดาเจ้าเป็นผู้ชาย ไหนเลยจะกลับกลายเป็นอิสตรีได้ เหลวไหล  ...โรคผู้หญิงไหนเลยเคยมี...ท่านเป็นโรค..."

    "หรือว่าท่านเป็นโรคไข้หวัดนก"

    "ผายลมครั้งที่สาม โรคนี้ไหนเคยมีในโลก อย่าได้กล่าวเปะปะเหลวไหล"

    "เช่นนั้นท่านควรบอกมา...มิเช่นนั้น ท่านคงผายลมต่อไปอีกหลายพันครั้งมิยอมหยุดหย่อนแน่

    "......."
    ใบหน้านางบิดเบี้ยวเปลี่่ยนรูป คล้ายเผชิญหน้ากับวิญญาณเจ้าหนี้ก็มิปาน

    ในที่สุดนางเค้นเสียงออกมาอย่างลำบากยากเย็นว่า

    "บิดาเจ้า .....เป็นโรคสำออย...!!!!!"

    "อ๊ากซซซซ...."

    ต่อให้เตรียมใจรับฟัง บุรษหนุ่มยังแผดร้องออกมาโหยหวน ปานควายถูกเชือดอย่างแตกตื่นจิตใจแทบโบยบินจากร่าง นกกาแถวนั้นแตกตื่นบินเวียนว่อน กิ่งไม้ใบไม้สบัดไกวไหวเอนราวพายุกรรโชก

    ควรทราบว่าโรคสำออยนี้เป็นโรครุนแรงร้ายกาจน่ากลัวยิ่งกว่าโรคติดต่อใดๆ

    หากท่านเป็นโรคท้องร่วงอย่างน้อยต้องมีพาหะ หากท่านปวดศีรษะย่อมมีสาเหตุ  หากท่านเป็นโรคใดๆย่อมมีที่มาที่ไป  แต่โรคสำออยคล้ายหาสาเหตุมิได้ หาต้นตอไม่ได้
    เป็นได้ทุกเพศทุกวัยทุกยุคทุกสมัย

    เป็นโรคที่ใครรับฟังแล้วแทบอยากปิดหูปิดตาเตลิดไปไกลแสนไกล

    ผู้เป็นมารดาเหม่อมองไกลแสนไกล เอ่ยเสียงอย่างแผ่วเบาแหบเครือ

    "มีทางเดียวที่จะรักษาได้ ซินแสปากซอยบอกว่าจะต้องใช้"ปลาร้าพันปี" มาผสมตัวยารักษา"

    ท่านรู้จักปลาร้าหรือไม่...
    บางคนคิดว่ามันเป็นสัตว์ในตำนาน ในเทพนิยายของแอนเดอร์สัน บางคนคิดว่ามันเป็นสัตว์วิเศษอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือเชิงเขาไกลลาศ บางคนคิดว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดในทะเลสาบล็อคเน็สส์

    ในโลกนี้ไม่มีเพียง บัวหิมะพันปี ยังมีปลาร้าพันปี...
    ปลาร้าค้างปีจัดว่าวิเศษเลิศเลอแล้ว ดังนั้นปลาร้าพันปีจะมีสรรพคุณปานใดก็แทบมิต้องบรรยายแล้ว
    .........

    บุรุษหนุ่มถูกเลี้ยงดูอย่างดี ชีวิตนี้อยู่แต่ในบ้าน เรียนหนังสือที่บ้าน โลกของมันคือบ้าน มารดามันห่วงใยจนมิอาจให้ลูกคลาดสายตาแต่วันนี้เพื่อบิดา บุรุษหนุ่มไร้เดียงสาต้องออกเผชิญโลกที่โหดร้ายแล้ว

    แต่มันมิอาจไม่ไป

    โรคสำออยของบิดามันหากแพร่งพรายไปถึงหูผู้อื่นหากตระกูลของมันไม่ล่มสลายลงก็น่าประหลาดใจแล้ว มีเพียงซินแสคนเดียวที่รู้เรื่อง...แต่ชีวิตของมันก็ไม่ปลอดภัยแล้ว
    ดังนั้น ตุ่งตุ๊งจึงออกออกด้นด้นเดินทางเสาะหาปลาร้าพันปี

    บุรุษหนุ่มก้มคารวะจรดพื้นกล่าว
    "ถนอมตัวด้วย บุตรขอลา"

    "ไปสู่ที่ชอบๆเถิดเจ้า"

    "เอ้ย..." ข้าไม่ได้ไปตายไฉนท่านพูดแบบนั้น" ตุ่งต๊งหน้าซีดราวปลาตาย

    นางฝืนยิ้มบอก
    "มารดาเจ้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น เจ้าไปได้แล้ว"

    บุรูษหนุ่มมองมารดามันครู่หนึ่ง ตัดใจลุกขึ้น เหลียวมองหมู่ตึกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหันหน้าออกสู่โลกภายนอกอันเลือนลางในม่านมองยามเช้า ชะตากรรมประเภทใดกันที่ยื่นมือรอคอยมันอยู่ในโลกกว้างไกล

    "หยุดก่อน"
    มารดามันร่ำเรียกอีกครั้ง บุรุษหนุ่มชะงักหันมามอง
    "ทำไมเจ้าไม่มีเงาหัว"

    บุรุษหนุ่มสะดุ้งสุดร่าง...ร้องสุดเสียง ปานจะร่ำไห้
    "ท่านไฉนพูดเข่นนี้"
    "แฮะๆ...เราล้อเจ้าเล่น"

    บุรุษหนุ่มจับจ้องมองมารดามันอย่างมิไว้วางใจ ค่อยๆถอยหลังทีละก้าว จนออกหน้าหมู่ตึกจึงหันหลังออก..

    "หยุดก่อน"
    มารดามันร้องเรียกอีก
    “มาดาเห็นเท้าเจ้าไม่ติดดิน หน้าก็ไร้สีเลือด”

    “มาดาอย่าล้อเล่นแบบนี้”
    บุรุษหนุ่มเอ่ยเสียงแหบพร่าราวใจจะขาด ค่อยๆล่าถอยออกไปอย่างระมัดระวัง

    “หยุดก่อน”
    มารดามันร้องเรียกอีก

    “ไม่อยู่แล้วโว๊ย....”

    บุรุษหนุ่มสะดุ้งสุดร่างปานถูกเตะใส่สิบเท้าพร้อมกัน มันแผดร้องสุดเสียงก่อนออกวิ่งมิคิดชีวิตไม่เหลียวหลังจนหายลับไปกับตา หากอ้อยอิ่งอยู่ต่อมันคงประสาทตายเพราะมิอาจทนทานต่อการล้อเล่นของมารดามันได้ ทิ้งให้นางขมวดคิ้วนิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์เพราะยังมีคำล้อเล่นอีกหลายคำที่ยังไม่มีโอกาสเอ่ยปากออกมา

    .......
    คาคบไม้หน้าหมู่ตึก

    ลูกนกตัวหนึ่งหัดบินโผออกจากรัง ร่วงหล่นลงบนพื้นดิน
    อสรพิษตัวหนึ่งคล้ายดั่งหลุดออกมาจากหนังแม่เบี้ย มิทราบว่ารอคอยตั้งแต่เมื่อไร พุ่งเข้างับเจ้านกน้อยกินกลืนเข้าไปอย่างโอชะ

    ชะตากรรมของบุรุษหนุ่มกตัญญูจะเฉกเช่นลูกนกหรือไม่.....
    ................
     
    ตอนที่ 2

    ความจริงตุ่งตุ๊ง เป็นบุรุษหนุ่มปราดเปรื่องหล่อเหลาสง่างาม เพียงแต่มันอ่อนต่อโลกอย่างยิ่ง

    แต่นี่ไม่อาจตำหนิมัน ที่ควรตำหนิ...อาจเป็นครอบครัวของมันซึ่งนับจากเป็นทารกกระทั่งเติบใหญ่ไม่เคยปล่อยมันออกสู่โลกภายนอกเลย

    เนื่องเพราะครอบครัวของมันเห็นว่าโลกภายนอกเลวร้ายยิ่ง อันตรายยิ่ง

    จนลืมคิดไปว่าถ้าไม่รู้จักความเลวร้ายจะซาบซึ้งกับความดีงามได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จักกับความมืด..จะรู้จักแสงสว่างได้อย่างไร

    ถ้าไม่รู้จักความเจ็บปวดสูญเสีย จะซาบซึ้งกับความสุขและสมหวังได้อย่างไร…

    บิดาของตุ่งตุ๊งเป็นโรคร้าย

    โรคที่ไม่มีโอสถขนานใดรักษาได้ นอกจากปลาร้าพันปี สุดขอบฟ้า

    โรคร้ายที่ว่าคือโรคสำออย….ที่พอได้ยินชื่อผู้คนต่างตัวสั่นพรั่นพรึงสุดสยดสยอง

    ตุ่งตุ๊งจึงต้องออกเดินทางสู่ยุทธภพ

    บรุษหนุ่มปราดเปรื่องแต่ไร้เดียงสาต่อโลกจะเป็นเช่นไร

    มันจะถูกล่อลวงไปในทางไม่ดีหรือไม่…..จะได้ปลาร้าพันปีกลับมาอย่างไร

    ++++


    ตะวันคล้อยต่ำลงจรดทิวเขา ต่ำลงมาคือลำธารและสะพานเล็กๆ

    ความจริงนี้เป็นภาพสวยงามยิ่ง ภาพที่สวยซึ้งตรึงอารมณ์กวีแทบกระโจนเข้าหาสีและพูกัน

    น่าเสียดายที่ตุ่งตุ๊งไม่มีอารมณ์ชื่นชมเลยสักนิด เป็นเพราะไม่เพียงที่ดวงตะวันตกลง เรี่ยวแรงของมัน หัวใจของมันล้วนตกลงเช่นกัน ….ตะวันจรดทิวเขา เข่าของมันก็อ่อนล้าแทบตกลงจรดดิน อาหารที่เตรียมมาถูกเขมือบหมดสิ้นตั้งแต่เที่ยงวันแล้ว


    แต่มันไม่หลงทางเด็ดขาด เพราะมันไม่ทราบว่าจะไปทางใด จึงไม่มีทางให้หลง คนที่กระทั่งตนเองยังไม่ทราบจะไปทิศทางใดจึงไม่จัดว่าเป็นคนหลงทางแน่นอน

    นึกถึงค่ำคืนฟ้ามืดกลางป่าใหญ่ คนที่ไม่เคยออกสู่โลกภายนอกเช่นมันนับว่าเลวร้ายยิ่งแล้ว มารดาของมันพร่าสอนว่าในป่าเต็มไปด้วยภูตผีปีศาจ และสัตว์ร้าย คอยจ้องจับกินเป็นอาหาร นางพรายที่ดักฉุดบุรุษไปย่ำยี ผู้คนเลวร้ายแอบคอยดักอยู่ในเงามืด เพียงนึกหัวใจก็สั่นไหว

    ตัดใจเดินข้ามสะพานน้อย

    ความจริงมันเดินขึ้นสะพาน แต่ตอนนี้หัวใจคล้ายร่วงหล่นลงในลำธาร เพราะกลางสะพานพลันปรากฏเงาร่างของสัตว์ร้ายยืนแยกเขี้ยวจังก้ากลางตะวันเขี้ยวขาววาววับในเสียงคำรณสยบขวัญ

    "อุ้ยตายแล้ว……แม่จ๋า…"

    มันอุทานอย่างสุภาพเรียบร้อย เซกลับหลัง….ขาพันกันล้มลง

    มันมิใช่สตรีเหล็ก แต่เป็นผลจากการอบรมพร่ำสอนของมารดาให้มันเป็นกุลบุรุษดีงาม ไม่ว่าจะแตกตื่นอย่างไรจะต้องรักษามารยาทและความเรียบร้อยไม่ให้ขัดตาไว้ตลอด

    พริบตานั้นสะพานน้อยคล้ายเป็นสะพานยาวไม่มีที่สิ้นสุดจากการปรากฏตัวของสัตว์ร้ายจากแดนสนธยา

    ตอนนี้อย่าว่าแต่จะข้ามไปเลย ประคองตัวให้พ้นจากการเป็นอาหารมื้อค่ำของพยัคฆ์ร้ายได้ก็นับว่าบุญแล้ว

    "ชิ้วๆๆ….ไปๆๆ…ชิ้วๆๆ"

    บุรุษหนุ่มทำเสียงไล่ เนื่องเพระอยู่บ้านเคยใช้วิธีนี้ไล่แม่ไก่และลูกไก่จนกระเจิดกระเจิงขวัญหนีดีฟ่อมาแล้ว แต่ครั้งนี้เสียดายว่าสัตว์ประหลาดฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง มันยิ่งแสยะเขี้ยวขาวน้ำลายหยดตามมุมปากตั้งท่าราวจะกระโจนเข้าใส่

    ยามจวนตัวมันพลันนึกถึงคำพูดของมารดา

    "สัตว์ร้ายทั้งปวงล้วนกลัวนัยน์ตามนุษย์ ยามจวนตัวให้เจ้าจ้องมองตามันอย่ากระพริบ มันจะไม่กล้าทำอันตรายเจ้าเด็ดขาด"

    สบตากัน

    มันไม่มีโอกาสใคร่ครวญ สองตาของตุ่งตุ๊งจับจ้องอยู่นัยน์ตาดุร้ายของพยัคฆ์ร้ายที่แสยะเชี้ยวข่มขวัญอยู่เบื้องหน้า ตาประสานตาแน่วนิ่ง

    สัตว์ร้ายมีท่าทีงงงันวูบหนึ่ง เกิดมายังไม่มีมนุษย์ตนใดมองหน้าแบบนี้

    แต่แล้วพลันอ้าปากคำรามถีบเท้ากระโจนสุดตัวใส่บุรุษหนุ่ม

    สัตว์ตัวนี้จำได้ว่าปู่ของมันเคยสอนว่าอย่าไปหลงกลพวกมนุษย์ มนุษย์ที่ใช้วิธีนี้คือมนุษย์จนตรอก ถึงได้ใช้วิธีปัญญาอ่อน มนุษย์ที่จนตรอกคือมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความกลัว  คนที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวย่อมไม่น่ากลัว
    คนที่ไม่น่ากลัวย่อมเล่นงานได้

    ดังนั้นมันจงลงเท้า…

    เขี้ยวขาว กรงเล็บ…. ผ่าดวงตะวันดวงกลมโตแดงฉานลงมาแล้ว

    ตุ่งตุ๊งคาดไม่ถึงเด็ดขาดว่าคำสอนของมารดาจะไร้ประสิทธิภาพจนป่านนี้ เพราะคาดไม่ถึงจึงไม่ทันนึกวิธีตั้งรับ ดังนั้นได้แต่นั่งปากอ้าตาค้าง รอรับมหันตภ้ยร้ายแรง


    ในเสียงดังฉาด…ศีรษะตุ่งตุ๊งขาดกระเด็นโลหิตฉีดพุ่งเป็นไฟพะเนียงประทุ

    +++++

    จากคุณ : GTW - [ 19 พ.ย. 49 19:12:25 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom