รู้สึกผิดนิดๆที่รู้ล่วงหน้าว่าต้องออกไปข้างนอกแล้วต้องดื่มเบียร์ ในวันที่เรียกว่า วันพระใหญ่...นัดไว้แล้ว ฉันรักษาคำพูดเสมอ
ฝนตกพรำๆไม่หยุดง่ายๆ ฉันเลือกเสื้อสีขาว เห็นแล้วสบายตาและอาจช่วยให้เขามองแล้ว ไม่อยากทำไรท้าทายมากนัก เขาโทรมาถามย้ำว่า ออกมาหรือยังจะได้พบกันไหมเพราะเราไปลำบากในวันฝนตกแบบนี้ แต่ฉันบอกว่าออกมาจากบ้านแล้ว อย่ายกเลิกนัดเลย ไม่เจอวันนี้ก็คงมีวันหน้า ฉันรู้..
พระอาทิตย์ตกแล้ว..สายฝน กลิ่นไอเสียชื้นๆ น้ำสีดำที่สาดกระเซ็นใส่คนข้างถนน ที่ป้ายรถเมล์ ทำให้คิดไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้คิดหวังอะไรจากคนที่กำลังจะพบ
รถพี่เขามาจอดแล้ว ฉันสอดตัวลงไปนั่งที่เบาะหน้าคู่กับพี่เขา เขามองหน้านิ่งสักอึดใจแล้วเคลื่อนรถตามคันหน้าออกไป
" เป็นไง " พูดเหมือนคนนั้นเลย...
ฉันเปียกนิดหน่อย พื้นรองเท้าชื้นแฉะ ย่ำน้ำเน่าๆของเมืองหลวงมา
" หนาวค่ะ หิวแล้วด้วย "
" พี่กอดไหม เดี๋ยวก็หาย พี่ก็หิวทั้งวันยังไม่ทานข้าวเลย " หึหึ คงไม่ต้องเอื้อมมือเข้ามาโอบนะ อย่าเพิ่งนะ..
รถเขาสะอาดตาดี มีตุ้กตาหมานอนแป่ะคว่ำหน้าที่เบาะหลังยิ้มแผล่มาให้ ที่คอนโซลมีคีมในแพคที่ยังไม่ได้แกะ แปรงแปรงผม กับอะไรไม่รู้สองสามอย่างมองไม่ถนัดเพราะความมืด จำเป็นต้องหันไปมองหน้าเขาเพราะเขาชวนคุย รู้ว่าเขาแอบมองหน้าบ่อยๆ อยากบอกว่า ตั้งใจขับรถไปเถอะก็กลัวว่าจะแรงไป..เขาเป็นคนหน้าตาธรรมดา สะอาด ดูใจดีอย่างเสียงที่พูดและไม่ได้ดูแก่มาก เขาอารมณ์ดี คุยตลกดี
เราทานอาหารไทยกัน เขาเลือกโต๊ะนอกห้องแอร์เพราะกลัวเราจะหนาว และยังเอ่ยปากขอให้เราแกะมะเขือเปราะวางใส่จานให้เขาบ้าง " ดูซิว่าเป็นคนโรแมนติกจริงหรือเปล่า" มีเรื่องเยอะแยะที่คุยกันได้ งานของเราเหมือนกัน เราช่างสังเกตเหมือนกัน เขาสรุปเอาเองว่า สบายใจ ที่ออกมาได้เจอคนอย่างเรา เอ้า..ก็ดีไป ไม่ต้องมีพิธี เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องมาทำหล่อหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อเรา อืม ผู้ชายสบายใจแล้ว..
ฝนยังคงตกไม่หยุด ตอนที่เราออกจากร้าน "พี่กำลังคิดว่าเราจะไปไหนกันดี ที่เราจะไม่กลัว" " ก็ขับไปเรื่อยๆก่อนสิคะ"...เขาแนะนำสถานที่ข้างทางไปเรื่อยๆว่าย่านนี้เรียกว่าอะไรบ้าง แล้วจู่ๆก็จอดนิ่งที่หลังแฟลตแห่งหนึ่ง มีคนผ่านไปมานานๆที มีไฟสว่างอยู่ห่างๆกับรถเข็นขายก้วยเตี๋ยว " ตรงนี้ดีพอไหมครับ" เพราะเขาปล่อยมุขกามๆมาบ่อย และถามตรงๆ " อย่านะ กลัวนะ" ฉันก็ตอบตรงๆเหมือนกัน
เขาเดินไปหยิบกระติกน้ำแข็งออกมาจากหลังรถมาวางที่เบาะหลัง วานให้เราเอื้อมไปหยิบขวดเบียร์ออกมาเปิด เขาเอาแก้วออกมาสองใบ ฉันไม่ทันเห็น โอ้โห
"เหมือนมาปิคนิคเลยค่ะ น่ารักจัง"
" ผมก็ไม่รู้สิ ไม่เคยทำแบบนี้กะใครเลยนะ เห็นว่าจะออกมากะคุณ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..ดูสิ ทำไปได้ขนาดนี้" "ฮ่ะๆๆๆ" เราหัวเราะกันเอิ้กอั้ก
เราจิบเบียร์กัน คุยกันไป หลายอย่าง หัวเราะด้วยกัน เราเข้ากันได้ดีไปหมด แต่มันก็ยังไม่ทำให้ฉันสบายใจไปซะทีเดียว และเขาดูออก จนเมื่อมาถึงครึ่งแก้วที่สอง ฉันเริ่มหลับตาคุย ไม่รู้ตัว
" มีอะไรในใจรึเปล่า บอกพี่ได้นะ"
ไม่ ฉันจะไม่บอกเขาและไม่บอก"เขา" ด้วย
เขาเริ่มตบหัวเราเบาๆ
" จำไว้นะ อย่าออกมาพบใครอีก มันอันตราย"
" อื่อ.."
แทนที่สายฝนเย็นๆ เบียร์เย็นๆน่ากิน การสนทนาที่ดีกับคนๆนี้ จะทำให้ฉันอารมณ์ดี สบายใจ มันกลับยิ่งบิดเกลียวแน่นขึ้น ความอึดอัดแน่นเต็มรถ ฉันอยากหลุดพ้น และซ่อนสีหน้ากังวลจากพี่เขาเสียให้ได้ เพราะดูเขาชื่นอกชื่นใจกับการอยู่ข้างๆฉัน เขาให้เราหยิบเบียร์อีกขวดมาเติม ฉันลุกจากเบาะ หันหลังไปคุกเข่ากอดพนักพิงไว้ก่อนจะเอื้อมแขนออกไปหยิบขวดทุลักทุเลในรถแคบๆ โลกเริ่มหมุนเล็กน้อย หนักหัวแล้ว..ฉันหยุดพิงหัวกับที่นั่งเขาพักหนึ่ง เขาเอียงตัวมากระซิบถามอาการข้างหูนี่เอง.." ไหวไหม" ฉันเลยยืดแขนออกไปจับขวดดึงออกมา ได้แค่ถือไว้ในมือ นิ่ง เย็น..
หน้าเขามานัวเนียอยู่กะหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่?? รู้แต่ว่าฉันหันหน้ามาปุ้บ ก็มีอะไรหวานๆปนขมมาให้ชิม มีกลิ่นเบียร์แสนอร่อยคลุ้งอยู่ตรงนี้ จำได้แค่ว่าเป็นฉันเองที่ดึงริมฝีปากล่างเขาด้วยปากนิ่มๆของตัวเอง แล้วเขาก็ไม่ยอมจะถอนปากออกไปเลย " อืม..มม" เขาครางเบาๆ จูบหวานๆเริ่มทำงานอีกครั้ง หักห้ามไม่ไหวแล้วมังคะ ฉันทำตามใจตัวเองไปเรื่อยๆอย่างนั้น จนนึกขึ้นมาได้ว่ากำลังถือขวดเย็นๆในมือนี่นา ฉันผละจากเขา ทำภาระกิจ เฉไฉรินเบียร์เติมลงในแก้ว
" แก้วละคะ? ไม่เติมอีกหรอ" รู้ว่าเขาจ้องหน้าตลอดเวลา อย่าให้ฉันต้องมองสายตาแบบนั้นเลย
.." อย่าใจอ่อนกะหนูนะ" ฉันก้มหน้ามองแก้วพูด
"ชอบอ่ะ...หวานมากเลย เหมือนกับคุณรู้สึกอะไรกับผมข้างใน มันดีอ่ะ เป็นคนจูบหวานนะ รู้ตัวไหม"
" เอ้า ดื่มๆๆ เดี๋ยวมันจะไม่เย..." ยังพูดไม่จบเลย ฉันถูกปิดปากอีกครั้ง เขาเอื้อมมือมารั้งเราไว้ให้รับจูบ ฉันวางแก้วลงตั้งบนตัก กลัวว่าจะทำหกไปเสียก่อน จะมาเมาอะไรตอนนี้นะเรา..
เขาขยับให้ทำอะไรๆให้สะดวกขึ้น เราเอียงตัวเข้ามาหากันใกล้กันมากขึ้น ช่องตรงกลางระหว่างเบาะก็น่าเกะกะไปแล้ว ดูมันไกลเหลือเกินใช่ไหมคะ ฉันอดไม่ได้จะเอื้อมมือไปประคองหน้าเขาไว้บ้าง บางที ฉันก็อยากจะ"ทำ"บ้าง ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสั่งกลายๆท่าเดียว นี่ไง ต้องจูบแบบนี้ ลิ้นของฉันได้สัมผัสเขา ลึกเข้าไป และวนกลับออกมาหาความหวานที่ด้านนอก แผ่วเบา นุ่มนวล ในแบบของเรา..
เราหยุดพักหายใจ และจ้องตากันในความมืด ชนจมูกกันเอาไว้แบบนั้น กลายเป็นว่านั่งหันข้างเอาหัวพิงที่นั่งทั้งคู่
" อย่าใจอ่อนนะคะ" "ผมอยากอยู่ต่อกับคุณนะ จริงๆนะ ผมอยากทำมากกว่านี้"
หยดฝนกระเซ็นผ่านช่องกระจกที่ลดต่ำเอาไว้เข้ามา เขาโอบหลังเรา เขี่ยคอเสื้อเล่น และเอานิ้วพันเส้นผมเล่น
" ยังไม่อยากทำอะไรกับใครค่ะ " เป็นคำมั่นเหมาะที่ออกมาจากข้างใน ฉันหมายถึงแบบนี้จริงๆ
"คุณทำให้ผม รู้สึกอะไรข้างใน อยากสัมผัสนะ มากๆด้วย"
" แต่ก็ไม่เป็นไร มานั่งกินเป็นเพื่อนผมก็ไม่เหงาละ ผมอยากกินเองล่ะ แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้วครับ"
เหมือนว่า ฉันไปปลุกอะไรที่มันเกือบจะเฉาในตัวเขาให้ตื่นขึ้นมา จิตใจที่แห้งแล้ง เดียวดาย แต่ก็ไม่รู้ว่า ฉันรึเปล่าที่จะรักษาเขาได้จนตลอดไป
ฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด คืนนี้คงตกไปทั้งคืน เขาพาไปเข้าห้องน้ำ และฉันหยิบแค่กระดาษชำระไป ทิ้งกระเป๋าเอาไว้ในรถ ให้เขารอ การเดิน ทำให้เราสร่างขึ้น ได้ขยับตัว ออกจากความแน่น ใน รถ..
พี่เขามาส่งที่ท่ารถ บ้านฉันอยู่ไกลและนี่ก็ดึกมากแล้ว รถจะหมดเสียก่อน " ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยนะครับ พี่ห่วงแล้วนะ" .. หึหึ เขาใจดีมาก และตรงๆกับฉัน ดีใจไหมหรอ ก็ดีนะ ที่เป็นเขา เป็นคนอย่างเขา ไม่เหมือน......... ..
----------------------------------------------------------
ขอบคุณที่เขาเคารพในความคิดของเรา และเขากล้าจะบอก ว่าต้องการอะไรแค่ไหน เก็บมันไว้ก่อนเถอะค่ะ ไว้ค่อยว่ากัน หากว่ามีครั้งหน้าที่เราจะมาพบกันอีก
เขาจะมาอีกไหมหรือว่าเขาก็เหมือนคนอื่น เห็นเราช่วยแก้เหงา ให้วันนี้ของเขาผ่านไปแม้ว่าจะได้เพียงแค่นี้ แล้วเราจะรู้กันค่ะ
-----------------------------------------------------
....2อาทิตย์ผ่านไป เขาไม่รับโทรศัพท์ของเรา เขาไม่โทรมา...นี่ละมั้ง การผ่านมาของเขา อีกคน.
จากคุณ :
podduang-pk
- [
22 พ.ย. 49 14:43:41
]