Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Psycho Zone..........(ตอน ซาร่า)

    Psycho Zone นี้เป็นภาคต่อเนื่องจากชุด
    Diary of a madman ครับ พอดีหยุดเขียนไปนาน เลยเปลี่ยนชื่อ แฮ่ะๆ แต่ยังคงเป็นเรื่องสั้นๆตอนๆ เช่นเคยครับ

    ชุดเก่าๆ อ่านได้ที่
    http://www.rittiya.com/writenGTW/diary.htm


    +++++++

    Psycho Zone

    ซาร่า

    ชีวิตรักของเรา—หมายถึงผมกับซาร่า ภรรยาแสนสวย ร่ำรวย เป็นไปอย่างราบรื่นจนน่าอิจฉา การงานของเราไปได้ด้วยดีทั้งคู่ ดูเหมือนอะไร ๆ จะสมบูรณ์ดีพร้อมไปทั้งหมด จนไม่น่าเชื่อว่าชีวิตคนเราจะดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนี้ ก็แน่ล่ะ...มันเป็นความโชคดีที่บังเอิญโชคดีในหลายๆอย่าง

    เราเป็นคู่รักที่หลายคนยกย่องให้เป็นคู่รักตัวอย่าง ไม่เคยมีปากมีเสียงกันเลยสักครั้ง เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจกันในทุกๆเรื่อง  วันหยุดเราจะออกจากบ้าน เที่ยวซื้อของหรูหราราคาแพงมาใช้แบบไม่เสียดายเงินทอง มรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษมันมากพอที่จะจับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือยทั้งปีทั้งชาติ กลับมาดื่มด่ำกับความรักซึ่งแม้แต่กามเทพยังต้องแอบอิจฉา

    ขึ้นต้นด้วยความสวยงามใช่ไหม....แต่ในที่สุดผมก็เริ่มรู้ว่า ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์แบบพร้อมทุกอย่าง มีปัญหาอย่างอื่นเริ่มเกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ปัญหาสุขภาพ และทำให้ผมตะหนักถึงคำกล่าวที่ว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”

    ซาร่าเริ่มมีอาการเครียดชนิดหนึ่งที่บรรยายไม่ถูก ดูเหมือนว่าจะมีความสับสน วิตกกังวลอะไรบางอย่าง หรืออาจจะหลายอย่างด้วยซ้ำ อยู่ภายในใจ ผมเคยเห็นบัตรนัดของแพทย์ในกระเป๋าสะพายใบโปรดของเธอ

    หมอคนนั้นเป็นจิตแพทย์

    ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะป่วยเป็นโรคทางจิต  มันจะต้องมีอะไรสักอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน ชีวิตพวกเราไม่เคยมีปัญหาอะไรให้หนักอกหนักใจเลยสักนิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องการงาน และเรื่องนี่เองที่ทำให้ผมวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเธออย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก หรือว่าความสุขราบรื่นมากเกินไปจะทำให้เกิดความผิดปกติภายในจิตใจ

    ดูเหมือนเหตุการณ์ดูจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เธอเริ่มพูดกับผมน้อยลง และมีหลายครั้งที่ผมเห็นเธอแอบสนทนากับใครบางคนซึ่งมองไม่เห็นตัว มันทำให้ผมขนลุก และเหตุการณ์แบบนี้บ่อยขึ้นทุกที  คุณว่ามันน่าประสาทเสียไหมล่ะ

    บิล...  เป็นคนแรกที่ผมนึกถึง เขาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่ง เสียดายที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสพบปะกับซาร่ามากนัก ผมตัดสินใจโทรศัพท์ไปปรึกษากับเขา อย่างน้อยเขาก็เป็นหมอ แม้จะไม่จบทางโรคทางจิตโดยตรงก็ตาม

    เขาตั้งใจฟังเป็นพิเศษตอนที่ผมเล่ารายละเอียดยืดยาว โดยไม่พูดอะไรขัดจังหวะแม้แต่น้อย นี่เป็นข้อดีขอหนึ่งของบิลที่ทำให้เราคบกันได้ บางทีเขาอาจมีคำแนะนำดีๆ ก็เป็นได้

    “เอาล่ะ....นายฟังให้ดีนะ”

    เขาเอ่ยด้วยเสียงที่เน้นเป็นพิเศษ และเต็มไปด้วยความจริงจังจนน่าตกใจ

    “นายบอกว่าซาร่า ภรรยาของนายป่วยทางจิตใช่ไหม”

    “ใช่...นายสงสัยอะไร”
    ผมเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล อะไรบางอย่าง

    “นายตั้งใจฟังให้ดี”
    เขาย้ำอีกครั้งก่อนจะหยุดพูดไปชั่วขณะเหมือนจะให้เวลาตั้งสติ  และเมื่อเขาเริ่มพูดต่อ ทำให้ผมประสาทลั่นเปรี๊ยะชาดิกไปทั้งร่าง

    “เท่าที่ฉันรู้ นายเป็นโสด อยู่คนเดียว และฉันไม่เคยเห็นซาร่าอะไรของนายเลย ฉันว่านายนั่นล่ะที่เป็นคนป่วย”

    “อย่ามาล้อเล่นน่า บ้าชัดๆ”
    ผมคำราม แต่ยังรู้สึกถึงกระแสแห่งความหวั่นไหวสับสนในน้ำเสียงของตัวเองชัดเจน
    “นายอย่ามาล้อเล่นแบบนี้ บิล ไม่ตลกเลย”

    “ฉันไม่ใช่คนตลกร้ายแบบนั้น นายก็รู้   ไม่เชื่อนายลองไปถามคนอื่นดู ว่ามีใครเคยเห็นซาร่าหรือเปล่า รับรองว่าไม่มีใครเคยเห็น บางทีนายอาจจะทำงานหนักเกินไป มันก็เป็นไปได้ที่นายจะสร้างภาพหลอนของใครสักคนขึ้นมาในใจเพื่อเป็นซาร่า ผู้หญิงในอุดมคติของเธอ นายลองคิดดู ซาร่าจะดีพร้อมไปทุกอย่างได้ขนาดนั้นเลยหรือไง... .เธอเป็นภาพหลอน ฉันว่านายนั่นล่ะที่ควรจะไปหาจิตแพทย์”

    นี่มันนรกอะไรกัน ผมงุนงงสับสนไปหมด บิลไม่เคยล้อเล่นอะไรรุนแรงแบบนี้ เขาเป็นคนจริงจังกับชีวิตและทุกๆ เรื่อง นั่นคือสิ่งที่ผมแน่ใจ แต่จะให้รับได้อย่างไรว่าจู่ๆมีคนมาบอกว่า คนที่คุณแสนรัก คนที่คุณรู้จัก ไม่ได้มีตัวตนจริงๆ เป็นเพียงภาพหลอน ผมว่าคุณไม่มีวันรู้สึกได้ว่ามันน่าตกใจขนาดไหน มันเหมือนจักรวาลจะพังทลายไปต่อหน้าต่อตา

    “ได้โปรด บิล..”
    ผมคร่ำครวญเหมืนคนใจจะขาด
    “บอกผมมาว่ามันไม่จริง...”

    “ผมก็อยากบอกคุณอย่างนั้นเหมือนกัน แต่เสียใจ เพื่อนรัก นายต้องรับความจริงว่านายกำลังป่วยทางจิตระยะร้ายแรง รอที่บ้าน ฉันจะไปหานายเดี๋ยวนี้”

    “นายรีบมา....นายจะได้เจอซาร่า..วันนี้เธออยู่บ้าน”

    ผมวางโทรศัพท์อย่างอ่อนระโหย เรื่องนี้มันบ้าชัดๆ นั่นไง... มองลงไปจากหน้าต่าง ซาร่ายังคงใช้สายยางรดสนามหญ้าหน้าบ้านอยู่ เธอมีตัวตนชัดเจนที่สุด และผมเองก็ได้สัมผัสเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จะมาบอกว่าเป็นภาพหลอนได้อย่างไร เธอหันขึ้นมามองโดยบังเอิญและโบกมือส่งรอยยิ้มหวานมาให้

    เอาล่ะบิล...ผมคำรามในใจ ไม่ฉันก็นายต้องบ้ากันไปข้างหนึ่งให้รู้แล้วรู้รอด พอนายมาถึงนายจะเห็นว่าซาร่ามีตัวตนจริงๆ ฉันจะไม่ว่าอะไรถ้านายจะลองจับตัวเธอดูสักครั้ง

    ไม่นานนักเสียงรถยนต์คันหนึ่งก็วิ่งมาจอดหน้าบ้านและบีบแตรดังลั่น ตอนแรกผมคิดจะไปเปิดประตูให้ แต่เดี๋ยวก่อน....ผมคำรามในใจ....ซาร่าไปเปิดประตูให้ดีแล้ว เขาจะได้รู้ว่าเธอมีตัวตนจริงไม่ใช่เป็นเพียงภาพหลอนที่ผมสร้างขึ้นมา  มีภาพหลอนที่ไหนบ้างจะเปิดประตูได้ ผมแทบจะนึกถึงสีหน้าท่าทางประหลาดใจสุดขีดของเขา และถ้าเป็นเช่นนั้นผมอาจจะต่อยหน้าเขาสักครั้งเป็นการระบายอารมณ์

    นั่นไง....ผมแทบระงับเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ ซาร่าและบิลเดินพูดคุยกันเข้ามาในบ้านอย่างสนิทสนม นี่พวกเขาคงจะรวมหัวกันกลั่นแกล้งผมด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างเหมือนรายการตลกร้ายทางโทรทรรศน์ที่เห็นบ่อยๆ ประเภทล้อกันเล่นอะไรประมาณนั้น

    “สวัสดีเพื่อน...เป็นไง เตรียมเครื่องดื่มอาหารการกินหรือยัง”

    เขายิ้มร่าเข้าประตูห้องนั่งเล่นมาด้วยสีหน้าท่าทางไม่วิตกกังวลอะไรเล่นสักนิด ผิดแผกจากน้ำเสียงที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่อย่างไม่น่าเชื่อ

    “อาหาร....เครื่องดื่ม อะไร....”

    ผมเริ่มเป็นฝ่ายงง  บิลหัวเราะก่อนบอกว่า
    “ทำเป็นลืม.....ก็นายเป็นคนโทรไปชวนให้ฉันมาทานอาหารเที่ยงที่บ้านนายเมื่อครู่นี่เอง นี่จะมาไม้ไหนอีกล่ะนี่”

    ถ้าเป็นคนอื่นผมคงกระโดดชกปากไปแล้ว แต่นี่เป็นบิล คนซึ่งผมเชื่อมั่นมาตลอดว่าเขาไม่เคยพูดจาล้อเล่นเปะปะรุนแรงแบบนี้เลยสักครั้งเดียว และถ้าดูสีหน้าท่าทางของเขาตอนนี้ก็ยังเป็นคนแบบนั้นอย่างไม่มีข้อสงสัย

    เขามองหน้าผม พลางถามอย่างเป็นห่วง
    “นายสีหน้าไม่ดีเลย เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือไง”

    ผมหันไปมองซาร่าซึ่งมองผมด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน ก่อนคว้ามือของบิลตะปบลงบนแขนของซาร่า ก่อนพูดเสียงดังจนแทบเป็นเสียงตะโกน

    “นี่ไงซาร่า.... เห็นไหม เธอมีตัวตนจริงๆนายรู้สึกใช่ไหมว่าเป็นเธอจริงๆ เห็นไหม นายจับต้องเธอได้”

    “นายทำบ้าอะไร...”
    บิลพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ ก่อนปล่อยมือออกจากแขนซาร่า เพราะปกติเขาเป็นคนสุภาพให้เกียรติสุภาพสตรีอยู่แล้ว การกระทำของผมดูจะเป็นการผิดภาพพจน์ของเขาอยู่ค่อนข้างมาก

    “ฉันต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายถาม..นายเล่นบ้าอะไร...ก็ฉันเพิ่งโทรไปปรึกษานายเรื่องอาการป่วยของ..........”

    ผมเกือบจะหลุดปากออกไปจนหมด แต่ภาพที่คนทั้งสองจ้องมาอย่างวิตกกังวลทำให้ผมขนลุกเกรียวขึ้นมาทั้งตัว ไม่มีทางที่บิลจะเป็นคนแบบนั้น มันจะต้องมีคำอธิบายนรกอะไรสักอย่าง

    ผมเดินกุมหัวไปล้มลงนอนบนโซฟาอย่างคนหมดแรง ถ้าเป็นแบบนี้คนที่ป่วยเป็นโรคทางจิตจะต้องเป็นผมอย่างแน่นอน และผมคงบ้าขนาดหนักขนาดที่ว่าสับสนกับการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่ แล้วความจริงผมกับบิลคุยเรื่องอะไรกันแน่ โอ..พระเจ้าองค์ใด หรือซาตานตนไหนก็ได้ ช่วยผมที.....ความจริงมันคืออะไรกันแน่

    แล้วสติของผมก็ดับวูบลง

    ++++

    เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้งผมก็มองเห็นซาร่า

    ที่จริงเธอควรจะมองผมด้วยความห่วงใยตามแบบฉบับของคนรักกันแบบแนบแน่นสุดชีวิต แต่ตอนนี้สายตาของเธอเต็มไปด้วยแววตาประหลาดพิกลแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน สายตาซึ่งทำให้ผมรู้สึกใจหายชอบกล

    “บิลล่ะไปไหนแล้ว..”

    แสร้งถามหาเพื่อน เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศอันเยือกเย็น แต่เมื่อมองดูโดยรอบก็ไม่มีบิลอยู่เลย มีเพียงเราสองคนเท่านั้น กับบรรยากาศแปลกๆ  ในบ้านที่แสนคุ้นเคย และเก็บประวัติศาสตร์แห่งความรักสองเรามายาวนาน

    “บิลไม่มีตัวตนหรอกที่รัก”

    ซาร่าเอ่ยด้วยเสียงเศร้าๆ
    “เขาเป็นเพียงภาพหลอนเท่านั้น”

    “เอ้ย......”
    ผมร้องเสียงหลง กระโดดผลุงขึ้นมาจากโซฟา ด้วยความรู้สึกที่ว่ามันชักจะบ้าเกินไปแล้ว ภาพหลอนบ้าบอคอแตกอะไรกัน บิลกับผมรู้จักกันมานาน จู่ๆ จะมาบอกว่าเรื่องราวของเขาทั้งหมดเป็นภาพหลอนแบบนี้ใครจะรับได้ โลกทั้งโลกดูหมุนคว้างสับสนไปหมด สติของผมบอบบางเกินกว่าจะรับเองแบบนี้ได้

    “ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ได้โปรด.... ซาร่าพาผมไปหาหมอที”

    “คุณไม่ได้บ้าหรอกที่รัก”

    เสียงของซาร่าเย็นยะเยือกจนน่าตกใจ
    “ฉันต่างหากที่บ้า หมอบอกว่าฉันสร้างคุณขึ้นมาเพื่อชดเชยบาดแผลทางใจ คุณเป็นภาพหลอนระดับรุนแรงจนสามารถสร้างบิลขึ้นมาในจิตใจของคุณได้อีกคนหนึ่ง...ก็เท่านั้น ค่ะที่รัก”

    ผมปากอ้าตาค้างแบบคนสติแตก และทันใดนั้นก็รู้สึกแปลกๆที่มือ จึงยกขึ้นมาดู ภาพที่เห็นคือปลายนิ้วเริ่มจากหายไปในอากาศธาตุเหมือนถูกความว่างเปล่ากลืนกินอย่างช้า ๆ ตอนนั้นสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ผมเพิ่งรู้สึกว่าซาร่าไม่ได้สวยหยาดฟ้ามาดินอย่างที่เคยคิด สภาพบ้านก็ไม่ได้หรูหาเลิศเลออย่างที่คิด

    เสียงซาร่ายังคงดังมาให้ได้ยิน

    “หมอให้ยามากินรักษาอาการภาพหลอน แต่ฉันคิดดูแล้วไม่กินดีกว่า..บังเอิญฉันคิดว่ายังมีชายหนุ่มที่ดีกว่าคุณกำลังก้าวเข้ามาในชีวิต ตวามรักใหม่ๆ ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นนะคะ  เราอยู่กันมานานแล้วที่รัก ถึงเวลาที่จะจากกันแล้ว ”

    ก่อนที่จะหายไปจนหมด ผมเห็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีมากคนหนึ่งก้าวเท้าอย่างสง่างามออกมาจากความว่างเปล่า ซึ่งซาร่าก็หันไปอ้าวงแขน  ยิ้มรับอย่างดีใจ ด้วยสีหน้าท่าทางที่ใช้กับผมมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว

    ประวัติศาสตร์ของผมคือความว่างเปล่าที่บิดเบี้ยวเท่านั้นเอง ซาร่าที่รัก ทำกันได้ลงคอ

    ++++++++

    จากคุณ : Psycho man - [ 23 พ.ย. 49 04:17:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom