ใครเคยจำเหตุการณ์ตายสยองเมื่อหลายปีก่อนได้บ้าง
เรื่องมีอยู่ว่า ที่สี่แยกหรือสามแยกไฟแดงตรงถนนเพชรบุรี ตรงนั้นมีสะพานเรียกว่าสะพานประตูน้ำหรือเปล่า อันนี้นัทตี้ก็ไม่แน่ใจนัก(คืออย่างที่รู้กันว่านัทตี้อยู่ต่างประเทศ และเวลากลับไทยไปก็ไม่ค่อยได้อยู่กรุงเทพฯ หรือเข้าเมืองนัก จำชื่อมันไม่ค่อยได้แล้ว)
ขณะที่รถติดไฟแดงเป็นแถวยาว และอีกด้านหนึ่งก็ติดเพราะมีรถจากใต้สะพานมาอีกด้วย เอาง่าย ๆ เรียกว่าติดเงียบไม่ขยับกันทั้งข้างล่างข้างบน
ระหว่างที่รถทั้งหลายกำลังติดแหง็กอยู่นั้น มีรถบรรทุกแก๊สวิ่งมาบนสะพานอีกด้านหนึ่ง แล้วคนขับเกิดหลับใน พารถไปทิ่มกับราวสะพาน ทำให้แก๊สโชยออกมาจากถังหึ่งไปหมดและระเบิด
คนในรถบางคนที่ความรู้สึกเร็วหน่อยก็เปิดประตูรถวิ่งหนีออกไปตามถนน บ้างก็ยังช็อคทำอะไรไม่ถูกนั่งนิ่งในรถ
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นสุสานรวมไปในพริบตา
ไฟจากแก๊สพุ่งออกมาคลอกคนในรถและนอกรถทุกคันในบริเวณนั้น ทำให้คนอื่นพลอยตายกันไปอีกด้วยเป็นร้อยศพ
เรื่องนี้ยังพอจำกันได้ใช่ไหม? เอาล่ะ..ที่นี่คือจุดที่เกิดเหตุที่มาของเรื่องไอ้เด็กผีที่จะเล่านี้
ในปีหนึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปได้ประมาณสองหรือสามปี
นัทตี้ไปเมืองไทย ตัวเองถึงแม้จะไม่ค่อยชินทางในกรุงเทพฯ เหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องกลับมืดและไม่อยากเสี่ยงจึงตัดสินใจขับรถไป
จากถนนเส้นนั้นเข้าถนนเส้นนี้ วนไปวนมา เข้าโน่นออกนี่ ผิดไปผิดมาอยู่หลายรอบ จะเลี้ยวเขาก็บังคับเลี้ยวอะไรแบบนี้จนเหนื่อยใจ ต้องโทรศัพท์ถามทางน้องสาวทางบ้านเป็นระยะ ๆ แต่ก็ตอบไม่ได้ว่าขณะนี้ตัวเองอยู่ตรงไหน นาฬิกาก็ไม่ได้ดูว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว
ขับมาถึงถนนเส้นหนึ่งรถติดไฟแดงอยู่ข้างหน้า เหลือบไปเห็นป้ายว่าเพชรบุรี คราวนี้ถึงได้อ๋อ โทรไปหาน้อง น้องบอกว่าให้ขึ้นทางด่วนกลับบ้านมา ตรงพระรามเก้าอะไรเนี่ยมีทางด่วน นัทตี้ไม่รู้จักหรอกนะว่าตรงไหน แต่ก็วางหูไป กะว่าเดี๋ยวขับไปเรื่อย ๆ ถ้าเจอทางขึ้นทางด่วนก็จะลองขึ้นดู ถ้าเขาไม่ให้ขึ้นก็คงต้องเสี่ยงไปหาทางขึ้นเอาตรงพัฒนาการ
ระหว่างที่รถติดอยู่นั่นเอง เนื่องจากว่าตัวเองเป็นคนขี้ร้อนจึงเปิดแอร์อย่างเย็นสุด กระจกในรถสามด้านก็กลายเป็นฝ้าเพราะความเย็น รถก็ยังติดไฟแดงอยู่
อยู่ ๆ ใจก็แว๊บคิดถึงเรื่องอุบัติเหตุรถแก๊สขึ้นมาได้อย่างไรไม่รู้ คิดว่าน่าสงสารคนตายนะ...คิด ๆ ไปจนกระทั่งจบลงที่คำว่าวิญญาณเร่ร่อน
หูตัวเองก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกสองสามครั้ง สายตามองไปที่เบาะข้างตัว ใช้หางตาตวัดเร็ว ๆ มองไปทางด้านหลังรถ(กระบะ นั่งหน้าได้สี่ หลังติดแค็บ)หวาด ๆ เหมือนกัน แต่พยายามคิดว่าอาจจะเป็นเสียงเพลงในรถ หูแว่ว หูฝาด ไป
สักพักได้ยินเสียงเคาะอีกแล้วทางด้านข้างตัว ชักใจไม่ดีแต่ต้องหันสายตาไปโดยอัตโนมัติ ยังไม่เห็นอะไรเพราะฝ้าที่กระจกด้านข้างก็มี ค่อย ๆ เอามือซ้ายเช็ดปาดๆ ออกดู อย่างไม่แน่ใจ
แต่สิ่งที่ปรากฎแก่สายตาขณะนั้น ทำให้นัทตี้ถึงกับช็อคนั่งตัวแข็งทื่อ พยายามจะสวดมนต์แต่กลับนึกและสวดไม่ออก ได้แต่นั่งจ้องเหมือนถูกสะกดจิตจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เจอเรื่องน่ากลัวแบบนี้ ซวยจริง ๆ นะ
นัทตี้เห็นมันจะจะ ถึงจะไม่ค่อยชัดนักแต่ยืนยันได้ว่าคล้ายใบหน้าคนแน่นอน แต่กลับมีอยู่เพียงแค่ครึ่งเดียวและรุ่งริ่งเว้า ๆ แหว่ง ๆ เหมือนรูปหน้าในแผ่นกระดาษที่ถูกฉีก จมูกแฟบแบนเหมือนถูกใครตีมา ริมฝีปากโค้งขึ้นเหมือนแสยะยิ้มให้ น่ากลัวมาก ๆ
สักพักใบหน้านั้นก็ค่อย ๆ จางหายไป แต่กลับมีเสียงเหมือนเคาะกระจกดังขึ้นมาแทนที่
เป็นไงเป็นกันวะ..นัทตี้เอื้อมมือกดปุ่มกระจกไฟฟ้าข้างตัวลงอย่างรวดเร็ว
"พวงมาลัยไหมคร๊าบ"
นี่แหละค่ะคือเรื่องทั้งหมดของไอ้เด็กผีที่สัญญาว่าจะเล่าให้ฟัง เหอ เหอ
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 49 13:51:52
จากคุณ :
NATTI นัทตี้
- [
23 พ.ย. 49 13:39:55
]