นิ้วเรียวยาวกดปุ่มรีโมทกระแทกกระทั้นตามแรงอารมณ์ของคนเป็นเจ้าของ ปากเม้มแน่นสะกดความพลุ่งพล่านภายในร่างกาย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ดวงตาสีน้ำตาเข้มเป็นประกายวาววับจับจ้องโทรทัศน์เขม็ง แต่ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าภาพในจอแก้วเป็นรายการอะไร ในเมื่อตอนนี้เธอสนใจสาเหตุของอารมณ์โมโหของตัวเองมากกว่า
คนที่เปิดประตูบ้านเดินตรงมายังห้องนั่งเล่น เห็นร่างสมส่วนบนโซฟาตัวใหญ่นุ่มนั่งหน้าบูดบึ้ง แถมกำลังจะทำลายเจ้าโทรทัศน์จอแบนด้วยการรัวรีโมทไม่ยั้ง
พี่พิมไปโมโหใครมา ถึงได้มาลงกับทีวีอย่างนี้ล่ะพี่ สาวผมหยักศกร้องถาม ตกใจว่าอะไรทำให้ญาติผู้พี่หงุดหงิดได้มากขนาดนี้
ตาเรียวสวยตวัดไปทางต้นเสียง โยนของในมือลงบนโซฟาเต็มแรง คนมองกลืนน้ำลายหวาดๆ กลัวว่าคืนนี้จะไม่มีอะไรดูเพราะการทำลายล้างอันแสนน่ากลัวของพิมพิศา
หงุดหงิด...โมโห...อยากฆ่าคน! เค้นเสียงตอบออกมาอย่างกรุ่นโกรธ
ใครกันน้า...ทำให้พี่พิมโกรธขนาดนี้ คะนึงนิจเดินเข้ามานั่งลงข้างพิมพิศา วางกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะกระจก
ความจริงไม่ต้องถามก็รู้ว่า ใคร ทำให้คนเป็นพี่โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้ขนาดนี้ แต่ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าสาเหตุของอาการ ของขึ้น ครั้งนี้คืออะไร
ถามอย่างกับไม่รู้ ในโลกมีไม่กี่คนหรอกที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้ได้ ตอบเสียงห้วนจัด หน้างอง้ำตามประสาคนไม่สบอารมณ์
พี่วัตทำอะไรให้คะ เอ่ยชื่อคู่กรณีชัดเจนว่ารู้แล้วว่าคือใคร ตะล่อมถามเรื่อยๆ เปิดโอกาสให้พี่สาวร่วมตระกูลระบายออกมา
เพราะไม่ทำอะไรนะสิถึงได้โมโห แค่นเสียงขึ้นปลายจมูก ทิ้งกายบนผนักพิงอย่างแรง ยกมือกอดอกเหยียดริมฝีปากน้อยๆ
วันนี้วันเกิดพี่วัต เอ่ยชื่อธนวัตแฟนหนุ่มออกมาเหมือนไม่เต็มใจพูดถึง พี่อุตส่าห์ฝึกทำบลูเบอรี่ชีสเค้กที่พี่วัตชอบกิน ทำของขวัญเองกับมือ แต่พอโทรชวนให้ออกมากินข้าวด้วยกันเย็นนี้ เขากลับบอกว่าวันนี้ขออยู่คนเดียวไว้เจอกันวันหลังแล้วกัน ยิ่งเล่าเสียงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงการสนทนาผ่านโทรศัพท์ก่อนหน้านี้
วันนี้พี่อยากอยู่คนเดียว อยากนั่งรถเล่นไปเรื่อยๆ มากกว่า เอาเป็นว่าเจอกันวันอื่นแล้วกันนะพิม ปลายสายบอกด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
แต่วันนี้วันเกิดพี่วัต พิมอยากเลี้ยงข้าวพี่นี่นา พิมพิศาพยายามกล่อมให้เปลี่ยนใจ ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเตรียมอะไรไว้บ้าง อยากให้ประหลาดเล่นๆ แต่ถ้าเขาไม่มาทุกอย่างก็ล่มไม่เป็นท่า จนเริ่มลังเลว่าจะบอกดีหรือเปล่า
ก็แค่วันธรรมดาวันนึงเท่านั้นเองพิม อย่าไปสนใจมันมากเลย ชายหนุ่มไม่ใส่ใจวันพิเศษของตัวเอง ความจริงถ้าเธอไม่เตือนคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าวันนี้วันอะไร
ที่พิมสนใจเพราะเป็นวันเกิดพี่วัตนะ มาเถอะนะคะ รู้สึกร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าอะไรเริ่มไม่ได้ดั่งใจ
ขอบใจพิมมาก แต่พี่ยังยืนยันคำเดิม นัดเจอกันวันอื่นเถอะพิม แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่ขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ ธนวัตตัดบทสนทนาตามแบบฉบับของเขา อ่อนโยนแต่นิ่ง...เรียบ...และเย็นชา...ไม่เห็นใจคนฟังเลยสักนิด
คนฝันสลายจ้องโทรศัพท์ตาปริบๆ งงงวยปนผิดหวัง สลับกับมองถาดบลูเบอรี่ชีสเค้กที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ก่อนกรี๊ดออกมาอย่างไม่มีเสียง โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง หยิบถาดเค้กใส่ตู้เย็นไม่สนใจมันอีกต่อไป
ไอ้พี่วัตบ้า อย่าให้เจอหน้านะจะเอาเค้กยีหัวให้เละเลย เชอะ! ก็แค่วันธรรมดาวันนึงเท่านั้นเองพิม อย่าไปสนใจมันมากเลย ประโยคหลังดัดเสียงเลียนแบบเจ้าของคำพูดด้วยความหมั่นไส้
คนอะไรไม่ได้ดั่งใจเลย ทำแผนพี่ล้มระเนระนาด เค้กที่ฝึกทำมาเกือบเดือนเป็นม่ายสนิทเพราะเจ้าของวันเกิดอยากอยู่คนเดียว พิมพิศาแค่นเสียงหนัก
รวมไปถึงเจ้าหมอนใบใหญ่ที่พี่พิมนั่งเย็บนั่งปักอยู่หลายวันด้วยหรือเปล่าคะ
คะนึงนิจเห็นความตั้งใจของคนเป็นพี่ พยายามทำหมอนใบโตด้วยมือของตัวเอง รวมไปถึงปลอกหมอนสีฟ้าครามสีโปรดของชายหนุ่มซึ่งปักตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษ ที.ดับเบิ้ลยู (T.W) จากชื่อจริงของเขาไว้บนผืนผ้า ด้วยเหตุผลที่ว่าธนวัตอยากได้หมอนใบใหญ่ๆ นุ่มๆ เอาไว้หนุนนอนตอนกลับจากทำงานเหนื่อยๆ คงสบายดี
เธอค่อนข้างชื่นชมในความตั้งใจของคนไม่สนใจงานฝีมืออย่างพิมพิศา ถึงจะทำงานบ้าน ทำอาหารเป็นบ้างแต่เรื่องละเอียดอ่อนเช่นทำขนม...ปักผ้า...ไม่ใช่เรื่องที่พิมพิศาชำนาญนัก แต่เพื่อคนรักแล้วกลับลงมือทำให้ด้วยความเต็มใจ
ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ใส่ใจทุกรายละเอียดได้ดีเยี่ยม แต่คนรับชอบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ด้วยนิสัยนิ่งๆ เงียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกมากนัก จนพิมพิศาน้อยอกน้อยใจไปเสียหลายครั้งหลายหน แต่ไม่ได้ถือสาอะไรเข้าใจนิสัยข้อนี้เป็นอย่างดี
ใช่ เบื่อชะมัด ไม่ใช่วันเกิดพี่แท้ๆ ทำไมต้องทำอะไรให้ด้วย วันหลังไม่สนใจแล้ว ร้องออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
คะนึงนิจไม่เชื่อถือสักนิดในคำพูดที่ได้ยิน บ่นประโยคนี้ทุกปีแต่ก็ทำให้ทุกครั้ง
ปีที่แล้วก็พูดแบบนี้นะคะ
คำพูดของญาติผู้น้องเล่นเอาคนฟังทำหน้าไม่ถูกจะเถียงก็ไม่ได้ ที่พูดมาก็ถูกต้องทุกอย่าง จึงบอกเหตุผลที่แท้จริงของความตั้งใจครั้งนี้
พี่เห็นว่าพี่วัตชอบลืมวันเกิดตัวเอง พี่เลยต้องคอยเตือนไง แถมปีนี้อายุสามสิบแล้วพี่อยากทำอะไรให้เป็นพิเศษ แต่เขาก็ไม่สนใจ เบื่อๆ ๆ ๆ น่ากลัวจะเจออาถรรพณ์ปีที่เจ็ด ที่เขาว่ากันว่าคบกันนานถึงปีนี้จะต้องเลิกรากันไป
สงสัยต้องเลิกกันจริงๆ ก็ได้ปลายประโยคเอ่ยแผ่วๆ แอบกลัวอาถรรพณ์ซึ่งหลายคนเคยบอกเอาไว้
ทั้งสองคบกันมานานซึ่งกำลังจะเข้าปีที่เจ็ด จนใครหลายคนนับถือในความมั่นคงของคนทั้งสอง พิมพิศารู้จักกับธนวัตเนื่องจากไปฝึกงานในบริษัทที่ชายหนุ่มทำงานอยู่ ได้พบได้พูดคุยกันทุกวันจนเกิดความสนิทสนม เพราะความสดใสและรอยยิ้มของพิมพิศาจึงมัดใจคนขรึมๆ อย่างธนวัตได้
ก่อนคบกันเธอได้เรียนรู้นิสัยของเขาเป็นอย่างดี ทั้งข้อดีและข้อเสียรวมไปถึงนิสัยไม่สนใจเรื่องจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ จนเหมือนเป็นคนไม่ละเอียดอ่อน
พี่เป็นคนขี้ลืม ถ้าลืมวันสำคัญไปบ้าง อย่างเช่นวันเกิดพิม...วันครบรอบที่คบกัน...หรือเทศกาลต่างๆ ไปอย่าโกรธอย่าถือสากันนะ เขาบอกอย่างเก้อเขินด้วยประโยคที่ตรงแสนตรง แทนที่จะโกรธเธอกลับมองว่าเป็นมุมน่ารักของชายหนุ่มซึ่งหาดูได้ยาก
พิมก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากหรอกค่ะ แอบบอกความลับให้นะค่ะ ว่าพิมไม่ชอบวันเกิดตัวเองเท่าไหร่ มันทำให้รู้สึกต้องแก่ขึ้นอีกปีเท่านั้นเอง ถ้าพี่วัตขี้ลืมเดี๋ยวพิมคอยเตือนก็ได้ เทศกาลต่างๆ พิมจะบอกล่วงหน้าว่าอยากได้อะไรแล้วกันดีไหมคะ
นี่แหละเสน่ห์ของพิมพิศาคือการยอมรับตัวตนของธนวัตได้ ถึงเวลาที่ผ่านมาจะทะเลาะกันบ้างแต่ก็ทำให้รักกันมากขึ้นจนคบกันมานาน
แต่กระนั้นถึงจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอถูกละเลยมากจนเกินพอดีก็ทำให้น้อยใจบ้าง หรือว่ามีเพียงเธอเพียงฝ่ายเดียวที่ใส่ใจเขา
ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะพี่พิม คะนึงนิจถามเพื่อให้ลูกพี่ลูกน้องสาวพูดความในใจออกมาก ไม่อยากให้เก็บไปคิดมาก ถึงเป็นแค่ญาติแต่เธอรักพิมพิศาเหมือนพี่สาวแท้ๆ ยิ่งได้มาอยู่บ้านเดียวกัน เพราะบ้านของพิมพิศาอยู่ต่างจังหวัดเมื่อเข้ามาศึกษาและทำงานในกรุงเทพฯ แม่ของเธอจึงขอให้มาอยู่บ้านนี้ด้วยกัน
พี่แค่รู้สึกว่าระยะหลังๆ พี่วัตเขาสนใจพี่น้อยกว่าแต่ก่อน ชอบอยู่คนเดียวหรือไม่ก็ธุระเยอะเหลือเกิน จนอดคิดไม่ได้ว่าพี่อาจจะวุ่นวายมากเกินไปจนพี่วัตเบื่อรำคาญ ระบายสิ่งอัดอั้นออกมาให้ฟัง อารมณ์โกรธเกรี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นหวาดหวั่น คิดไม่ออกเลยว่าชีวิตที่ไม่มีธนวัตจะเป็นอย่างไร
คะนึงนิจเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สาวถึงโมโหธนวัตมาก การบอกว่า อยากอยู่คนเดียว มันเสมือนเป็นการบอกว่า เขาอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องมีพิมพิศา
มันทำให้หัวใจของคนฟังสั่นไหว กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนมีการเปลี่ยนแปลง เพราะสาวเก่งอย่างพิมพิศาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่มีเขา!
พี่พิมคิดมากไปแล้ว พี่วัตไม่รำคาญพี่หรอกค่ะ สงสัยจะเป็นอารมณ์ผู้ชาย...อารมณ์อยากมีโลกของตัวเอง ไม่ได้รำคาญอะไรพี่สาวสุดสวยของแคทหรอก คะนึงนิจวางศีรษะบนไหล่ของพี่สาว ให้เหตุผลเป็นการปลอบใจ
พิมพิศาถอนหายใจเสียงหนัก พยายามข่มใจให้เลิกคิด...เลิกกังวล...และเลิกโมโหกับการกระทำของธนวัตในวันนี้ อย่างว่าเธอโกรธเขาไม่เคยข้ามคืนสักที ยอมใจอ่อนให้จนได้ ทั้งๆ ที่เขายังไม่เริ่มต้นง้อเลยสักนิด
เฮ้อ...แล้วผู้ชายอย่างเจ้าชนแฟนแคทล่ะ เป็นบ้างหรือเปล่า ไอ้อารมณ์อยากสร้างโลกส่วนตัวอะไรเนี่ย พี่เห็นเทียวไปเทียวมาทุกวัน ถามออกมาด้วยความอยากรู้ว่าผู้ชายคนอื่นเป็นบ้างหรือเปล่า ในโลกของเธอไม่มีเพื่อนผู้ชายมากนัก จึงไม่ค่อยรู้จักตัวตนของอีกเพศเท่าไร
ประจำเลยค่ะรายนั้น แต่ตอนนี้คงอยากชดเชยเวลาสองปีที่ไปอยู่อเมริกามั้งคะ เลยมาให้เห็นให้เบื่อหน้ากับไปข้างเลย อีกอย่างเขากำลังหางานทำเลยยังว่างๆ อยู่ พอได้ทำงานมีอะไรต้องคิดมากขึ้นก็คงเป็นเหมือนพี่วัต คะนึงนิจหน้าสดใสขึ้นกว่าเดิมเมื่อเอ่ยถึงคนรัก อธิบายเสียละเอียดยิบจนคนฟังคล้อยตาม คลายความกังวลลงไปได้เยอะ
จ้า พูดถึงชนหน่อยไม่ได้หน้าตาสดใสเชียว...หมั่นไส้ คำพูดของน้องสาวสร้างรอยยิ้มจางๆ บนปากอิ่มสวยได้ ยกมือขึ้นคีบจมูกโด่งสวย เขย่าเบาๆ อย่างเอ็นดู
กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำเถอะ แล้วเดี๋ยวลงมากินเค้กด้วยกัน กินให้หมดถาดเลย
ไหนๆ พี่วัตไม่สนใจแล้ว กินเองก็ได้...จะได้รู้รสชาติว่าเป็นอย่างไร ทำของโปรดให้แล้วไม่สนใจเอง จะกินเยอะๆ ให้อิจฉาเลย...พิมพิศาหมายมาดในใจ
ค่ะ คะนึงนิจรับคำ พี่พิมรอแคทแป๊บนึงนะ ดูทีวีรอก่อนก็ได้ แต่อย่าดูเหมือนเมื่อกี้นะคะ แคทกลัวมันระเบิด พูดเสร็จก็เผ่นแผล็วออกมาจากห้องนั่งเล่น แอบชะโงกมองกิริยาของพิมพิศาเห็นตาเฉี่ยวสวยอย่างสาวมั่นใจยังคงสลดๆไม่สดใสเหมือนท่าทางที่แสดงออก จึงเริ่มใช้ความคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนเป็นพี่กลับมาสดใสเหมือนดั่งเดิม
ก้าวเท้าเดินพลางใช้ความคิดไปยังห้องครัวหลักของบ้านตรงไปเปิดตู้เย็น พอเห็นว่ามีบลูเบอรี่ชีสเค้กชิ้นสวยขนาดสองปอนด์วางอยู่ตรงหน้า เค้กสีม่วงสวยเป็นประกายสะท้อนกับแสงไฟมีครีมสีขาวเขียนไว้ตรงกลางด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ ถึงจะไม่สวยงามเหมือนที่เห็นตามร้านเบเกอรี่ แต่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคนทำ
Happy Birthday My Dear
อดเสียดายไม่ได้ ขนาดเธอเห็นแล้วยังปลื้มจนอดยิ้มออกมาไม่ได้ ถ้าเจ้าของวันเกิดมาเห็นคงดีกว่านี้
...อยากรู้จังว่าพี่วัตมาเห็นแล้วจะทำหน้าอย่างไร...
(มีต่อ)
จากคุณ :
ปุณณัตถ์
- [
27 พ.ย. 49 21:26:47
]