นิทานดอยนรก 4-1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4877517/W4877517.html
นิทานดอยนรก 4-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4884691/W4884691.html
นิทานดอยนรก 4-3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4894731/W4894731.html
นิทานดอยนรก 4-4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4903902/W4903902.html
นิทานดอยนรก 4-5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4909903/W4909903.html
-----------------------------------------------------------
- ตอน ยิ้มแย้มออกเดินทาง
-----------------------------------------------------------
พอรุ่งเช้า เจ้าศิษย์ พระฤาษี
ปรนนิบัติ พัดวี อยู่ใกล้ใกล้
วันนี้ ศิษย์จะลา คลาไคล
ศิษย์อยากให้ อาจารย์ช่วย อำนวยพร
.................................................
โอ้เจ้าศิษย์ มุ่งมั่น แน่วแน่
จงอย่าแพ้ แก่ชะตา ฟังข้าสอน
รักษาตัว กลัวภัย ไม่ม้วยมรณ์
อย่าใจร้อน หุนหัน จะบรรลัย
อันมหา มนตรา วราฤทธิ์
อย่าได้ใช้ ผิดผิด ติดนิสัย
มันจะย้อน เข้าตัว กลัวเป็นภัย
ดั่งจุดไฟ ให้เผา ตัวเราเอง
มนต์ต้องห้าม ตามตำรา อย่าได้ใช้
แค่รู้ไว้ อย่าได้ ใช้ข่มเหง
จงดูใจ ให้ชัด ครัดเคร่ง
และกลัวเกรง ดวงจิต ที่บิดเบือน
อันสตรี หากจะหลง ก็จงคิด
หากหลงผิด จิตคล้อย ลอยเลื่อน
เมื่อหลงใหล หัวใจ ใครจะเตือน
เลื่อนเปื้อน กว่าจะหาย ก็สายไป
ข้าวิเวก เสกของ ถึงเจ็ดวัน
จงใช้มัน ดูแล แก้ไข
ผอบน้อย เจ้าจง รับไว้
ยามอยู่ไกล เปิดผอบ พบสิ่งดี
นี่คทา มหา มนตราวุธ
ฤทธิรุทร ดุจคทา โกสีย์
ฤทธิ์เวทย์มน ตรานั้น พันทวี
เจ้าจะมี ฤทธี ทวีคูณ
...................................
ศิษย์พนม ก้มกราบ ท่านดุสิต
ได้ของดี ชีวิต คงไม่สูญ
อาจารย์ข้า สุดประเสริฐ ข้าเทิดทูน
ท่านเกื้อกูล พูนสุข ทุกเวลา
ที่ท่านพร่ำ ย้ำสอน จะจำไว้
ศิษย์ขอลา คลาไคล ไปก่อนหนา
แล้วมุ่งออก นอกเมือง จนลับตา
มาถึงท่า คงคา ริมวารี
มองทางน้ำ ทางลม สมใจนัก
หลับตานอน ผ่อนพัก อยู่กับที่
เด็ดใบหญ้า ห้าใบ ล้วนใบดี
ทิ้งไปสี่ เหลือหนึ่ง ซึ่งถูกใจ
แล้วร่ายเวท มนตรา เป่าคาถา
แล้วปล่อยหญ้า ลิ่วลง ตรงน้ำไหล
หญ้าหายวับ กลับเป็น สำเภาใหญ่
เจ้ายิ้มแย้ม ขึ้นไป อยู่ในเรือ
ใบสำเภา ชักลง อยู่ตรงหน้า
น้ำลมพา คลาไคล ช่างง่ายเหลือ
แต่หนทาง ช่างไกล แสนน่าเบื่อ
ไม่ทำเพื่อ เพื่อนไซร้ จะไม่ทน
.........................................
เรือลอยคว้าง กลางทะเล ได้หลายวัน
ยิ้มแย้มหมั่น สาธยาย ท่องบ่น
โอ้ทางไกล ใจเหงา เปล่าสกนธ์
นึกเวียนวน เหตุการณ์ที่ผ่านมา
มองดูปลา ปลาว่าย เป็นหมู่หมู่
ดูตัวกู เปลี่ยวเปล่า เศร้าหนักหนา
เห็นโลมา บอกรัก กับโลมา
โอ้ตัวข้า จะเย้าหยอก บอกกับใคร
เห็นเงือกสาว ขาวสวย บนโขดหิน
บรรเลงพิณ เพลงหวาน ขานไข
เจ้ามีหาง อย่างปลา ทำแกว่งไกว
สะบัดไป ตามน้ำ ร่ำวาริน
ข้ายิ้มให้ ทำอาย เหมือนขายหน้า
กระโดดลง คงคา จากผาหิน
แม้นหางปลา แต่ว่า ยุพาพิน
ดั่งเจ้าหญิง แห่งสินธุ์ ยุพินพา
เห็นแมวน้ำ คู่ประกบ ตบมือเล่น
น้ำกระเซ็น ซู่ซู่ หมู่มัจฉา
นั่นปลาวาฬ กาโย มโหฬาร์
เล่นกับปลา น้อยใหญ่ ช่างใจดี
ถ้าสองเพื่อน เหมือนปลา มหาสมุทร
กูคงไม่ มาหยุด อยู่ที่นี่
คนหนอคน ไม่รัก สามัคคี
อายมัจฉา วารี ที่รักกัน
..............................................
นึกถึงตอน สาบาน ในกาลก่อน
นึกถึงตอน เคยสนุก สุขสันต์
เราทั้งสาม แน่นแฟ้น ผูกพัน
นึกนึก ไหวหวั่น น้ำตาคลอ
นึกถึงแม่ มารศรี ที่รักลูก
ถึงผิดถูก ก็อภัย รักใคร่หนอ
จะแทนคุณ เท่าไร ก็ไม่พอ
แม่คงรอ ลูกนี้ ทุกวี่วัน
นึกถึงพระ ฤาษี ที่สั่งสอน
นึกถึงตอน อนุญาต ไม่คาดฝัน
ไปวิเวก เสกของ ไว้ป้องกัน
พระคุณนั้น ล้นพ้น คณนา
พาลนึกถึง ผอบน้อย อาจารย์ให้
ท่านว่าไว้ ยามไกล ให้เปิดหนา
ก็ลองเปิด ทันใด ไม่ลีลา
พอเปิดฝา ควันพุ่ง ฟุ้งไป
.........................................
บังเกิดเป็น สุภาวดี ศรีโสภา
นวลนาง กัลยา สวยใส
หน้าตา น่ารัก จับใจ
นางใน ผอบน้อย ทำเอียงอาย
รูปร่าง อรชร อ้อนแอ้น
สุดแสน งามเลิศ เฉิดฉาย
ผุดผ่อง ดั่งทอง ทากาย
เดือนหงาย ยังมิเท่า เจ้านวลนาง
อ้ำอึ้ง ตกตะลึง พึงพิศ
ให้ฟุ้งจิต ฤทธิ์กรรม เคยทำสร้าง
อดีตภพ อันเหมือน จะเลือนลาง
ก็เปิดทาง สร้างเวร สืบไป
(โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ)
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 49 17:43:36
จากคุณ :
ย.ยิ้มแย้ม
- [
29 พ.ย. 49 06:01:57
]