ฉันเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า นึกแล้วว่ามันจะเกิดขึ้นสักวัน แต่มันมาถึงเร็วเหลือเกิน เหมือนเพิ่งนึกอยู่เมื่อวานนี้เอง พ่อมันได้แต่น้ำตาไหลพรากๆแทบจะขาดใจ หันจ้องหน้าแม่มันด้วยความผิดหวังระคนด้วยความแค้นและคำถามมากมาย แม่มันเงียบเสียงไปแล้วลุกเดินไปหยุดหน้าตู้แช่เย็นตู้ใหญ่ ยกมือที่สั่นระริกขึ้นจับที่เปิด ฉันมองตามกิริยานั้น แม่มันกระชากประตูตู้ให้เปิดอ้า ตาที่น้ำตาคลอหน่วยตาแดงจับนิ่งไปที่ถุงเก็บน้ำนมสีขาวขุ่นที่เรียงรายแน่นในชั้นบนสุดของตู้เป็นหลายสิบถุง ปากถุงที่ปิดสนิทมีวันที่เขียนบอกวันที่บีบเก็บเอาไว้ แม่มันยกมือขึ้นจับขอบชั้นก้มหน้าสักครู่ น้ำตาร่วงหล่นพราวลงกระแทกกระจายตัวบนพื้นบ้าน แล้วแม่มันก็ร้องโหยหวนพร้อมกับปัดมือวาดเอาถุงนมพวกนั้นหล่นเกลื่อนพื้น.
............................................................
แม่มันจะทำตามเข็มนาฬิกา สี่โมงเช้าจับอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม แต่งเนื้อแต่งตัวให้ใหม่ เอาน้ำเข้าไปต้มด้วยเตาดิจิตอลแล้วเอาออกมาแช่ถุงนม เมื่อถึงเวลารอให้นมอุ่นลงได้ที่ก็เทใส่ขวดนมขนาดเล็กไม่กี่ออนซ์ หัวจุกเป็นยางอย่างดีนิ่มเหมือนนมแม่ ลูกวัยห้าเดือนเศษนอนเล่นกลิ้งอยู่บนที่นอนบนพื้นบ้าน ฉันไม่รู้ว่าน้ำนมแม่มันยังไหลเยอะเหมือนเดิมหรือลดลงแล้ว ทุกครั้งที่เปิดตู้แช่เย็นก็ยังเห็นถุงน้ำนมเรียงกันแน่นบนนั้น ฉันไม่นึกอยากจะสนใจแตะต้องเลย ดูมันน่าสยองอย่างไรไม่รู้ สมัยนี้เขาเก็บนมแม่กันแบบนี้หรือ? พาลให้ไม่อยากเปิดตู้หาของกินอีกเลย ลูกมันเล่นหัวอยู่กับฉัน พูดอ้อแอ้ๆ ตามประสาเด็กอ่อนด้วยภาษาที่ฉันไม่เข้าใจแต่รู้ว่าเขาอารมณ์ดี อยากจะเล่นด้วย เวลาเขาส่งเสียงแบบนี้มันเหมือนเขาอยากจะโตคุยกับเราได้ไวๆ ฉันอยากจะแปลความหมายของมันออกเหลือเกิน เขาเองก็อาจจะเหมือนกันที่ยังไม่เข้าใจความหมายที่ผู้ใหญ่พูดกับเขา แต่อารมณ์ในน้ำเสียงก็คงจะพอสื่อกันได้ ลูกชอบที่ฉันคุยกับเขา ฉันพูดเรื่องข่าวในทีวี ถามเขาว่าไปไหนมาเมื่อวาน ไปเจอใครมาบ้างและสอนว่าต้องเป็นเด็กดีกินเยอะๆโตไวๆนะ เราคุยกันแบบนี้ได้นานสองนานเป็นครึ่งชั่วโมง ฉันพูดกับเขาด้วยภาษาพูดปกติไม่ทำเสียงง้องแง้งๆหลอกเด็กเหมือนคนอื่น ลูกยิ้ม หัวเราะและส่งเสียงตอบการคุยของฉันเสมอ
แม่มันเข้ามาหยุดการสนทนาที่ไม่รู้เรื่องของฉันกับลูก วางอุปกรณ์การป้อนรอบๆตัว ฉันถอยมานั่งดูเขาใกล้ๆ ฉันหยุดแตะต้องเกี่ยวข้องกับพวกเขามาสักพักใหญ่ๆแล้วเพราะเหตุบางอย่าง พวกเขาอาจคิดว่าเพราะเสียงเด็กร้องรบกวนนี่หรือเปล่าแต่ไม่น่าใช่เพราะฉันรักเด็กๆและเข้ากับเด็กๆได้ดีกว่าผู้ใหญ่เสียอีก แม่มันยิ้มมองหน้าฉันตามประสาคนยิ้มง่าย เป็นมิตร นั่งลงขัดสมาธิ แล้วพูดกับลูกว่า
ถึงเวลารบกันอีกแล้วนะ ดูสิ,แม่มีอะไรมาให้หนูลองกิน
พอจับลูกเข้าเอนตัวนอนในอ้อมแขนซ้าย ลูกก็เริ่มร้องเสียงแบบนั้นออกมาแล้ว แม่มันบอกลูกว่า
ต้องกินนะถึงเวลาแล้ว นี่มันกี่โมงเข้าไปแล้ว แม่รักหนูนะ
แม่มันหยิบขวดนมเล็กอ้วนนั่นแหย่ที่ปากลูกที่อ้าร้องจ้าหลับตาปี๋ไม่มีน้ำตาสักหยด แล้วก็เอานิ้วก้อยมือข้างนั้นเขี่ยๆที่แก้มลูก ปากก็บอกให้จุ้บๆ
ดูดสักหน่อย คนเก่งของแม่ แม่รู้ว่าหนูดูดได้ นมแม่เหมือนกัน อร่อยๆๆ
ลูกมันยังคงร้องอ้าปากกว้าง ดิ้นถีบขาเหยียดแขนไม่หยุด แม่มันก็ยังเฝ้าพูดของมันไป แล้วก็เขย่าขวดนมให้น้ำนมกระฉอกออกมาในปากเล็กๆนั่น น้ำนมขาวๆถูกผลักให้ออกมาจากขวด เอ่อรอที่คอหอยเด็กน้อยทีละหยดนิดน้อยเขาไม่กลืนมัน ก็รวมกันเป็นน้ำนมจำนวนหนึ่ง ร้องไปได้สักพักก็ต้องหยุดหายใจ แต่น้ำนมที่รอจะลงคอตรงนั้นมันวิ่งลงไปเฮือกเดียวกับที่ลูกหายใจเข้าไปด้วย เด็กน้อยที่นอนหน้าแดงน้ำตาหยดลงที่แก้ม หยุดกึกไปอึดใจ แล้วไอสำลักน้ำนมออกมาแรง ฉันใจหายใจคว่ำ ลูกร้องไห้หนักขึ้น หน้าตาหูเหอแดงขึ้นมา ฉันมองหน้าแม่มันที่พร่ำพูดไม่หยุดปาก
เอ้า อ้วกออกมา นมแม่นะลูก!
เสียงเหมือนเสียดายน้ำนม แต่ขวดนมก็ยังจ่อที่ปากลูกไม่ห่าง ไม่มีท่าทีว่าจะวางลง
แม่ไม่ใจอ่อนกับหนูง่ายๆหรอก
แม่มันย้ำเสียงเรียบๆ หันมาบอกฉันว่าเคยป้อนเด็กมาก่อนนักต่อนักเขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร นี่ทำให้ฉันนั่งถอยออกมาดูไกลขึ้น
แม่มันลองวางขวดลงเมื่อพยายามไปหลายนาทีจนเหงื่อออกต่อหน้าฉัน เสียงลูกร้องแสปแก้วหูขึ้นเรื่อยๆ เสียงมันดังไปจนถึงตึกข้างๆทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน วางลูกลงนอนกับพื้น ลูกหยุดร้องแค่ยกตัวขึ้นจากท่านอนในอ้อมแขนแม่มัน หวังว่ามันจะจบลงแล้ว แม่มันหยิบขวดนมมาเทนมออกใส่แก้วใบเตี้ยๆใบหนึ่งที่มีช้อนเสียบคาอยู่ ใกล้กันเป็นแก้วใส่น้ำต้มสุก ไม่มีขวดนมที่ใส่น้ำ จัดแจงเสร็จก็อุ้มลูกขึ้นมาท่าเดิมให้นอนลงกับแขน ลูกมองหน้าแล้วเริ่มร้องเสียงเดิมอีกครั้ง
หนูต้องกินนะ ไม่งั้นจะโตได้ยังไง
แม่มันตักน้ำนมด้วยช้อนเล็กๆ เทสาดเข้าไปในปากลูกที่อ้อร้องเหมือนเดิม อะไรกันนี่?? ฉันได้แต่ตกตลึง ยกมือมาทาบริมฝีปากไม่รู้ตัวแทบจะอยากลุกไปอ้วก เสียงลูกไอค่อกๆๆ ไล่สิ่งที่เข้าปากจะลงคอให้พ้นๆแต่ใครก็รู้ว่ามันจะไม่ไปไหนมันต้องลงไปในกระเพาะเล็กๆนั่นจนได้ ช้อนแล้วช้อนเล่า กลืนลงไปก็เพราะห้วงหายใจสลับกับเสียงสำลักค่อกๆ แม่มันไม่หยุดมือเมื่อยิ่งเห็นว่าน้ำนมหายเข้าไปในคอได้ก็เร่ง
จะหมดแล้ว อย่าให้เสียของนะลูก น้ำนมแม่มีประโยชน์ เดี๋ยวก็หมดแล้วจ้ะ คนเก่งๆๆ...
อันนี้น้ำ...น้ำๆ หยุดพักเสียงแผดจ้าได้ก็เอาน้ำตักเทลงไปต่อ
ฉันไม่อยากอยู่นานแล้วแบบนี้ เสียงเด็กที่ต่อต้าน ฉันว่าฉันฟังไม่ผิด เมื่อหมดแก้ว แม่มันก็จับลูกพาดบ่า ลูกจ้องมองหน้าฉันที่นั่งอยู่ด้านหลังแม่มัน หยุดร้อง ฉันทำหน้าทะเล้นใส่เด็กน้อยเขาจำหน้าได้แล้วก็ส่งยิ้มหวานมาทันที หวังว่าเรื่องคงจบแล้วใช่ไหม เด็กน้อยเรอมาครั้งหนึ่ง แม่มันจับมานั่งลงตรงหน้าเช็ดปากเช็ดคอที่มีน้ำตา มีนมเลอะทั่วๆ เด็กน้อยไอค่อกๆ อ๊อกแล้วอาเจียนออกมาเป็นทางยาว
เอ้า อ้วกออกมา อ้วกให้หมด
แม่มันนั่งนิ่ง ดูน้ำนมที่ไหลออกมาจากปากลูกไม่หยุด ราดรดผ่านมือที่ยันอกลูกให้นั่งตั้งตัวตรงไว้ เด็กน้อยคอยังไม่แข็งดี คอพับไปมาอ้วกรดรอบๆตัวถึงผ้ายางที่ปูรองผืนใหญ่ที่เราสามคนนั่งอยู่
............................
ฉันเดินผ่านห้องครัวชั้นสามเห็นกล้วยน้ำว้าบนโต๊ะกินข้าว แม่มันกำลังหัดลูกกินกล้วยบด บางทีก็ไปจับนั่งกินบนเตียงพ่อแม่ บางทีมานั่งหน้าทีวี อย่างวันนี้ ในชามรูปกลมๆอย่างกับเต้านมแม่สองเต้าสีขาวขุ่นมีกล้วยเละๆผสมน้ำต้มสุกอยู่จำนวนหนึ่ง อีกเต้าพักช้อนเล็กๆหางยาวๆไว้เคียงกัน ฉันชโงกมองลูกที่นอนกลิ้งพยายามจะคว่ำหงายด้วยตัวเองบนพื้นตรงหน้าแม่มัน
พี่ไปข้างนอกนะ เอาอะไรไหม?
ฉันถามไปเบาๆ ไม่อยากรบกวนเวลาที่แม่มันกำลังพูดและเล่นกับลูก
ไม่ล่ะพี่ ไม่รู้จะเอาอะไร
ฉันเดินลงจากบ้าน โบกมือบ้ายบายลูกที่นอนจ้องตาม ลูกส่งยิ้มหวานมาให้อย่างเคยเห็นลักยิ้มบนแก้มขวาชัดขึ้นเรื่อยๆ
ฉันอยู่ที่ป้ายรถเมล์ข้างนอกบ้านตอนเกือบห้าโมงเช้า แต่แล้วก็ได้รับโทรศัพท์เรียกให้กลับมาที่บ้านด่วน เสียงแม่มันพูดตะกุกตะกักปนเสียงสะอื้นเรียกชื่อลูกไปมา พร่ำว่าจะทำยังไง จะทำยังไง
ฉันวิ่งขึ้นมาที่ชั้นสามห้องหน้าทีวี แม่มันนั่งเขย่าตัวลูกไม่หยุด พลางร้องเรียกชื่อน่าเวทนา น้ำเสียงแปลกไป เกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับลูกหรือ? แม่มันหน้าแดงหูแดงน้ำตาคลอเบ้าหันมามองฉันที่ถามคำถามแต่ไม่ตอบ มันไม่กล้าพูด
ฉันมองไปรอบๆหาคำตอบเอง รอบตัวยังมีชามเต้ากล้วยบด กล้วยพร่องไปจนเกือบหมด มีขวดนมเล้กๆอ้วนๆนมติดก้นขวดนิดหน่อย แก้วใส่น้ำต้มสุกยังมีน้ำอยู่ค่อนแก้วกับช้อนที่คาอยู่ ผ้าอ้อมผืนใหม่กับที่ใช้เช็ดปากกระจายรอบๆ ของเล่นรูปลูกเต๋าก้อนโตนิ่มมือก็เรี่ยราดใกล้ๆกับตะกร้ายาเด็ก มันเรื่องอะไร มีอ้วกเด็กตรงนั้นกองเล็กๆกองหนึ่ง ดูข้นมากเหมือนจะเป็นกล้วยบดนั่น?!
ลูกยังคงหลับตา ตัวสั่นตามแรงเขย่า ไม่มีเสียงร้องใดๆ ดูเงียบผิดปกติ ฉันปรี่เข้าไปถึงตัวลูกเมื่อแม่มันพูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว ฉันแย่งลูกมานอนลง ทาบมือบนตำแหน่งหัวใจเขา มันเงียบ...เงียบแข่งกับเสียงระร่ำพูดเพ้อของแม่มันข้างๆนี่ ฉันวิ่งเข้าห้องโทรไปโรงพยาบาลที่เคยทำคลอดเขา มันใกล้บ้านที่สุดแล้ว ปลายสายให้คำแนะนำมาก่อนจะวางสายไป ฉันพยายามทำตามคำแนะนำก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึง
พ่อมันโผล่ขึ้นบ้านมา มองดูว่าเราทำอะไรกัน ใกล้เที่ยงเขาจะพยายามกลับเข้ามากินข้าวที่บ้านก่อนจะออกไปทำงานต่อตอนบ่าย แต่วันนี้ดูมันวุ่นวาย มันไม่เคยเห็นแม่มันนั่งร้องไห้ดูไร้สติขนาดนั้น และไม่เคยเห็นฉันลงมาแตะต้องลูกด้วยสีหน้าแบบนั้นมาก่อนเลย
เป็นอะไร? พ่อมันตะโกนถามอยากจะช่วยและรู้เรื่องไปพร้อมกัน พลางวางหวีกล้วยน้ำว้าสีเขียวลูกอ้วนลงกองกับกระเป๋าเอกสาร
พี่โทรตามโรงพยาบาลแล้วนะ เขากำลังรีบมา....
ใจเย็นๆก่อน
ฉันยังคงปล้ำกับลูก กดมือลงไปที่หัวใจเป็นจังหวะๆ น้ำตาร่วงเผาะลงที่เสื้อตัวเล็กๆนั่น ลงบนแก้มที่มีรอยกล้วยเปื้อนแห้งเป็นคราบเหมือนที่รอบๆปาก ปากเล็กๆของลูก..
....ฉันหยุดมือ ลงมานั่งกองกับพื้น ปาดน้ำตามองหน้าเขาสองคน ทุกคนมือสั่นมากน้อยไม่แพ้กัน พ่อมันทรุดตัวลงข้างๆเอื้อมมือมาจับแก้มลูกชาย ไม่มองหน้าแม่มัน เสียงรอบข้างตัวดังหึ่งๆไปหมดแล้ว ชาวบ้านได้ยินเสียงหวอรถพยาบาลวิ่งเข้ามาในหมู่บ้านแว่วๆ.
...............................................
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 49 14:13:12
แก้ไขเมื่อ 29 พ.ย. 49 14:08:49
จากคุณ :
podduang-pk
- [
29 พ.ย. 49 14:06:30
]