เป็นครั้งแรกที่ลองเอาเรื่องสั้นที่เขียนมาลงที่นี่น่ะค่ะ ท่านจินตาฯ แนะนำมา แหะๆ (ตื่นเต้นจริงๆ...) กึ่งนิทานนิดๆ
ชื่อเรื่องไม่เหมือนกับตอนที่ลงในบลอก (เผื่อว่ามีใครเคยอ่าน) คิดอยู่นานมาก เพราะชื่อเก่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไรน่ะค่ะ
อาจจะมีช่วงท้าย ที่ตัวละครจะออกมาเยอะหน่อย ยอมรับว่าอาจจะไม่มีที่มาที่ไปและคำอธิบายมากนัก
ในส่วนนั้นอยากจะให้จินตนาการหรือเดาเองไปเลยก็ได้ค่ะ ว่าคืออะไร ยังไง เพราะถ้าใส่รายละเอียดลงไปคิดว่าคงจะเกินแล้วก็ไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่อง
ต้องขอความกรุณาและคำแนะนำด้วยนะคะ!
-----------------------------------------------------------
Wish :: อธิษฐานดวงใจถึงฟากฟ้า
By Zakuro
กาลครั้งหนึ่งนั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่ง ผู้มีร่างกายอ่อนแอจนไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นในโลกภายนอกได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เธอมีชีวิตอยู่แต่ในห้องนอน มีเพียงตุ๊กตาไร้ชีวิตเป็นเพื่อน
วันหนึ่งคุณพ่อผู้ใจดีและคุณแม่ผู้อ่อนหวานได้มอบของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับเธอ เพื่อที่ว่ามันจะไม่หนีเธอไปไหน เพื่อที่ว่ามันจะคอยขับกล่อมจิตใจของเธอ และเพื่อที่มันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ พวกเขาจึงได้จับมันใส่กรงเอาไว้ และตั้งไว้บนโต๊ะสีขาวริมหน้าต่างในห้องของเธอ
มันคือนกน้อยสีน้ำตาลตัวจ้อย ที่ใครๆ ต่างก็รู้ว่ามันมีเสียงอันแสนวิเศษ ทั้งสดใสและไพเราะ มันจึงได้รับชื่อตามสิ่งที่มันเป็น เธอเรียกมันว่า ไนติงเกล
มันอาจจะถูกจับมาเพื่อเป็นเพื่อนของเธอ แต่สำหรับมันแล้วมันไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเพื่อนของเธอ แต่เกิดมาเพื่อที่จะได้โบยบินและขับขานเสียงอันแว่วหวานกังวานให้กับโลกใบนี้...ไม่ใช่เพื่อเธอ...
หนึ่งนั้นคือความภาคภูมิในปีกเล็กๆ ที่เคยพามันลอยล่องไปบนท้องฟ้า สองนั้นคือเสียงอันหวานใสที่เคยแว่วประดับให้กับป่าสีเขียวใต้แสงอาทิตย์อันแจ่มจ้า
แต่ในวันนี้มันไม่อาจทำอย่างที่เคยทำได้อีก มันเหงา เศร้า และโกรธแค้นคนที่จับมันมา รวมทั้งเธอที่วันหนึ่งๆ เอาแต่นั่งจดจ้องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อได้มองมัน
ฉันชื่อลีลัน ฉันชื่อลีลัน...เธอคือไนติงเกล...เธอคือไนติงเกล เสียงหัวเราะสดใสร่าเริงยิ่งทำให้มันเคืองแค้น
คุณพ่อคุณแม่บอกว่าเธอร้องเพลงได้ไพเราะที่สุด ไพเราะยิ่งกว่าใคร สาวน้อยผู้เป็นเจ้าของผมสีทองที่หยักเป็นลอนและทอเงาประกายพร้อมกับดวงตาสีฟ้ากระจ่างเฝ้าบอกอยู่ทุกวี่วัน แต่เธอไม่เคยร้องเพลงให้ฉันฟังเลย...เธอคงจะไม่สบาย เธอคงจะกลัว ไม่เป็นไรนะ ฉันจะร้องให้เธอฟังก่อนเอง
ด้วยความหยิ่งยโสและความโกรธแค้นที่มี ไนติงเกลได้แต่คิดว่าช่างเป็นเพลงที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ฟังไปก็ระคายหู มันจึงได้แต่แสร้งทำไม่เป็นสนใจ หนักเข้าก็ตีปีกแรงแสดงความไม่ชอบใจจนเธอเงียบเสียงลง
เธอไม่ชอบเหรอ? ฉันเสียใจนะ ฉันเสียใจ ขอโทษที่ทำให้เธอต้องขุ่นเคืองใจ แล้วฉันจะร้องให้เพราะกว่านี้
ทุกครั้งจบลงด้วยคำพูดในทำนองเดียวกันนี้ มันได้แต่คิดว่าเมื่อไรล่ะที่เด็กหญิงคนนี้จะล้มเลิกความตั้งใจเสียที ร้องไปก็ไม่เข้าหูมันหรอก ไม่มีวันที่มันจะคิดว่าไพเราะไปได้ นอกจากเพราะไม่มีใครร้องได้ไพเราะไปกว่ามันอีกแล้ว ก็เพราะมันไม่ชอบเธอด้วยนั่นล่ะ
ผ่านวันผ่านคืน อาทิตย์ตก พระจันทร์ขึ้น ฟากฟ้าเปลี่ยนสีหลากหลาย มันยังคงจ้องมองผืนฟ้านั้นอย่างคะนึงหา สาวน้อยยังคงมานั่งร้องเพลงให้ฟังได้ทุกวัน มันก็เบื่อที่จะแสดงอาการไม่พอใจแล้ว ทั้งเหนื่อยทั้งรำคาญ ทำเป็นไม่ได้ยินและมองฟากฟ้าตรงหน้าต่อไป และไม่มีวันเสียล่ะที่มันจะเปิดปากขับขานบทเพลงที่ภูมิใจให้เธอได้ฟัง
นกที่บินไม่ได้ เหลือเพียงความสามารถในการร้องเพลงที่เจ้าของจะคาดหวังได้นั้น เมื่อไม่ร้องเพลง จึงไม่ต่างจากตุ๊กตาไร้ชีวิต ครั้นเมื่อพ่อและแม่ของเด็กหญิงสังเกตเห็น พวกเขาจึงคิดว่ามันป่วย และไม่คิดจะเลี้ยงมันอีกต่อไป
มันไม่ยอมร้องเพลงเลยหรือ? ฝ่ายคนพ่อเอ่ยถาม
ถ้าเช่นนั้นคงจะไม่มีประโยชน์แล้ว ลูกจ๋า แม่คงจะต้องทำอะไรสักอย่างกับมันนะ ผู้เป็นแม่แตะปลายนิ้วลงบนใบหน้าอย่างไตร่ตรอง
ให้ฉันสิให้ฉัน เสียงแหบพร่าดังขึ้นแทรก หญิงชราหน้าตาน่าเกลียดพูดพลางหัวเราะเสียงแหลม นางเป็นคนในหมู่บ้านที่รับงานมาเป็นแม่บ้านในบ้านของเด็กหญิง ใครๆ ต่างก็รู้ว่าหญิงชราผู้นี้ชอบกินเนื้อสัตว์แปลกๆ ที่คนทั่วไปไม่เลือกกินกัน อย่างเนื้อนกก็คงจะรวมอยู่ในอาหารจานโปรดของนางด้วย
มันรู้สึกปลงตก โดนจับมาขังเอาไว้เช่นนี้ก็ว่าแย่อยู่แล้ว เคยมีหวังที่จะได้กลับออกไปสู่ท้องฟ้าสีฟ้าผืนนั้นอีก แต่ได้ยินอย่างนี้แล้วคราวนี้มันคงกลายเป็นนกย่างหรือเป็นเนื้ออยู่ในชามสตูว์เป็นแน่ ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้ คงจะไม่มีใครคิดช่วยเหลือ เหมือนเช่นตอนที่ถูกจับมา พลาดท่าก็เพราะไม่มีใครช่วยเตือน อาจจะเพราะมันอวดดีมากไปว่าร้องเพลงได้เพราะกว่าใครก็เป็นได้
ที่จริงแล้ว...มันเริ่มคิด...หากเป็นอิสระอีกครั้ง ก็คงจะต้องกลับไปโบยบินอย่างโดดเดี่ยวเช่นเดิม ร้องเพลงได้ไพเราะแต่ก็ไม่มีใครชื่นชม ที่ผ่านมามันหยิ่งทะนงพอที่จะมองข้ามไม่สนใจ แต่พอมองผ่านบานหน้าต่าง เห็นนกตัวอื่นๆ ที่สะบัดปีกเคียงคู่กัน ส่งเสียงร้องตอบกันและกัน ก็ชวนให้หดหู่ใจจนไม่อยากกลับไป
...ใช่แล้ว...มันไม่มีเพื่อน ไม่มีแม้แต่ผู้ที่จะคิดหวังดีด้วย
ไม่เอานะ! ทว่าเสียงใสกระจ่างที่ลอดจากลำคอเล็กระหงก็ตัดห้วงความคิดอันเจ็บช้ำนั้น เด็กหญิงวิ่งเข้ามากอดกรงสีทองเอาไว้ ดวงตาสีฟ้าจ้องผู้ใหญ่ทั้งสามอย่างเอาเรื่อง
หนูไม่ให้ไนติงเกลกับใครทั้งนั้น ไนติงเกลเป็นเพื่อนของหนู เธอว่า
แต่มันเอาแต่อยู่เฉยๆ นะลูก ร้องเพลงก็ไม่ได้ มันคงจะป่วย เอาไว้อย่างนี้ก็ทรมาน มารดาของเธอเอ่ยอย่างเป็นห่วง
หนูก็ป่วยนะ! ถ้าหนูบอกว่าทรมาน คุณแม่จะทำยังไงกับหนู? ด้วยคำนั้น สำนึกเสียใจก็แล่นเข้าสู่หัวอกของผู้เป็นแม่
ไนติงเกลไม่ได้เอาแต่อยู่เฉยๆ แต่ไนติงเกลฟังสิ่งที่หนูพูด ฟังเพลงที่หนูร้อง มันถึงได้ไม่พอใจเวลาที่หนูร้องเพลงไม่เพราะออกมา หยดน้ำตาใสร่วงจากดวงตาสีฟ้า
คุณพ่อคุณแม่จะเอาเพื่อนของหนูไปเหรอคะ?
หลังจากวันนั้นไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่มันไม่ร้องเพลงอีก
เสียงเล็กๆ ยังคงร้องเพลงเจื้อยแจ้ว สำหรับมันแล้วก็ยังหนวกหูอยู่เหมือนเดิม แต่ก็คงไม่เป็นไรถ้าจะปล่อยให้เธอร้องอยู่แบบนี้ มันหันไปมองท้องฟ้า จะว่าคิดถึงก็ใช่ อยากจะกลับไปโบยบินใจจะขาด แต่เอาเถอะ...อยู่เป็นเพื่อนเด็กหญิงไปก่อนจนกว่าจะสบโอกาสเหมาะๆ มันค่อยหนีไปก็ได้
ไนติงเกล ไนติงเกล ฉันอยากฟังเสียงของเธอ อยากฟังมากเลย... นิ้วเล็กๆ ไล้ไปตามแนวโครงลวด ใบหน้าน่ารักวางบนแขนอีกข้างที่แนบอยู่กับโต๊ะสีขาว
คุณหมอบอกว่าฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะ...แต่ฉันบอกว่าฉันยังไม่ยอมแพ้ เพราะฉันยังไม่ได้ฟังเสียงของเธอ แล้วก็ยังไม่ได้ร้องเพลงกับเธออย่างที่ตั้งใจเอาไว้เลย
หากเป็นมนุษย์มันคงเผลอขมวดคิ้วเสียแล้ว ดวงตาสีดำสนิทมองเด็กหญิงอย่างไม่เข้าใจ
ก็เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของฉันนี่นา ดวงตาสีฟ้าเริ่มเลือนน้ำตา ริมฝีปากเล็กคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบางๆ ในขณะที่หยดน้ำร่วงหล่นอาบแก้ม ฉันก็เลยอยากมีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนบ้าง
จริงสินะ...ที่แท้แล้ว...ทั้งเธอและตัวมันเองต่างก็เหมือนกัน ต่างก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน แม้จะต่างที่เหตุผล
ในตอนนั้น มันถึงได้คิดได้ และส่งเสียงแรกออกไป...เสียงที่แม้แต่มันเองก็ไม่ได้ยินมาเนิ่นนาน...เสียงที่มันเชื่อมั่นอย่างที่สุดว่าไพเราะไม่เป็นสองรองใคร...เสียงของมันยังคงเสนาะหูไม่เปลี่ยนแปลง
โอ! เด็กหญิงร้องเสียงดัง นั่นเป็นเสียงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา
ดวงตาสีฟ้าดุจนภากระจ่างที่มันเฝ้าโหยหามาตลอดจ้องมองมาอย่างปลาบปลื้ม...ในเสี้ยววินาทีนั้นเองที่เจ้านกน้อยระลึกได้ว่ามันได้ค้นพบ ท้องฟ้า ของมันแล้ว
จากคุณ :
Zakuro
- [
1 ธ.ค. 49 00:01:09
]