มังกรทั้งหลายถูกกำจัดไปเยอะ ด้วยกรรมวิธีการตลบตะแลงเล่นแร่แปรธาตุ
ของนาคจำแลงและพ่อครัวหัวป่าก์ ผู้คนส่วนน้อยจึ่งจักรู้กลเม็ดเด็ดพรายนี้
มังกรน้อยเติบโตเป็นพญานาคผู้มั่งคั่ง มีบริวารน้อมนอบ รอบกายหมอบคาบราบแก้ว
ทำให้มังกรน้อยเหิมเกริมยิ่งนัก อำนาจ ไม่เข้าใครออกใคร ดั่งคำที่ว่าไว้
อำนาจทำให้คนหลงระเริง นาคจำแลง หรืออดีตมังกรน้อย
ที่กินได้แม้กระทั่งมังกร สายเลือดเดียวกัน ก็คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ล้ำฟ้า
คิดหาญสิ่งใด ก็ต้องมาอยู่ในเอื้อม ภายใต้เงื้อมมือ และการเล่นแร่แปรธาตุทั้งสิ้น
ทำให้อากาศกลายเป็นสิ่งมีค่า แก่ปวงชน และเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย
อันผู้คนนั้นเล่า ก็หลงกราบไหว้บูชาพ่อนาคแก้ว ดั่งเทพเหนือหัว
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ยังผลให้แก่ อีแร้ง ผู้เป็นคนแนะวิธีให้แก่มังกรน้อย
อีแร้งเป็นทุกข์ กับผลการกระทำของตนเอง ที่ทำให้มังกรน้อยมีอำนาจ
แลบารมี เกินกว่าที่อีแร้งจะเทียบได้ เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันมิได้
แต่อีแร้งซึ่งเหล่าสรรพสัตว์นับถือว่าเป็นผู้มีสัตย์ ทรงศีล ไม่กินสัตว์ซึ่งมีชีพอยู่
อีแร้งผู้ทรงธรรม ที่กินแต่ซากเน่า เหลือจากผู้อื่นนั้น ไม่อาจจะสำแดงอิทธิฤทธิ์
กินมังกรน้อยได้ อีแร้งจักทำเช่นไร กับนาคจำแลงผู้ยโส
เหนือฟ้ายังมีฟ้า อยู่ได้ไม่นาน นาคจำแลงก็ถูก พญาครุฑผู้ซึ่งในอดีตนั้นเป็นสัตว์ในตำนาน
มีผู้คนกราบไหว้บูชา และเป็นสัตว์เทพเจ้าบารมีเท่าเทียมนาค แต่ ณ บัดนี้
ครุฑเป็นเพียงตำนานกระดาษ อยู่บนหัวหนังสือสั่งการของทางราชการแค่นั้น
ไม่มีอำนาจฤทธีใดๆ ทั้งสิ้น ครุฑแพ้ให้นาคอย่างหาทางสู้มิได้
ครุฑจึงได้ร่ายรำ ทำทีเรียกร้องป่าวประกาศให้ฝูงสัตว์น้อยใหญ่ ช่วยกันปราบนาคลง
ครุฑอ้างว่านาคนั้น แท้จริงมิใช่นาค แต่เป้นมังกรตระบัดสัตย์ ที่กินได้แม้กระทั่งเพื่อน
ครุฑเผยไต๋ มังกรน้อย เข้าให้ เช่นไก่เห็นนมงู งูเห็นตีนไก่
อีแร้งผู้ซึ่งบินเหนือเมฆ เห้นสถานการณ์เช่นนี้ ก็ทำเฉย ด้วยรู้ถึงกำลัง ของครุฑดี
แม้ครุฑจะเป็นเพียงรูปบนหัวกระดาษหาค่ามิได้ แต่มีคนไม่น้อย เชื่อมั่นในครุฑ
แล้วมังกรน้อยนั่น แท้จริงก็มีชนักปักหลัง ดังที่ว่า ไม่ใช่นาคแต่กำเนิด
บุญเพรง ผลกรรมมีจริง ส่งผลให้ นาคแพ้ครุฑมาแต่ไหนแต่ไร
ครานี้ก็ไม่พ้นกงกรรมกงเกวียนเดิม มังกรน้อยในคราบนาค พ่ายแพ้ให้แก่ครุฑ
แต่อิทธิฤทธิ์ของครุฑนั้น อ่อนลงมาก ไม่อาจจะกินมังกรน้อยได้
และครุฑเองก็มีชนักปักหลังมากมาย โอละแม่ อลเวง เอวัง
ตาอินกับตานา จะไปไหน ก็เสร็จตาอยู่เข้าให้ อีแร้งคอย ผู้ซึ่งนิ่งเงียบมานาน
เห็นว่าเวลานี้ควรแล้ว แก่การปลิดชีพนาคจำแลง
อีแร้งผู้มาเหนือเมฆบินโฉบ ลงบนปฐพี ปลิดชีพนาคร่วมกับครุฑ
ผู้คนต่างเยินยอสรรเสริญ เหล่าสรรพสัตว์ต่างยกย่อง สมควรแล้วแก่การเป็นผู้ทรงศีล
แต่มีสัตว์จำนวนไม่น้อย ที่สงสัยในตัวครุฑและอีแร้งผู้ทรงศีล
มีผู้ใดอยู่เบื้องหลัง เหล่าพญา อีกไหมล่ะนี่ สถานการณ์บัดนี้ ไม่มีใครไว้วางใจใครทั้งสิ้น
ผู้คนต่างร่ำลือกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า พญาหงษ์นั้นเล่า คือผู้บงการ
บางคนก็ร่ำลือกันว่า ปักษาวายุภักษ์ ต่างหากเล่าที่บงการ ชักใย
แต่ไม่ว่าใครบงการใคร ความปั่นป่วนในเหล่าสรรพสัตว์ครั้งนี้
เกิดขึ้นเพียงเพราะมังกรทะเยอทะยานแค่ตัวเดียว
มังกรน้อย ผู้ที่ โลกต้องจารึก มังกรน้อย ผู้ที่ สังคมต้องจดจำ
อภินิหารวิธีการรับประทานแลน(ด์) ของมังกรน้อย จบลงแล้ว
แต่อภินิหารวิธีการรับประทานแลน(ด์) ของ พญาครุฑ และ อีแร้ง
ใครกันเล่า จะเป็นผู้ขานไขตำนาน ฤา จะเป็นเพียงแค่ตำนาน
ที่ไม่มีวันเปิดเผย แต่วัฎจักรแห่งกรรม ยังคงหมุนวนไป
"กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง" ไม่เว้นแม้กระทั่ง
พญาหงษ์หรือปักษาวายุภักษ์
จบแบบนี้ง่ายดีไหมค่ะ
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 49 13:52:33
จากคุณ :
sugarhut 
- [
1 ธ.ค. 49 13:51:25
]
อภินิหารวิธีการรับประทานแลน(ด์)---บินเหนือเมฆ
