Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Psycho Zone............(โลก.......โรค)

    ตอนที่แล้ว

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4901697/W4901697.html

    +++++++++

    โลก....โรค

    พวกเขาเหล่านั้นถูกกักขังไว้ในเขตควบคุมโรค ที่มีการป้องกันที่เข้มแข็ง จนแน่ใจได้ว่าพวกเขาจะไม่หลุดออกมาได้ ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไรก็ตาม ผมได้แต่เฝ้ามองความพยายามในการหนีออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงทางทฤษฎีเท่านั้น ผมถอนใจอย่างโล่งอก เพราะการที่มีคนหนีออกมาจากเขตกักกันบริเวณ มันหมายถึงความเสื่อมเสียชื่อเสียงในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่มีใครต้องการแบบนั้น

    ที่จริงงานของผมไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรมากมาย เพียงแต่เฝ้าสังเกตคนติดโรคร้ายอยู่ห่างๆ และไม่พยายามไปเกี่ยวข้องกับพวกนั้นถ้าไม่จำเป็น  มันเป็น “กฎ”  สากลที่พวกเราต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

    ผมมีผู้ช่วยสาวคนหนึ่ง เธอดูสาวและสวยเสมอ อย่างน้อยก็ในสายตาของผม นอกจากนั้นเธอยังเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษในการควบคุมโรคร้ายด้วย ซึ่งผมได้ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับงานของเธอมากนัก เพียงแต่รู้ว่าเธอกำลังศึกษาถึงยาที่จะใช้ในการรักษาผู้คนเหล่านั้น มันเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยร่วมของเราทั้งสอง

    “ฉันคิดว่าเรามีตัวยาที่จะรักษาพวกเขาแล้วนะคะ”

    เธอยิ้มกริ่มมาแต่ไกลพร้อมด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ผมกลับวิตกลึกๆ เพราะนั่นหมายถึงว่าเธอจะต้องย้ายไปหน่วยงานอื่นซึ่งโอกาสเจอกันจะน้อยลงอย่างที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่ผมวิตกมากกว่านั้นคือเรื่องผลกระทบของยาที่ว่าต่างหาก ซึ่งรบกวนจิตใจมานาน

    “เหรอ…..”
    ผมพยายามสุดชีวิตในการแสดงความตื่นเต้นในน้ำเสียง
    “แล้วคุณคิดว่ามันจะได้ผลไหมล่ะ”

    “เราทดลองหลายครั้งแล้ว คุณอยากดูไหมล่ะ ฉันมีผลการทดลองมาให้ดูด้วย”

    ผมไม่ปฏิเสธ ดังนั้นเธอจึงชี้ไปทางจอภาพขนาดใหญ่เบื้องหน้า ซึ่งเริ่มปรากฏภาพการทดลองซึ่งเป็นปฏิบัติการลับสุดยอด นอกเหนือความคาดหมายของหน่วยงานใด

    ผู้ชายในภาพอายุไม่มากนัก แต่สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจมุ่งร้าย เป็นคนประเภทที่ผมไม่เคยชื่นชมเลย พวกนี้มักสร้างปัญหาให้กับงานวิจัยของเราเรื่อยๆ ตอนนี้เขายืนหันรีหันขวางอยู่ในห้องแคบๆห้องหนึ่ง กระนั้นเขายังสบถไม่ขาดระยะ ไม่ได้มีทีท่าหวาดกลัวอะไรเลยสักนิด

    “ฆาตกรต่อเนื่อง โรคจิต และชอบการทำลายล้าง นิยมความรุนแรงแบบไม่มีเหตุผล”
    ผู้ช่วยสาวอธิบายที่มาที่ไปของชายคนนั้น
    “เขาเป็นลูกผู้มีอิทธิพลทางการเมือง และองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ ทำให้รอดพ้นจากกฎหมาย แน่นอนว่าเขาเองก็ติดโรคร้าย แต่เมื่อเราลองตัวยากับเขา คุณคอยดูผลที่เกิดขึ้นนะคะ”

    ขายคนนั้นหันรีหันขวางอยู่ในห้องไม่นานนัก ก็ปรากฏแสงสว่างสายหนึ่ง พุ่งออกมาจากผนังด้านหน้า ตัดผ่านแขนข้างหนึ่งของชายคนนั้นจนขาดสะบั้น เลือดพุ่งออกมาเป็นสายท่ามกลางความตื่นตะลึงของชายคนนั้น แต่เขายังขยับปากด่าทอด้วยคำหยาบคายตามสันดานดิบภายใน  และในวินาทีต่อมา เปลวไฟก็พวยพุ่งออกมาจากผนังอีกด้านหนึ่ง ปะทะร่างของเขาอย่างรุนแรงจนโหมลุกไหม้ท่วมตัว เสียงสบถด่าทอกลายเป็นเสียงร้องโหยหวน ร่างซึ่งติดไฟลุกกลิ้งตะเกียกตะกายไปมาในห้องอย่างสยดสยอง เปลวไฟโหมลุกท่วมตัวอยู่นานจนไหม้เกรียมแขนขาเริ่มบิดเบี้ยวหักงอผิดรูปดำเกรียม

    เนิ่นนานจึงมีสายน้ำพุ่งลงมาจากเพดานดับไฟในห้อง ตอนนี้ในห้องเต็มไปด้วยควัน ผมเดาว่าร่างของชายเคราะห์ร้ายที่หลงเหลือคงกองอยู่ที่ใดที่หนึ่ง อาจไม่ได้มอดไหม้ไปจนหมดสิ้น

    ผู้ช่วยสาวหันมามองผมด้วยสีหน้าท่าทางพอใจกับผลงาน
    “เห็นหรือยังว่ามันได้ผล”  เธอบอก

    “ผมยังไม่แน่ใจ”

    “ถ้างั้นก็ดูต่อไป”

    สักพักควันในห้องก็จางลง ผมแทบไม่เชื่อสายตา ชายคนนั้นลุกขึ้นมาจากพื้นในลักษณะปกติซึ่งเหมือนไม่เหมือนคนผ่านการเผาไหม้อย่างหนักมาแม้แต่น้อย แขนซึ่งขาดก็กลับเป็นปกติเหมือนเดิม เพียงแต่สีหน้าของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเสียขวัญ ไม่เหลือแววแห่งความดุร้ายกราดเกรี้ยวเหลืออยู่เลย

    “ที่นี่เชื่อหรือยังคะ”
    เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นต่อ ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ยอมจำนนตอนหลักฐานที่เธอนำเสนอ ในที่สุดเราก็ค้นพบยาที่จะรักษาโรคร้ายได้แล้ว

    “เรานำเสนอหน่วยเหนือดีไหมตะ”

    เธอเอ่ยปากอย่างคนต้องการคำปรึกษาหารือ ผมจ้องหน้าเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนย้อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า

    “คุณคิดอยากจะทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ”

    เธอมีสีหน้าลังเลขึ้นมาทันที ผมรู้ในขณะนั้นว่าเริ่มเป็นต่อบ้างแล้ว

    “คนพวกนั้น….”
    ผมพยักหน้าในเธอดูจอภาพขนาดใหญ่อีกหลายจอซึ่งเรียงรายไกลออกไปไม่มีที่สิ้นสุด
    “ขนาดที่พวกเขาติดโรคร้ายยังขนาดนี้ สงครามเอย….ฆาตกรเอย…อาชญากรรมหลายรูปแบบ ความเห็นแต่ตัวเอย ความแตกต่างของลัทธิและศาสนาเอย พวกเขาสร้างเรื่องราวมากมายก่ายกองทั้งดีและร้าย ผมนึกไม่ออกว่าถ้าพวกเขาหายเรื่องราวมันจะเลวร้ายลงขนาดไหน สัญชาติญาณดิบในตัวพวกเขาคงประทุออกมา คุณคงพอนึกภาพออก….พวกเขาเหล่านั้นมีจำนวนมากมาย ถ้าพวกเขาหายจากโรคร้าย มันจะวุ่นวายยุ่งเหยิงน่ากลัวขนาดไหน…”

    สีหน้าของเธอสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่ใช่คนโง่พอที่จะนึกภาพไม่ออก

    “เก็บงานของเราเป็นความลับ”
    ผมบอกเธอด้วยเสียงแผ่วเบา
    “ยังไงเขาก็เป็นพวกชนกลุ่มน้อยนิด เรายังมีหน้าที่อีกมายมายหลายอย่าง……ผมเชื่อว่าต่อไปเราจะค้นพบพวกที่เหมาะสมกับการรักษา”

    ในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายชนะ ผู้ช่วยสาวของผมยินยอมเก็บงานทดลองเอาไว้ไม่ยอมนำเสนอต่อหน่วยเหนือ  ผลการทดลองถูกทำลายที่ช่องว่างแห่งเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครค้นพบ  คนซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานหายไปสักคนคงไม่มีอะไรยุ่งยาก  แต่พวกเราจะต้องทำงานหนักต่อไป ช่วยกันค้นหา ออกแบบค้นคว้าเกี่ยวกับจักรวาลและ จิตใจของสิ่งมีชีวิต สร้างพิมพ์เขียวสิ่งมีชีวิตซึ่งมีจิตใจดีงามสมบูรณ์แบบในจักรวาลใหม่  หรือดาวดวงใหม่ ซึ่งปลอดจากโรคร้ายและพวกเขาเหล่านั้นอยู่กันอย่างมีความสุขตลอดกาล มันเป็นงานที่ยากและไม่รู้ว่าจะทำได้เมื่อไร แต่เวลาไม่ใช่ปัญหาของพวกเรา และอย่างน้อยเราก็ไม่มีใครเป็นโรคร้าย

    ผมปิดหน้าจอจักรวาล  มันเป็นจักรวาลที่ต่ำลงไปจากจักรวาลของเราหลายมิติ  จักรวาลซึ่งความบิดเบี้ยวของกาล-อวกาศ เป็นขอบเขตของการจองจำไร้สภาพที่ไม่มียานพาหนะลำใดทะลุออกมาได้   เป็นสถานที่บรรจุดวงดาวซึ่งเรียกว่าโลกมนุษย์ ผู้คนและสิ่งมีชีวิตในโลกนั้นติดโรคร้ายทั้งหมด ซึ่งไม่ช้าก็เร็วผลของโรคร้ายนั้นก็จะแสดงออกมา

    พวกเขาไม่คิดว่านั่นเป็นโรคชนิดหนึ่ง….ผมคิดในใจ น่าเวทนา....

    “โรคตาย"


    ++++++++

    จบ

    จากคุณ : Psycho man - [ 6 ธ.ค. 49 20:12:38 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom