ความวุ่นวายในการทำงานของกองถ่ายทำละครดูวุ่นวาย เนื่องจากต้องทำงานแข่งกับเวลา ทีมงานกำลังจัดไฟพร้อมกับวางมุมกล้องในฉากที่กำลังถ่ายทำกลางแจ้งภายในสวนสาธารณะกลางใจเมือง มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วบริเวณ พื้นดินถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าเขียวชอุ่ม ทำให้อากาศร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ประดับอยู่กลางท้องฟ้าใสไม่มีเมฆสักก้อนลอยมาปิดบังความเจิดจ้าของมันลดความร้อนแรงลงไป
ยิ่งได้ความชุ่มชื้นจากสระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กันโดยการพัดพาของลมอุ่นๆ โชยเป็นระยะๆ ยิ่งช่วยลดอุณหภูมิลงได้พอสมควร
ใกล้กับจุดถ่ายทำมีร่มคันใหญ่วางเรียงกันสี่คันเพื่อบังแดดที่เล็ดรอดร่มไม้ จัดไว้สำหรับเป็นจุดแต่งตัวของนักแสดง มีราวเหล็กแขวนเสื้อผ้าเรียงรายให้เลือกตามความเหมาะสมกับการแสดงตามบทละคร มีฉากกั้นมิดชิดไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพ
ร่างสูงเพรียวมีน้ำมีนวลเดินออกจากหลังฉากกั้นในชุดเสื้อคอวีคว้านลึกจนเกือบเห็นเนินอกขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นเข้ารูปยาวเหนือเข่าเผยให้เห็นสะโพกกลมกลึง ผมซอยสั้นตามแบบฉบับสาวมั่นใจเน้นให้โครงหน้ารูปไข่ดูมีเสน่ห์ซึ่งถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางสีเข้ม เปลือกตาถูกปัดเพิ่มความเฉี่ยวให้ดวงตาคมสวย ริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกเข้ากับผิวพรรณเนียนละเอียด ทุกอย่างถูกจัดให้เหมาะสมกับบทบาทนางร้ายของเรื่อง
โอเคไหมคะ เสียงสดใสถามความเห็นของคนที่ยืนดูผลงานของตัวเองใกล้ๆ
โอเคจ้ะน้องแพม หุ่นดีหน้าสวยใส่อะไรก็ขึ้น สไตลิสต์สาวประเภทสอง เอ่ยชมนักแสดงดาวรุ่งควบตำแหน่งนางแบบน้องใหม่ของวงการอย่างชื่นชม
ขอบคุณค่ะพี่แซนดี้ นี่ค่ะชุดของฉากที่แล้ว ภคินีส่งเสื้อผ้าในมือให้ เดี๋ยวแพมไปนั่งอ่านหนังสือตรงใต้ต้นไม้ก่อนนะคะ ใกล้สอบแล้วต้องเร่งอ่านกันหน่อย ถ้าถึงเวลาเข้าฉากพี่แซนดี้ช่วยมาตามแพมหน่อยนะคะ
แซนดี้รับปากแข็งขัน ภคินีปลีกตัวมานั่งบนเสื่อที่ถูกปูเอาไว้ใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ห่างจากจุดแต่งตัวมากนัก ร่างเพรียวนั่งเหยียดขาทั้งสองข้าง เอนหลังพิงต้นไม้ หยิบหนังสือเล่มใหญ่ที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ
หญิงสาวเรียนอยู่ชั้นปีที่สามของมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่มีชื่อเสียง กำลังอยู่ในช่วงใกล้สอบปลายภาค จึงพกหนังสือมาอ่านระหว่างทำงาน
ภคินีเพิ่งเข้าวงการบันเทิงมาได้ปีกว่าๆ ด้วยหน้าตาสวยเฉี่ยวกับรูปร่างสะโอดสะอง ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้จัดละครมากมายเพื่อมาสวมบทนางร้ายในบุคลิกเปรี้ยวเฉี่ยวสวยเข็ดฟัน เธอจึงกลายเป็นนางร้ายสุดเซ็กซี่ในสายตาของใครหลายคน
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำลายสมาธิของหญิงสาว มือเรียวประดับด้วยเล็บยาวสวยซึ่งถูกตกแต่งอย่างดีหยิบกระเป๋าสะพาย รื้อๆ ค้นๆ จนเจอต้นเสียง กดรับยกมันขึ้นแนบหู กรอกเสียงทักทายกลับไป
ฮัลโหล
เฮ้ยเจ้าแพม ทำงานอยู่หรือเปล่า
ถ้าทำอยู่จะมารับโทรศัพท์ได้ยังไงล่ะเจ้าคะ ประชดน้อยๆ กลับไป ส่ายหน้าอย่างระอากับคำทักทายของเพื่อนสนิท
ก็ถามเป็นพิธีไปอย่างนั้นแหละ ทำมาเจ้าคะเจ้าขา เป็นกุลสตรีไทยแต่โบราณหรือไง เจนจิราบีบเสียงเล็กเสียงน้อย จนคนฟังหัวเราะออกมาเบาๆ
มีอะไรเจน ถึงได้โทรมาซะเช้าขนาดนี้ ปกติยังไม่ตื่นนี่ สิบโมงเป็นเวลาเช้าเกินไปสำหรับคนนอนกินบ้านกินเมืองอย่างเพื่อนสาว
ตื่นเพราะมีคนโทรมาปลุกน่ะสิ ฉันเลยต้องโทรมาหาเธออีกที
หือ มีอะไรหรือเปล่า ลองเพื่อนโทรมาอย่างนี้คงมีเรื่องอยากจะคุยด้วย จึงปิดหนังสือที่วางอยู่บนตักลง งานนี้อาจจะได้เม้าท์กันยาว
อ่านข่าวเมื่อเช้าแล้วหรือยังล่ะ เรื่องแพมกับทิมพระเอกละครที่แกกำลังเล่นอยู่ตอนนี้ ลงว่าแกกับทิมออกเดทกันที่ห้างฯเมื่อวันก่อน แถมมีคำว่า กะหนุงกะหนิง ต่อท้ายด้วยนะ คราวนี้เพื่อนๆ เลยอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่า แพมก็รู้ว่าพวกมันปลื้มทิมจะตายกลัวว่าเธอจะไปฉกเขามาครอง เลยเกิดการกระหน่ำโทรมาฉันเพราะว่าแพมไม่รับโทรศัพท์ เจนจิราจีบปากจีบคออธิบายเสียละเอียดยิบ
อ่านตั้งแต่เช้าแล้ว มาถึงกองก็มีคนเอามาให้ดู จะบอกอะไรให้ไอ้ที่เห็นน่ะมันก็แค่ข่าว วันนั้นฉันไปถ่ายละครกับทิมเขา ตอนนั้นเข้าฉากกันอยู่สองคน เลยชวนกันเดินเล่น คงมีคนเห็นเลยเอาไปเขียน ก็ดีโปรโมทละครไปในตัว ภคินีไม่ใส่ใจเท่าไรนัก
ทำงานมาสักพักเริ่มเข้าใจว่าเรื่องข่าวกับดาราเป็นของคู่กัน แล้วตอนนี้ก็มีหลายคนต้องการจับคู่ให้เธอกับทิมพระเอกเจ้าเสน่ห์ เพราะนางเอกของเรื่องเพิ่งแต่งงานไปเรียบร้อย คงไม่มีใครกล้าเขียนข่าวด้านไม่ดีเท่าไร แจ็คพ็อตเลยมาตกอยู่กับเธอ
ฉันก็รู้ว่าแพมไม่ได้กิ๊กกับทิมหรอก ไอ้ที่โทรมาก็จะถามว่าพี่วิทย์ของแกเขารู้เรื่องนี้หรือยัง เจนจิราเอ่ยชื่อไววิทย์...ผู้ชายคนสำคัญของภคินี
...หนุ่มนอกวงการที่คว้าหัวใจนางร้ายแสนสวยคนนี้ไปได้...
ใบหน้าขาวสะอาดภายใต้แว่นกรอบทองเสริมให้ผู้ชายสบายๆ คนนี้ดูสุขุมเยือกเย็น ซ่อนดวงตาคมกริบราวกับใบมีดโกนเอาไว้ จมูกโด่งรับกับปากหยักบางที่มีรอยยิ้มแตะแต้มอยู่เสมอ ลอยเข้ามาในความรู้สึกนึกคิดของภคินี
พยายามจินตนาการว่าถ้าไววิทย์เห็นข่าวของเธอจะทำหน้าอย่างไร พยายามคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่าตนแบบเขาน่ะหรือจะทำหน้าไม่พอใจหรือโวยวายตอนเห็นมัน ที่ผ่านมามีอยู่ปฏิกิริยาเดียวคือ รอยยิ้มบางๆ กับคำพูดธรรมดา
ไม่เป็นไรหรอก พี่รู้ว่าเป็นแค่ข่าว พี่ไว้ใจแพมนะ อย่ากังวลไปเลย พูดออกมาพร้อมกับดันแว่นนิดๆ แต่ที่เธอไม่เคยเห็นคือดวงตาของเขายามพูดซึ่งมักจะหรุบต่ำลง บวกกับแสงจากภายนอกสะท้อนกับเลนส์แว่นยากต่อการมองเห็นของเธอ
ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ได้โทรคุยกันเลย แต่ถึงรู้พี่วิทย์เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก รายนั้นเคยหึงซะที่ไหน
ความจริงเป็นเรื่องดีที่เขาไม่หึงหวงอย่างไร้เหตุผล การทำงานในวงการบันเทิง ต้องพบเจอผู้คนมากมาย แถมไม่ว่าจะทำอะไรต้องอยู่ภายใต้สายตาของสื่อมวลชน ถ้ามัวแต่หึงหวงคงมีปัญหาให้ปวดหัว เสียเวลาทะเลาะกันเปล่าๆ
ทว่าตอนนี้ปัญหาอีกอย่างสำหรับภคินีคือ ไอ้อาการไม่หึงไม่หวง ไม่โกรธอะไรเลยตั้งแต่คบกันมา เป็นเรื่องน่าห่วง พยายามคิดในแง่ดีว่าเขาไว้ใจ แต่ใจผู้หญิงทุกคนก็ต้องการให้คนรักหึงบ้างนิดๆ หน่อยๆ แสดงว่ายังหวงยังรัก
แต่ชายหนุ่มกลับไม่เคยแสดงออกอะไรเลย จึงเริ่มไม่แน่ใจว่ายังสนใจกันอยู่หรือเปล่า พอไววิทย์เป็นอย่างนี้พลอยทำให้เธอไม่กล้าหึงเขาไปด้วย ทั้งๆ ที่ในใจโมโหทุกครั้งยามมีผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ชายหนุ่ม แต่ไม่กล้าโวยวายออกมา กลัวโดนสวนกลับว่าไม่เชื่อใจเหมือนอย่างที่เขาทำกับเธอ
ฉันก็ว่าอย่างนั้น คบมาเกือบสองปียังไม่เคยเห็นแพมเล่าให้ฟังเลยว่าพี่วิทย์หึง จนผิดปกติ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอแพม เจนจิราถามความคิดของเพื่อน
ทำไมจะไม่รู้สึกล่ะ ถึงจะบอกว่าไว้ใจ แต่พี่วิทย์เล่นไม่โกรธไม่โมโหเลย ฉันก็กลัวพี่เขาไม่สนใจฉันน่ะสิ หรือไม่ก็ไม่รักเลยไม่หวง ปลายประโยคเสียงอ่อยลง
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก คิดมากน่า พี่วิทย์รักแพมเหมือนเดิมแหละ คอยดูแลเทคแคร์จนน่าอิจฉา แต่ฉันอยากเห็นเขาหวงแพมชะมัด...คงสนุกดี เจนจิราออกความเห็น ซึ่งตรงกับความคิดของภคินี ขนาดเธอแต่งตัวเซ็กซี่ เปิดนิดเปิดหน่อยตามบทบาท เขายังไม่ว่าอะไรสักนิด
พี่ไม่ได้ดูละครมานานแล้วแพม เลยไม่รู้ว่าแพมแต่งตัวแบบไหน แต่ถึงเห็นพี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก คิดว่ามันคงไม่น่าเกลียดมาก พี่เชื่อว่าแพมคงดูแลตัวเองได้ในข้อนี้ ทั้งน้ำเสียงทั้งคำพูด บ่งบอกถึงความไว้วางใจในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นการหวังจะได้เห็นอาการแปลกของเขาคงยาก
ลองดูไหมล่ะ แกล้งนิดๆ หน่อยๆ เผื่อพี่วิทย์จะเผยไต๋ออกมา คนเรามันต้องมีความรู้สึกอย่างนั้นกันบ้าง เจนจิราเริ่มเห็นเป็นเรื่องสนุก
ไม่ดีหรอกมั้ง ปฏิเสธเสียงเบา แต่ในใจเอนเอียนไปกับความคิดของเพื่อนไปเรียบร้อยแล้ว
ดีจะตาย นิดๆ หน่อยๆ เพิ่มรสชาติให้ชีวิต เดี๋ยวฉันช่วยคิด อีกฝ่ายไม่สนใจคำโต้แย้งอะไรทั้งนั้น
แต่ฉันว่าทำยังไงคนอย่างพี่วิทย์ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรหรอก มั่นใจเลยว่าแผนของเพื่อนต้องล้มเหลว
ไม่มีก็ไม่เป็นไร จะได้รู้ไว้ว่าเป็นธรรมชาติของพี่วิทย์จริงๆ ต่อไปจะได้ไม่เดือดร้อน เจนจิราไม่สนใจ ยังคงออกไอเดียบรรเจิดต่อไป
ภคินีเห็นว่าไม่มีอะไรเสียหาย วิธีของเพื่อนไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อน...ไม่เข้าตัว...ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงเออออรับคำไป เริ่มสนใจขึ้นมาทีละน้อยๆ
...แต่อย่างว่า อย่างพี่วิทย์ไม่มีทางหึงหรือหวงเธอเด็ดขาด!...
(มีต่อ)
จากคุณ :
ปุณณัตถ์
- [
7 ธ.ค. 49 01:23:27
]