...ในความมืดสลัวรัวรางนั้นรันรู้สึกว่าตัวเองล่องลอยคล้ายอยู่ในความฝัน พื้นเบื้องล่างนุ่มราวกับเดินย่ำอยู่บนปุยนุ่น ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มถูกประดับด้วยดาวระยับตา ผู้คนต่างอยู่ในอาการหลับใหลแล้วใยเธอออกมาเดินอย่างไร้จุดหมาย ณ สถานที่อันไม่ชินตาแห่งนี้ หญิงสาวพยายามทบทวนความทรงจำ
โอ๊ย เธอร้องในขณะ ที่ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นประกบที่หัวเหมือนต้องการจะหยุดความคิดที่แล่นแปล๊บอยู่ข้างใน พลันมวลแสงสีฟ้าก็ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าส่องประกายแลบแปลบปลาบดึงความสนใจและตรึงเธอไว้กับที่ ลำแสงสีฟ้านั้นค่อยๆ ใหญ่และสว่างขึ้น หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงเหมือนมีคนตีกลองอยู่ในอกเป็นจังหวะ เร็วและรัวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแสงเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ถูกแวดล้อมด้วยแสงสีฟ้าและเปล่งรัศมีสีขาวก็ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
ผู้มาเยือนแย้มยิ้มให้ก่อนเป็นการทักทาย รันกระดกมุมปากบางนั้นเล็กน้อยเพื่อรักษามารยาท
คุณเป็นใครกัน ? หญิงสาวจ้องตาเขาอย่างคาดคั้น เจ้าของร่างสีฟ้าพ่นลมหายใจออกมาแทนคำตอบ ไม่นึกว่านี่จะเป็นคำทักทายแรกของผู้หญิงตรงหน้า เขาหลบสายตาจากดวงตากลมคู่นั้นอย่างอ่อนใจ
เอาเถอะคุณจะเป็นใครก็ช่าง แต่ที่นี่มันที่ไหน แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คิ้วคู่เรียวขมวดเข้าหากันแสดงความขุ่นมัวของอารมณ์ ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาเจอกับอะไรที่หาคำตอบไม่ได้แบบนี้
บางทีสิ่งที่คุณอยากรู้ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับ... เขาหยุดน้ำเสียงเศร้านั้น แต่แสงสีฟ้ารอบตัวกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น และจางไปในพริบตา เมื่อเขาปรับความอารมณ์ของตัวเองได้
รัน คุณเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ไหม ? น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขานั้นฟังดูสดใสขึ้น
คุณรู้จักชื่อฉัน ? เธอถามอย่างสงสัย เขาพยักหน้ารับ
คุณกำลังจะบอกว่าทั้งหมดนี้เกิดจากปาฏิหาริย์อย่างนั้นเหรอ ?
ถ้าไม่ใช่แล้วคุณคิดว่าเพราะอะไรล่ะ ? ชายหนุ่มย้อนถามบ้าง จมูกโด่งเป็นสันเชิดขึ้นอย่างผู้มีชัย แต่ดวงตาคู่เรียวนั้นตรงข้ามกลับดูอบอุ่นเหลือเกิน แวบหนึ่งที่รันรู้สึกว่าคุ้นเคยกับแววตานี้อย่างประหลาด
ฉันก็ไม่รู้หรอก ฉันไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
แต่ผมอยากให้รันรู้ว่า ผมไม่เคยอยู่ไกลจากคุณเลย แต่คุณเองต่างหากที่ไม่เคยมองเห็นผม น้ำเสียงที่เจือความน้อยใจนั้นทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกผิด และพยายามทบทวนว่าเคยรู้จักกับผู้ชายตรงหน้านี้เมื่อไหร่ แต่ก็ไม่เป็นผล
ช่างมันเถอะ เขาห้ามความคิดของรันอย่างรู้ทัน
ขอโทษนะฉันนึกไม่ออกจริงๆ เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสำคัญกับใครขนาดนั้น
คุณจะมองเห็นคนอื่นได้ยังไงในเมื่อสายตาคุณไม่เคยมองคนอื่นนอกจากเขา
คุณรู้ ? รันเอียงคอถามไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องที่เธอแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยอยู่ตั้งแต่ปีหนึ่ง
ผมก็ไม่ต่างอะไรจากรันหรอก
นี่คุณ
ใช่ ผมชอบคุณ สายตาทั้งคู่สบกันอย่างไม่ตั้งใจ และก็เป็นเจ้าของร่างสีฟ้าที่เป็นฝ่ายหันไปมองทางอื่น
ก่อน เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มกับตัวเองผ่อนลมหายใจออกมาเหมือนรู้สึกโล่งอกที่ได้บอกกับหญิงสาวตรงหน้าแบบนี้
ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่ามันอาจจะสายเกินไป
นานแค่ไหน ดวงตาคู่โตนั้นหันไปสบตาเขาอีกครั้งเหมือนจะค้นหาความจริงบางอย่าง
นานเท่ากับที่คุณมองเขานั่นล่ะ
ทำไมฉันไม่เคยรู้เลย คุณเป็นใครกันแน่ วิญญาณ ? หรือมนุษย์ต่างดาว ? ...บ้า จะเป็นไปได้ยังไง ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ รันส่ายหน้าให้กับความคิดของตัวเอง
อย่าสนใจเลยว่าผมเป็นใคร รู้แค่ว่าผมมีความสุขมากเหลือเกินที่ได้อยู่ใกล้ๆคุณแบบนี้ ...แต่มันคงไม่นานแล้วล่ะ เวลาของเรา... ไม่ใช่สิเวลาของผมกำลังจะหมดแล้ว น้ำเสียงของชายหนุ่มเรียบๆ แต่ประโยคสุดท้ายมันบาดลึกลงในความรู้สึกของทั้งคู่ จนเจ็บแปลบที่หัวใจ แม้สายลมอ่อนๆ พัดมาเพียงแผ่วเบา กลับทำให้ทั้งคู่รู้สึกเย็นเยียบไปถึงข้างในกับสัมผัสแห่งความเย็นนั้น ดาวดวงหนึ่งตกลงมาจากฟ้าเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่าอะไรบางอย่างกำลังจะสิ้นสุดลง
ทำไมล่ะคุณจะไปไหน ? ริมฝีปากหยักได้รูปนั้นกระชากเสียงถามด้วยความรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก เพราะแม้เพิ่งพบกัน แต่เธอเหมือนผูกพันกับเขามานาน
ก็ไปในที่ที่ผมควรจะไปน่ะสิ
บ้านคุณเหรอ ?
คงอย่างนั้นล่ะมัง
ที่ไหนล่ะ ? รันยังไม่เลิกสงสัย
ไม่รู้สิ อาจเป็นดาวสีฟ้าก็ได้ ชายหนุ่มในแสงสีฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้า
ถ้าอย่างนั้นฉันจะเรียกคุณว่าเจ้าชายสีฟ้าแล้วกัน เพราะนอกจากคุณจะมีแสงสีฟ้ารอบๆ ตัวแล้ว คุณยังอบอุ่นอยู่ใกล้แล้วรู้สึกสบายใจเหมือนกับสีฟ้าที่ฉันชอบ รอยยิ้มจางๆ แต่ดูสดใสบนใบหน้าของเธอนี่เองที่ทำให้ชายหนุ่มอดหลงรักไม่ได้
ผมดีใจนะที่คุณรู้สึกแบบนั้น เจ้าของร่างสีฟ้าเอื้อมมือมากุมมือรันไว้ หญิงสาวหันไปมองและยิ้มให้ต่างคนต่างมองกันอยู่อย่างนั้นเหมือนเวลาหยุดลงและโลกทั้งโลกหยุดหมุน
หลับตาสิผมมีอะไรจะให้คุณ เสียงของเจ้าชายสีฟ้าทำลายความเงียบเมื่อครู่ รันทำตามอย่างว่าง่าย เพียงอึดใจเธอก็รับรู้ด้วยสัมผัสว่าชายหนุ่มกำลังสวมสร้อยคอให้ และเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นมีว่าแหวนเงินเกลี้ยงถูกร้อยอยู่กับสร้อยเงินเส้นบาง แทนที่จะรู้สึกดีใจมากกว่านี้ ของทั้งสองสิ่งกลับทำให้หญิงสาวหวั่นใจอย่างประหลาด พลันแสงสีขาวก็สว่างจ้าขึ้นตรงหน้า ทำให้ทั้งคู่ต้องยกมือขึ้นเพื่อผ่อนความแรงของแสง
หมดเวลาของเจ้าแล้ว ข้าเห็นแก่พลังแห่งความรักของเจ้าถึงได้ให้เวลาทั้งที่มันผิดกฎ เสียงแหลมเล็กแต่มีอำนาจนั้นดังขึ้น เขาคว้าแขนรันวิ่งตรงไปที่แสงนั้น
เสียงใครกัน ? รันหันรีหันขวางมองหาเจ้าของเสียงนิรนาม
ไปเถอะได้เวลาแล้ว
ไปไหน แล้วคุณล่ะ ?
คุณต้องกลับไปหาคนที่รอคุณอยู่ ส่วนผมก็ต้องไปตามชะตาของผม ถึงจะสายเกินไปผมก็ดีใจที่ได้บอกความรู้สึกกับคุณ
ฉันไม่เข้าใจ อะไรคือสายเกินไป ? เธอยิ่งสงสัยมากขึ้น
ชายหนุ่มไม่ตอบ ก่อนที่จะหายเข้าไปในแสงสีขาวทั้งคู่สบตากันนิ่งนาน เจ้าชายสีฟ้าดึงรันเข้าไปกอดรู้ดี
ว่านี่เป็นสัมผัสสุดท้ายที่เขาคงไม่มีวันลืม น้ำใสไหลจากตารันอย่างไม่รู้ตัว มันซึมลงที่บ่าเหมือนกับที่เขากำลังซึมซับความรู้สึกขณะนี้ไว้ให้แผ่ซ่านและฝังลึกในหัวใจ ทั้งคู่หมุนเคว้งอยู่ในแสงสว่าง ท่ามกลางแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทุกอย่างได้ดับวูบลง
จากคุณ :
zayonara
- [
7 ธ.ค. 49 17:56:26
A:124.120.183.86 X: TicketID:133575
]