ลิงก์ตอนเก่าของบท 4 จ้ะ
นิทานดอยนรก 4-1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4877517/W4877517.html
นิทานดอยนรก 4-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4884691/W4884691.html
นิทานดอยนรก 4-3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4894731/W4894731.html
นิทานดอยนรก 4-4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4903902/W4903902.html
นิทานดอยนรก 4-5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4909903/W4909903.html
นิทานดอยนรก 4-6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4918676/W4918676.html
นิทานดอยนรก 4-7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4927983/W4927983.html
นิทานดอยนรก 4-8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4935658/W4935658.html
นิทายดอยนรก 4-9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4941238/W4941238.html
-----------------------------------------------------------
ส่วนอันนี้เป็นเรื่องย่อสำหรับคุณเลขาวศะมนต์เผื่อมาอ่านจะได้รู้เรื่องนะจ้ะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า ยิ้มแย้ม ธฤติ กับสุพัตเนี่ย เป็นเพื่อนรักกัน ตอนเด็กได้สาบานไว้ในสวนบ๊วย ว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนวันตาย ต่างคนก็ต่างไปเรียนวิชากับอาจารย์ของตน ครั้นวิชาแก่กล้า ธฤติก็มาที่ดอยนรกเพื่อหาเหล็กไหล ก็มาได้กะนางเอกชื่อน้อบเบ้อ สุดท้ายก็อยู่กินกันในดอยนรกและได้เป็นจ้าวป่าด้วยนะ แต่บังเอิ๊ญ โอล่ะพ่อ เจ้าสุพัตก็อยากได้เหล็กไหลเช่นกัน เพราะพอดีอาจารย์ของสุพัตเขารู้จักกันดีกับราชวงศ์องค์ฮ่องเต้ในแผ่นดินใหญ่ อาจารย์เลยวานสุพัตไปเข้าเฝ้า ฮ่องเต้พระราชทานยศศักดิ์และพลไพร่ให้ มีรับสังให้ไปดอยนรกเพื่อหาเหล็กไหล สุพัตเลยยกทัพไปยึดดอยนรกน่ะสิ แถมได้เมียพระเอกไว้เป็นตัวประกันอีกแน่ะ ไม่สนด้วยว่าเคยสาบานกับเพื่อนรักอย่างไรไว้ หักหาญกันป่นปี้ ( ร้ายจริง ๆ ทำเอาแฟน ๆ อกหักกันไปตาม ๆ กัน ฮี่ ๆ ) ส่วนยิ้มแย้มเนี่ยได้ไปฝึกวิชาตำรามนต์กับพระฤาษี ครั้นรู้ว่าเพื่อนรักเข่นฆ่ากันก็คิดจะไปห้ามน่ะจ้ะ เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แล แต่ผมแต่งเป็นกลอนยาว ๆ ยาวมาก จนนี่ผมกับคนอ่านอยู่กันจนจะพ้นปีเรื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ ^^
ถ้าเจ้าประจำได้มาอ่านอย่าเคืองกันเลยนะครับว่า แหม เรื่องแค่นี้มันแต่งอะไรให้เราอ่านตั้งยาวฟระ ฮ่า ๆ ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า เราทำอะไรลงไปนะนี่ บ้าจริง ๆ
-----------------------------------------------------------
- ตอน ยิ้มแย้มพบธฤติ
-----------------------------------------------------------
จะกล่าวถึง ธฤติ วิเศษเลิศ
หลังเหตุเกิด เข้าป่า พนาสัณฑ์
รวบรวมพล คนดอย ได้หนึ่งพัน
ประชุมกัน จะบุกเข้า เอาเมืองคืน
ติดแต่นาง น้อบเบ้อ เธออยู่นั่น
จะรุกรบ โรมรัน ตะบันฝืน
ก็กลัวนาง วางวาย เสียเต็มกลืน
ทั้งชาวดอย ดาษดื่น จะเดือดร้อน
เจ๊กมันมี มากมาย หลายเท่านัก
คงขังกัก หญิงแก่ แม่ลูกอ่อน
ทั้งเด็กน้อย อนาถา อนาทร
คงโดนต้อน หาเหล็ก ให้เจ๊กไป
คิดไตร่ตรอง ขัดสน แสนจนจิต
จะพิชิต ปลิดมัน อย่างไรไหว
มืดแปดทิศ ติดขัด อึดอัดใจ
ร่ำร้องไห้ รำพัน ทั้งพันคน
...........................................
ธฤติ ปลอบใจ อย่าไหวหวั่น
ถ้าช่วยกัน ข้าเห็น คงเป็นผล
ถ้าหากเรา วางแผน แสนแยบยล
คงไม่แพ้ อีกหน จำนนใคร
พวกเจ๊กเหมือน กวางน้อย ที่ด้อยฤทธิ์
เราดั่งสิงห์ น้อยนิด ก็ปลิดได้
ขอเวลา สักนิด คิดชิงชัย
คงได้แผน ดั่งใจ ไม่พลาดพลั้ง
ชาวป่าฟัง หวังพึ่ง ก็พึงจิต
ธฤติ คิดคิด ก็แทบคลั่ง
กลัวน้อบเบ้อ เธอม้วย มรณัง
คิดหน้าหลัง แสนห่วง แม่ดวงใจ
...........................................
จะกล่าวถึง ยิ้มแย้ม ยิ่งยืนยง
เห็นป่าดง ตรงหน้า ล้าสมัย
เป็นเทือกเขา ซ้อนทับ สลับไป
ก็รู้ใน ทันใด ไม่ลีลา
จับตาสาม ตามไป ในฟ้ากว้าง
ก็เห็นทาง ทันใด ไม่กังขา
เห็นเป็นเมือง เหมืองเหล็ก ในพนา
เจ้าสุพัต เพื่อนยา อยู่แห่งนั้น
อีกทางหนึ่ง หนึ่งพัน นักรบกล้า
นั่นเพื่อนข้า ธฤติ มิเคยหวั่น
จะนำพล คนป่า เข้าฝ่าฟัน
เราจะไป ห้ามมัน ให้ทันเอย
............................................
ธฤติ กลัวกล้า ว้าวุ่นนัก
กลัวเมียรัก ตักษัย จริงจริงเหวย
แสนอึดอัด ขัดใจ ไม่เสบย
คิดถึงแม่ ทรามเชย เลยวุ่นวาย
............................................
บัดนั้น
ฮูแซ่ ชาวป่า กล้าเหลือหลาย
เดินเข้ามา บอกข่าว แก่เจ้านาย
มีชาย ผู้หนึ่ง จะขอพบ
............................................
ให้เขาเข้ามา
เอ๊ะใครหวา มาหา ช่างน่าตบ
กูกำลัง วางแปลน แผนการรบ
ให้เจ๊กกลาย เป็นศพ ดาษดา
.............................................
เอ๊ะวางแผน การรบ หรือการรัก
จะหาญหัก เพื่อนรัก ก็หนักหนา
ห่วงแต่เมีย กลัวละเหี่ย เสียน้ำตา
เจ้ายิ้มแย้ม เข้ามา ก็แกล้งแซว
.............................................
เมื่อนั้น
ธฤติ คิดไป ไม่หูแว่ว
กูได้ยิน ยิ้มแย้ม ชัดแจ๋วแหนว
ใช่เพื่อนกู แน่แล้ว ไม่แคล้วกัน
พิศพิศเห็น เป็นเพื่อน วิ่งเข้าใส่
กอดประคอง ร้องไห้ ไม่คาดฝัน
ยิ้มแย้มบอก กูมา อย่าจาบัลย์
เรื่องพวกมึJ กูนั้น ก็รู้ดี
ป้ารำพัน จันทรา ได้ฝันร้าย
จึงดั้นไป ทำนาย กับฤาษี
ไหนเล่าเรื่อง เคืองใจ ให้ฟังที
ไยเข่นฆ่า ราวี ด้วยเพื่อนกัน
.........................................
ธฤติ เล่าเรื่อง ที่เคืองขัด
ไอ้สุพัต มันระยัม ทำเย้ยหยัน
แค้นหนอแค้น แค้นใจ ไม่เว้นวัน
อยากจะฆ่า ฆ่ามัน ไอ้จันญ์ไร
..........................................
ดับเอ๋ยดับโกรธ
ไม่ปรานโปรด โกรธขึ้ง ซึ่งสิ่งไหน
อย่าได้ใช้ กำลัง เมื่อคลั่งใจ
กูจะช่วย แก้ไข นะเพื่อนยา
เราทั้งสาม เพื่อนกัน แต่ยังเล็ก
ครั้งยังเด็ก เคยหัก กันหนักหนา
มันก็บอก ทะเลาะกัน นั้นธรรมดา
อย่าถือสา เลยนะ จะร้อนรน
กูจะไป หามัน ในเมืองเหมือง
ลองกล่อมกล่าว ราวเรื่อง ให้เป็นผล
จะได้เลิก ขัดข้อง ทั้งสองคน
ทั้งฝูงชน ก็ไม่ ม้วยชีวา
................................................
เป็นไปไม่ได้
ไอ้สุพัต อยากใหญ่ เป็นหนักหนา
มึJไปยื้อ หรือจะรอด กลับมา
ไม่เข้าท่า อย่าไป เลยเพื่อนรัก
กูเป็นห่วง ห่วงมึJ จึงต้องห้าม
ไอ้สุพัต บุ่มบ่าม ลามปากหนัก
จงกลับไป อโยธยา ผ่อนพัก
มิรู้จัก ฤทธิ์มัน จะบรรลัย
.............................................
ถ้าเป็นไปได้
ทำสัญญา กันไว้ จะได้ไหม
ว่าพวกเรา ทั้งสาม จะตามไป
คลาไคล คืนสู่ อโยธยา
.............................................
ถ้าเป็นไปได้
จะยอมตาม กันไป ไม่ถือสา
กลัวแต่มึJ กล่อมเกลี้ย เสียเวลา
จนอยากฆ่า ไอ้เพื่อน เหมือนกับกู
.............................................
ใจเย็นก่อน
อย่าใจร้อน ตอนนั้น คงรู้อยู่
แม้นชีวิต ปลิดปลง คงลองดู
ดีกว่าสู้ ห้ำหั่น จนบรรลัย
ว่าแล้วลา เพื่อนยา เข้าป่ากว้าง
ตาสามดู รู้ทาง ไม่สงสัย
จนถึงเมือง เหมืองเหล็ก ในพงไพร
เห็นเจ๊กเดิน ขวักไขว่ ในตำบล
(โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ)
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 49 17:21:09
จากคุณ :
ย.ยิ้มแย้ม
- [
9 ธ.ค. 49 15:48:15
]