ความคิดเห็นที่ 1
หลังจากนั้นเฉินเฟิงก็ก่นด่าโคตรเหง้าสักหลาดสิบแปดรุ่นของบรรดาเถ้าแก่ในบริษัทเลจจ์ออนไลน์ (Layge online Inc.) ในใจ ค่าธรรมเนียมในการลงทะเบียนยืนยันสถานะดันแพงมหาโหดโคตรๆ นอกจากจะหักแต้มสะสมในการฝากเงินของเขาไป ๑๐๐ จุดแล้ว ยังจะหักเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในเกมครึ่งหนึ่ง
ตั้งครึ่งเชียวนะ ! ไม่ว่าใครก็คงอด สรรเสริญโคตรเหง้า ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
แต่เฉินเฟิงก็ไม่โง่ เขาถามจนแน่ใจว่าชุดเกราะเครื่องป้องกันและไอเท็มทั้งหลายแหล่จะไม่ถูกหักลดไปด้วย แล้ววิ่งกลับไปที่ร้านขายไอเท็มอีกครั้งทำการช้อปปิ้งอย่างมโหฬาร ของที่ใช้แล้วหมดได้ทุกอย่าง เฉินเฟิงกว้านซื้อไว้หมด ถึงยังไงหากจะให้ถูกหักไปฟรีๆ ละก็ ขอเอามันไปซื้อของยังจะได้ประโยชน์เสียกว่า
ยาฟื้นพลังเป็นของใช้แล้วหมดได้ที่สิ้นเปลืองที่สุด ดังนั้นแค่เจ้านี่ชนิดเดียว ในคลังเก็บไอเท็มก็มียาฟื้นพลังระดับต่ำสุมอยู่ ๒๐๐ กว่าขวด (ขวดละ ๓๐ เหรียญเงิน) นอกนั้นก็มีลูกดอกของหน้าไม้เหล็กกล้า ๑๐๐,๐๐๐ ดอก (๑๐๐ ดอก ๒ เหรียญเงิน) ม้วนคาถากลับบ้าน ๑๕ ม้วน (ม้วนละ ๓๕๐ เหรียญเงิน) ม้วนคาถาปลดผนึก ๒๐๐ ม้วน (ม้วนละ ๑๐ เหรียญเงิน) กับดัก ๒๐ อัน (อันละ ๒๐๐ เหรียญเงิน) เนื่องจากจำนวนที่ซื้อต่างเกินจากที่กำหนด แฟนนี่จึงลดให้เขา ๕% สุดท้ายสมบัติทั้งหมดเหลือแค่ ๓,๐๐๐ เหรียญเงิน
แค่ซื้อของพวกนี้ เฉินเฟิงก็วิ่งรอกไปๆ มาๆ ระหว่างคลังเก็บไอเท็มและร้านขายไอเท็มหลายสิบรอบจนขาแทบหัก เพราะเป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้ดันมีของพิลึกกึกกือยัดเต็มอยู่ก่อนแล้ว ทำให้พื้นที่ว่างที่เหลือมีแค่ไม่ถึง ๕๐๐ ช่อง
แต่ยังถือว่าเฉินเฟิงโชคดี เพราะถ้าไม่มีเป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้ใบนี้ ผู้เล่นทั่วไปจะมีแค่กระเป๋าคาดเอวที่ทางอาคารเริ่มต้นมอบให้ซึ่งจุได้แค่ ๕๐ ช่องกับอีกสองมือเท่านั้น และถ้าเป็นแบบนั้น เขามีหวังต้องวิ่งเป็นร้อยรอบแน่
เงินที่เหลือ ๓,๐๐๐ เหรียญสุดท้าย หักไปเสียครึ่งก็เหลือ ๑,๕๐๐ เหรียญ คิดแล้วก็ยังอดเจ็บหัวใจไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรดีแล้ว ไอเท็มที่ตอนนี้ หรือกระทั่งกล่าวได้ว่าในอนาคตอีกยาวนานช่วงใหญ่ข้างหน้าที่เขาพอจะมีโอกาสได้ใช้ มากพอที่เขาไม่จำเป็นต้องซื้อไอเท็มที่ใช้แล้วหมดได้ชนิดอื่นอีกแล้ว
ทันใดนั้นได้ยินเสียงผู้เล่นคนหนึ่งร้องตะโกนขายของที่ข้างคลังเก็บไอเท็มว่า ขายม้าสำหรับขี่ ม้าลมกรดระดับ ๒๐ ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ขายเพียง ๒,๕๐๐ เหรียญเงินคร้าบบบบ ! ลดสะบั้นหั่นแหลก มีแค่ตัวเดียวเท่านั้น พลาดแล้วพลาดเลยไม่มีแบบนี้อีกแล้วนะ !
เฉินเฟิงจำได้ว่าแอนนี่เคยบอกไว้ว่า ในเกาะเริ่มต้นไม่มีโรงรับฝากสัตว์เลี้ยง หลังจากนั้นตอนที่เขาได้ดูแผนที่ ก็ไม่เห็นโรงรับฝากสัตว์เลี้ยงบนเกาะเริ่มต้นจริงๆ แล้วทำไมถึงมีคนมาขายสัตว์เลี้ยงอยู่ที่นี่ได้เนี่ย ?
เฉินเฟิงที่วิ่งไปๆ มาๆ จนขาแทบหักย่อมอยากจะได้ม้ามาขี่สักตัว แต่ปัญหาคือ ตอนจะออกจากเกมจะทำยังไงกับม้าดี ? บ้านสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ แต่ต้องงอกเงิน ๑๐,๐๐๐ เหรียญทองออกมาเสียก่อน ซึ่งใช่ว่าจะทำกันได้ในเวลาสั้นๆ
หลังจากลองไปถามฮาร์ทดูแล้ว เฉินเฟิงค่อยทราบว่า ม้าลมกรดชนิดนี้เป็นม้าพาหนะที่นิยมใช้กันทั่วไปของผู้เล่นที่อยู่บนทวีปอื่น ในโรงรับฝากสัตว์เลี้ยงก็มีขาย แต่ที่ขายเป็นม้าระดับ ๑๕ ราคาตัวละ ๕,๐๐๐ เหรียญเงิน ม้าระดับ ๒๐ แถมยังไม่ได้ตั้งชื่อแบบนี้ หากขายในตลาดมืดจะได้ราคาถึง ๑๐,๐๐๐ เหรียญเงิน คนขายลดสะบั้นหั่นแหลกจริงๆ
แต่ก็เป็นดังที่เฉินเฟิงคิด ซื้อมาแล้วก็ไม่มีที่จะเลี้ยง พอเขาออฟไลน์ออกจากเกม มันก็จะกลายเป็นม้าป่าไปในทันที ส่วนเรื่องที่ทำไมถึงมีม้ามาโผล่ที่นี่ มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่ทราบ
หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ เฉินเฟิงก็ตัดสินใจว่าถึงยังไงก็ไม่รู้จะเอาเงินไปใช้ซื้ออะไรดีอยู่แล้ว งั้นเอามาซื้อมาตัวนี้ไว้ขี่แทนเดินเท้าชั่วคราวก็แล้วกัน เพราะหากให้เขาเดินเท้าต่อ เกรงว่าสองขาคงไม่ฟังคำสั่งแหงๆ
เฉินเฟิงเจรจาขอซื้อเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว รับกำไลสัตว์เลี้ยงมาแล้วถามคนขายว่าต้องเลี้ยงยังไงและต้องระวังเรื่องไหนบ้าง แต่คนขายดันไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ได้แต่รอไปถามฮาร์ทแทน
ฮาร์ทบอกโดยไม่มีการอุบไว้ว่า กำไลต้องสวมไว้ที่มือ เป็นไอเท็มถาวรเช่นกัน สัตว์เลี้ยงต้องกินอาหารวันละสองมื้อ อาหารสำหรับสัตว์มีขายในร้านขายไอเท็ม ก็คืออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ก่อนหน้านี้คุณเคยซื้อมานั่นแหละครับ
นอกจากนี้ม้าที่เป็นสัตว์เลี้ยงสามารถใส่อาน รวมถึงแบกถุงสำหรับใส่ของแบบพิเศษ แต่ของพวกนี้ไม่มีขายในเกาะเริ่มต้น ยังมีชุดเกราะสำหรับม้าที่จะช่วยเพิ่มพลังป้องกันให้ม้า แต่ที่เกาะเริ่มต้นไม่มีขายอีกเหมือนกัน
ดูท่าที่ม้าตัวนี้มาโผล่ที่นี่ได้นับว่าไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งจริงๆ แต่ในเมื่อซื้อมาแล้ว คนขายก็ออฟไลน์ไปแล้ว เฉินเฟิงได้แต่เดินจูงม้าไปที่ร้านขายไอเท็ม
มือขวาของเขาสวมนาฬิกาอยู่แล้ว เฉินเฟิงจึงสวมกำไลสัตว์เลี้ยงไว้ที่มือซ้าย พอสวมปุ๊บ ในศีรษะก็มีเสียงจากระบบดังขึ้นทันที ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไข แสดงทักษะพื้นฐานของอัศวินลุล่วง ได้รับทักษะ ขี่ม้า ของอัศวิน ระดับที่ ๑
เฉินเฟิงตะลึง โว้ว ! เกมนี้มันมีกี่อาชีพกันแน่เนี่ย ตอนนี้ที่รวบรวมมาได้ก็มีนักดาบ นักผจญภัย นักรบเทพ พ่อค้า อัศวิน บวกกับที่แฟนนี่ที่ร้านขายไอเท็มเคยบอกไว้ว่ามีหมอยา นักฝึกสัตว์ ช่างฝีมือ นักเขียน นินจา นายพราน ผู้เปิดผนึก พ่อครัว...ฯลฯ แฟนนี่พูดเร็วเกินไป ไอ้เราก็ไม่ได้ตั้งใจฟังซะด้วย แต่ที่แน่ๆ คือมีเยอะมาก ในอาคารเริ่มต้นไม่มีส่วนที่สอนเรื่องอาชีพ แล้วอาชีพมีกี่อย่างกันแน่ และควรจะเลือกอาชีพไหนดี ? ดูท่าต้องหาเวลาแวะไปดูๆ ที่ตึกแนะนำอาชีพซะแล้ว
ในเมื่อได้ทักษะขี่ม้ามาแล้ว อย่างนั้นลองขี่ดูดีกว่า ! โตจนป่านนี้แล้ว เฉินเฟิงยังไม่เคยขี่ม้าเลยสักครั้ง
หลังจากปีนขึ้นหลังม้าอย่างทุลักทุเล ม้าลมกรดก็ไม่ได้แสดงอาการประท้วงแต่อย่างใด เฉินเฟิงดึงบังเหียนเบาๆ ม้าลมกรดก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ ให้เฉินเฟิงได้ลิ้มรสชาติการขี่ม้าเป็นครั้งแรก
ขี่ม้าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เมื่อพบสิ่งกีดขวาง ม้าก็เดินเลี่ยงเองได้ เฉินเฟิงอารมณ์ชื่นมื่นถึงขีดสุด แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรบ้าๆ เพราะเกิดตกม้าขึ้นมา คงไม่สนุกแน่
พอม้าผ่านไปถึงร้านขายไอเท็ม เฉินเฟิงก็รีบรั้งบังเหียนหยุดม้า แล้วใช้เงิน ๕๐๐ เหรียญเงินสุดท้ายที่เหลือซื้ออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงจนหมด อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงราคาห่อละ ๕๐ เหรียญเงิน หนึ่งวันต้องกิน ๒ ห่อ อะไรจะแพงขนาดนี้ ! เฉินเฟิงชักฉุนที่ก่อนหน้านี้แฟนนี่ขายให้เขาตั้ง ๑๐ ห่อ ตั้ง ๕๐๐ เหรียญเงินเชียวนะ ! ถ้าไม่เพราะซื้อม้าตัวนี้ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง ๑๐ ห่อนั้นมิกลายเป็นขยะที่โคตรแพงไปแล้วหรือ ?
แต่แฟนนี่ไม่เสียทีที่เป็นเถ้าแก่ร้าน พูดแค่แป๊บเดียวก็ทำให้เฉินเฟิงหายโกรธได้ แถมก่อนจะไปเฉินเฟิงยังต้องหันไปขอบคุณเธออีกต่างหาก
ตอนหอบอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงเต็มอ้อมแขนออกจากร้านขายไอเท็ม เฉินเฟิงก็คิดขึ้นได้ว่าไม่รู้วันนี้ม้าลดกรดได้กินอาหารแล้วหรือยัง ดังนั้นจึงเหลือไว้ห่อหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็ยัดลงเป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้
เวลานี้เฉินเฟิงรู้สึกว่าชื่อของเป้เขี้ยวเหล็กไหลจัมโบ้ตั้งได้สมตัวมันมากๆ เพราะไม่ว่าจะยัดของอะไรลงไปมันก็กลืนได้หมด พูดถึงชื่อ แล้วจะตั้งชื่อม้าตัวนี้ว่าอะไรดี ?
พอเฉินเฟิงฉีกห่ออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง ม้าลมกรดก็รี่เข้ามากินทันที ดูท่าคงจะทนหิวมานานแล้ว
ในศีรษะมีเสียงจากระบบดังขึ้นว่า ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไข แสดงทักษะพื้นฐานของนักฝึกสัตว์ลุล่วง ได้รับทักษะ สื่อสาร ของนักฝึกสัตว์ ระดับที่ ๑
เฉินเฟิงคิดในใจว่า สื่อสาร ? ให้อาหารสัตว์ทำไมถึงกลายเป็นสื่อสารไปได้หว่า ?
ม้าลมกรดกินอาหารทั้งห่อหมดอย่างรวดเร็ว แต่ดูท่าจะยังไม่อิ่ม จึงเอาศีรษะถูตัวของเฉินเฟิงไปมา เฉินเฟิงร้องว่า ยังไม่พออีกเรอะ ห่อหนึ่ง ๕๐ เหรียญเงินเชียวนะ ฉันกินมื้อหนึ่งแค่ ๒ เหรียญเงินเอง นี่มันคิดจะกินจนฉันล้มละลายชัดๆ !
ม้าลมกรดเอาแต่ส่งเสียง ฟืดฟาด ศีรษะถูไปมาแรงกว่าเดิมเหมือนจะบอกว่า เฉินเฟิงพูดถูกแล้ว ฉันยังอยากกินอีก แค่นี้ไม่พออิ่มจริงๆ นะ !
เฉินเฟิงถูกศีรษะม้าลมกรดถูไปถูมาจนแทบจะยืนไม่อยู่ จึงได้แต่ฉีกอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงให้มันอีกห่อ
เสียงจากระบบดังขึ้นในศีรษะอีกครั้ง ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไขลุล่วง ได้เลื่อนระดับทักษะสื่อสารของนักฝึกสัตว์ เลื่อนเป็นระดับที่ ๒
เฉินเฟิงคิดในใจ เลื่อนระดับอีกแล้ว ? ง่ายแค่นี้เองหรือ ? ป้อนอาหารหนึ่งครั้งก็ได้เลื่อนหนึ่งระดับ แบบนี้ผู้ฝึกสัตว์ไม่ท่วมบ้านท่วมเมืองไปแล้วเรอะ ?
เฉินเฟิงมองม้าลมกรดกินอาหารหมดไปอีกห่ออย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า กินเก่งแบบนี้ ฉันเรียกแกว่า สองกระเพาะ (ซวงเว่ย) แหละดีแล้ว กินแต่ละหนมากกว่าม้าตัวอื่นตั้งสองเท่า ชื่อนี้เหมาะกับแกมากๆ
คิดไม่ถึงว่าม้าลมกรดดูท่าจะไม่พอใจอย่างมาก ไม่แค่ทำเสียง ฟืดฟาด ดังกว่าเดิมหลายเท่า ศีรษะยังส่ายไปมาโดยแรง แสดงเจตนาอย่างชัดเจน
เฉินเฟิงหัวเราะ โห ! ประท้วงเป็นด้วยแฮะ ! กินเก่งแล้วยังไม่ยอมรับอีก สักวันแกต้องกินจนฉันหมดตัวแหงๆ
ม้าลดกรดเคืองยิ่งกว่าเดิม ยกขาหน้าขึ้นประท้วงเป็นการใหญ่ สุดท้ายงับชายเสื้อของเฉินเฟิงกระตุกเอาๆ
เห็นม้าตัวนี้แสนรู้ขนาดนี้ เฉินเฟิงก็อารมณ์ดีอย่างมาก จึงหัวเราะพลางพูดว่า พอแล้ว ! พอแล้ว ! อย่าหงุดหงิดเลยน่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ขนของแกสีขาว ส่วนฉันเองก็ชอบชื่อ ซวงเว่ย (สองกระเพาะ) นี่มาก อย่างนั้นเราถอยกันคนละก้าว เปลี่ยนชื่อเป็น ซวงเว่ย (องครักษ์น้ำค้างแข็ง) เป็นยังไง ?
นึกไม่ถึงว่าม้าลมกรดท่าทางจะเข้าใจคำพูดของเฉินเฟิงจริงๆ พอได้ยินว่าเฉินเฟิงยอมเปลี่ยนชื่อให้ ก็สงบลงทันที
เสียงจากระบบดังขึ้นในศีรษะอีกครั้ง ผู้เล่นเฉินเฟิงปฏิบัติตามเงื่อนไขลุล่วง ได้เลื่อนระดับทักษะสื่อสารของนักฝึกสัตว์ เลื่อนเป็นระดับที่ ๓ สัตว์ที่เลี้ยงจะมีสติปัญญาโดยอัตโนมัติ
เฉินเฟิงตกตะลึง แจ็ค ประหลาดเกินไปแล้ว ! ป้อนอาหารแล้วได้เลื่อนระดับยังพอว่า กระทั่งตั้งชื่อก็ได้เลื่อนระดับด้วยเรอะ ? ชักงงแล้วสิว่าจะเลื่อนระดับต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง หรือเพราะชื่อที่เราตั้งมันเท่มากหว่า ? ชื่อ ซวงเว่ย (องครักษ์น้ำค้างแข็ง) มันก็เท่ไม่เบาจริงๆ เสียด้วย
ทันใดนั้นได้มีเสียงผู้ชายดังมาว่า เจ้านาย คำถามที่ ๑ ป้อนอาหารไม่สามารถเลื่อนระดับได้ คำถามที่ ๒ เงื่อนไขในการเลื่อนระดับมีดังนี้ : ครั้งที่ ๑ การได้รับทักษะ เงื่อนไขที่ต้องการคือ กิริยาอาการที่กระทำทำให้สัตว์เลี้ยงมีปฏิกิริยาตอบรับได้ ซวงเว่ยวิ่งเข้ามากินอาหารที่เจ้านายฉีกห่อ ดังนั้นจึงตรงตามเงื่อนไข
ครั้งที่ ๒ การเลื่อนระดับทักษะ เงื่อนไขที่ต้องการคือ เข้าใจความต้องการของสัตว์เลี้ยง และให้ในสิ่งที่สัตว์เลี้ยงต้องการ เจ้านายเข้าใจความหมายที่ซวงเว่ยสื่อ และให้อาหารซวงเว่ยเพิ่มหนึ่งห่อ ดังนั้นจึงตรงตามเงื่อนไขเช่นกัน
ครั้งที่ ๓ การเลื่อนระดับทักษะ เงื่อนไขที่ต้องการคือ สื่อสารเรื่องใดเรื่องหนึ่งกับสัตว์เลี้ยง และบรรลุความเข้าใจร่วมกัน เมื่อกี้เจ้านายได้พูดคุยกับซวงเว่ยเพื่อจะตั้งชื่อให้ สุดท้ายบรรลุความเข้าใจร่วมกัน ดังนั้นจึงตรงตามเงื่อนไขเช่นกัน
เฉินเฟิงสะดุ้งโหยง อุทานว่า ว้าว ! แกพูดได้ด้วยหรือ ! แกเป็นคนปลอมตัวมา หรือเป็นคอมพิวเตอร์กันเนี่ย ?
จากคุณ :
Linmou
- [
9 ธ.ค. 49 23:58:52
]
|
|
|